พบผู้ใหญ่บ้านขาม ตำบลคลองขาม อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ พลิกผืนนาที่เคยทำนาข้าวเป็นแปลงหญ้าเลี้ยงวัว เผยสาเหตุจากต้นทุนทำนาสูง ราคาขายข้าวเปลือกตกต่ำ ผลผลิตไม่คุ้มทุน จึงปล่อยให้หญ้าขึ้นเองธรรมชาติ เพื่อเป็นอาหารเลี้ยงวัวฝูงขาย รายได้ดีกว่าทำนา ถือเป็นการพลิกวิกฤติเป็นโอกาส และเป็นต้นแบบให้กับลูกบ้าน คนผ่านมาเห็นชื่นชม ถือเป็นการผ่าทางตันในการทำนาและขายข้าวขาดทุนซ้ำซาก

วันที่ 27 มีนาคม 2568 จากการติดตามบรรยากาศการประกอบอาชีพ ของเกษตรชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ ทั้งในพื้นที่ใช้น้ำชลประทานลำปาวและนอกเขตพื้นที่ชลประทาน ลำปาว (เขื่อนลำปาว) โซนอำเภอยางตลาด ที่ส่วนใหญ่ทำนาปรังหรือนาข้าวฤดูแล้ง พบว่ากำลังเจริญเติบโต บางส่วนที่ได้รับน้ำเพียงพอกำลังตั้งท้องได้อายุถอดรวง ขณะที่บางส่วนชะงักการเจริญเติบโต เนื่องจากปุ๋ยเคมีที่ใช้บำรุงต้นข้าวไม่เพียงพอ จากการสอบถามทราบว่าปุ๋ยเคมีราคาแพงถึงละ 1,000 บาท จึงไม่มีเงินทุนเพียงพอที่จะซื้อปุ๋ยเคมี นาข้าวบางแห่งจึงเห็นต้นข้าวเติบโตช้า และมีวัชพืชขึ้นปกคลุมหนาแน่น

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังได้พบนายณัฐวัฒน์ มาตรา อายุ 59 ปี ผู้ใหญ่บ้านขาม หมู่ 15 ต.คลองขาม อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรัง ที่หนีปัญหาต้นทุนการผลิตข้าวสูง และราคาขายข้าวเปลือกตกต่ำ โดยปล่อยทิ้งแปลงนาที่เคยเพาะปลูกข้าวนาปรังให้หญ้าธรรมชาติเกิดขึ้นเอง รอให้หญ้าเจริญเติบโตแล้วใช้เครื่องตัดหญ้าตัดไปให้วัวกิน เป็นการผ่าทางตันปัญหาการทำนาปรัง และสร้างอาชีพใหม่ด้วยการเลี้ยงวัวขุนไว้จำหน่าย ราคาตัวละ 45,000-50,000 บาทขึ้นไป ซึ่งถือว่าได้เงินก้อน รายได้ดีกว่าทำนาปรังหรือประกอบอาชีพอื่น

นายณัฐวัฒน์ มาตรา ผู้ใหญ่บ้านขามกล่าวว่า เนื่องจากการทำนาปลูกข้าวมีปัญหาสะสมมานาน บางฤดูผลผลิตไม่คุ้มทุน ขาดทุนซ้ำซาก บางฤดูได้กำไรน้อย ทำพอได้ข้าวกิน ในครัวเรือน ในส่วนของตนนั้น เพื่อเป็นการตัดปัญหาดังกล่าว เมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว ได้ใช้พื้นที่ที่เคยทำนา 2 ไร่ ทำเป็นนาหญ้าเลี้ยงวัว เริ่มจากปล่อยทิ้งไว้ให้หญ้าเกิดเองตามธรรมชาติ เพื่อเป็นอาหารวัว ปีแรกมี 2 ตัว จากนั้นขยายพันธุ์และเห็นว่าได้กำไรดี ขายวัวแต่ละตัวได้จับเงินหลายหมื่นบาท อีกทั้งยังมีหญ้าบริบูรณ์ จึงซื้อวัวมาเพิ่มหลายตัว ใครมาติดต่อก็ซื้อก็ขาย หมุนเวียนไปตลอดปี ทั้งนี้นาหญ้า 2 ไร่ ตัดหญ้าออกแล้วก็ใส่น้ำใส่ปุ๋ย หญ้าก็เติบโตและแตกกออีก สามารถเลี้ยงวัวทั้งฝูงได้ตลอดปี ปัจจุบันมีวัวที่เลี้ยงขุนไว้ในคอก 12 ตัว

นายณัฐวัฒน์กล่าวอีกว่า ตามที่ตนเปลี่ยนนาข้าวเป็นนาหญ้าเพื่อเป็นอาหารวัว ใครผ่านไปมาก็ชื่นชมและนำไปทำตาม จึงเป็นต้นแบบในการพลิกวิกฤติเป็นโอกาส เปลี่ยนผืนนาเป็นแปลงหญ้าไว้เป็นอาหารเลี้ยงวัวฝูงไว้ขาย โดยจะขายราคาตัวละ 45,000-50,000 บาทขึ้นไปดังกล่าว ซึ่งมีรายได้สูงกว่าปลูกข้าวเป็นอย่างมาก เนื่องจากราคาขาวตกต่ำ กก.ละ 5-8 บาท 2 ไร่ได้ผลผลิตไม่ถึง 5 พันบาท ซึ่งขาดทุน สู้เปลี่ยนแปลงนาเป็นนาหญ้าเลี้ยงวัวไม่ได้ ทำให้ในหมู่บ้านนี้มีชาวบ้านหันมาทำเหมือนตน 2-3 รายแล้ว