กาฬสินธุ์-สตง.ขีดเส้น 180 วัน สอบ “7 ชั่วโคตร” ย้ำพบพิรุธหลายประเด็น ขณะที่ “ฉลาด” ปธ.กมธ.ปปช.ฯ ส่งทนายแจ้งความ

ผช.ปชส.จ.กาฬสินธุ์ พร้อมพวก หมิ่น คดีปราบ ”7 ชั่วโคตร“ ระบุผิดตามมาตรา 157 ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐแต่มีพฤติการณ์ เป็นเครื่องมือเอกชน ที่ถูก กรมบัญชีกลางขึ้นแบล็คลิสต์ทิ้งงานก่อสร้าง และ กำลังถูก กมธ.ปปช.ฯ – สตง. ตรวจสอบพฤติกรรมการทิ้งงานที่ส่อทุจริตโครงการหลวง
ปัญหาโครงการก่อสร้างท่อระบายน้ำและโครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งจำนวน 8 โครงการ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย งบประมาณก่อสร้างรวม 545 ล้านบาท “หรือที่ชาวบ้านประณามว่าเป็นโครงการก่อสร้าง 7 ชั่วโคตร” เป็นการอนุมัติงบก่อสร้างทีละโครงการตั้งแต่ปี 2562-2565 แต่ผู้รับจ้างไม่สามารถก่อสร้างให้เสร็จแม้แต่โครงการเดียว เพื่อป้องกันความเสียหาย กรมโยธาฯ จึงได้ยกเลิกสัญญาทั้งหมดตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2567 แต่การตรวจสอบพบปัญหาในการบริหารสัญญา การเบิกจ่ายเงินแอดวานซ์ ค่างวดงานรวมมูลค่ากว่า 250 ล้านบาท ทำให้เมื่อปลายเดือนมกราคม 2568 กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ได้ประกาศเวียนห้างให้ หจก.ประชาพัฒน์ และ หจก.เฮงนำกิจ ผู้รับจ้างโครงการพวกนี้ เป็นผู้รับจ้างทิ้งงาน มีผลให้หมดสิทธิ์เข้ารับงานจากภาครัฐทุกกรณี ขณะเดียวกัน สตง.กำลังเดินหน้าไล่เบี้ยพิทักษ์เงินแผ่นดิน ขณะที่ กมธ.ปปช.ฯ ยังคงเร่งตรวจสอบการเอกสาร ท่ามกลางความขมึงตึง ในทุกภาคส่วนเนื่องจากผู้อยู่เบื้องหลัง 2 หจก.จัดเป็นขาใหญ่ในจังหวัดกาฬสินธุ์ การตรวจสอบเพื่อลงลึกถึงปัญหาเจ้าหน้าที่รัฐ ทำด้วยความยกลำบาก และมีความพยามในการด้อยค่าการทำงานของฝ่ายตรวจสอบ
เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2568 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ แจ้งว่า ปัญหาการตรวจสอบโครงการก่อสร้างท่อระบายน้ำเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ และโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง ทั้ง 8 โครงการ รวม 3 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมืองกาฬสินธุ์ อ.กมลาไสย และ อ.ฆ้องขัย จ.กาฬสินธุ์ ที่ชาวกาฬสินธุ์ประณามว่าโครงการ 7 ชั่วโคตร นั้น สภาพปัญหาพื้นที่การก่อสร้างยังคงถูกปล่อยทิ้งเอาไว้อย่างหน้าใจหาย ไร้ซึ่งความเอาใจใส่ของฝ่ายปกครอง ที่ควรคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชน โดยเฉพาะในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ เป็นการก่อสร้าง โครงการระบบระบายน้ำหลัก เพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมเมือง ผู้รับจ้าง หจก.ประชาพัฒน์ เริ่มต้นสัญญา 19 เม.ย.62 สิ้นสุดสัญญา 21 พ.ย.65 งบ 148,200,000 บาท เบิกจ่าย 80,166,000 บาท การก่อสร้างลักษณะนี้จะเป็นการขุดเจาะ ถนนวางท่อไปทั่วเขตเทศบาลฯ แต่เมื่อทิ้งงาน ถนนที่ถูกขุดเจาะเพื่อวางท่อได้กลายเป็นกับดับมรณะ เกิดอุบัติเหตุทำให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บ ล่าสุดเกิดปัญหาขึ้นในช่วงการจัดงานมหกรรมโปงลาง แพรวาและกาชาดจังหวัดกาฬสินธุ์ ประจำปี 2568 ที่จัดงานถึง 12 วัน 12 คืน ที่ไม่มีการติดป้ายเตือนภัยให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน เนื่องจากบริเวณงานจะต้องผ่านการก่อสร้างที่ถนนได้ถูกเจาะและเปิดหลุมเอาไว้หลายๆจุดทุกมุมเมือง ในโลกโซเชียลจากผู้ใช้เฟสบุ๊คหลายคนเริ่มจะทนไม่ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์และ ได้มีการแชร์ภาพการเกิดอุบัติเหตุบนถนนผังเมือง 2 เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ มีประชาชนได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุบริเวณดังกล่าวถึง 3 วันติดต่อกัน ได้เรียกร้องให้ทางจังหวัดหาไฟแสงสว่างมาติดตั้งเพื่อความปลอดภัยของประชาชน
ส่วนความคืบหน้าในการตรวจสอบปัญหา 7 ชั่วโคตร แหล่งข่าวแจ้งว่า สตง.กาฬสินธุ์ และ สตง.ภูมิภาคเขต 7 กำลังตรวจสอบเอกสารจากกรมโยธาธิการและผังเมือง ในฐานะเป็นผู้บริหารสัญญา ทั้ง 8 โครงการ ตามประเด็นการควบคุมงาน การเบิกจ่าย ขั้นตอนการก่อสร้างทั้งหมด แม้จะมีข้อโต้แย้งของ กรมโยธาฯว่า เหตุผลการทำงานล่าช้า เนื่องจากว่า ติดปัญหาโควิค ทำให้ผู้รับจ้างขาดสภาพคล่อง แต่ก็พบว่า(ภาครัฐ) กรมโยธาฯ ได้ให้การช่วยเหลือผู้รับจ้างทั้งสองรายนี้ไปแล้ว โดยไม่ให้มีค่าปรับในช่วงที่ทำงานล่าช้า พบมีหลักฐานการใช้ ว.1459 เข้าช่วยเหลือ ดังนั้นการที่ มีคำอ้างว่าผู้รับจ้างขาดสภาพคล่อง กรณีนี้จึงเป็นเรื่องการบริหารจัดการของผู้รับจ้างที่จะต้องบริหารภายในองค์กรของตนเอง เพื่อปฏิบัติตามสัญญาจ้างที่ทำขึ้นกับภาครัฐ (กรมโยธาฯ) การตรวจสอบจึงมีข้อพิรุธในหลายประเด็น ส่วนจะเป็นอย่างไรนั้น สตง. กำลังเร่งตรวจสอบให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน โดย 90 วันแรกจะเป็นการตรวจสอบของ สตง.กาฬสินธุ์ ที่ได้เริ่มติดตามตรวจสอบเอกสาร ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2568 เมื่อทำการตรวจสอบสรุปแล้วเสร็จ ก็จะส่งต่อมายัง สตง.ส่วนกลาง ดำเนินการพิจารณาตามข้อเท็จจริงต่อไป ดังนั้นการก่อสร้างเมื่อผลสอบสรุปออกมา จึงจะรู้ว่าใครที่ต้องรับชอบบ้าง ดังนั้นทุกอย่างจะจบด้วยกระบวนการยุติธรรม ทั้งนี้ สตง.มีหน้าที่พิทักษ์เงินแผ่นดิน
สำหรับ การตรวจสอบทั้ง 8 โครงการ เป็นการประมูลทีละโครงการ โดย หจก.ประชาพัฒน์ ได้ 2 โครงการ
คือ 1.โครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำหลัก เพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมเมือง ผู้รับจ้าง หจก.ประชาพัฒน์ เริ่มต้นสัญญา 19 เม.ย.62 สิ้นสุดสัญญา 21 พ.ย.65 งบ 148,200,000 บาท เบิกจ่าย 80,166,000 บาท 2. โครงการก่อสร้างเขื่อนตลิ่งริมลำน้ำปาว หน้าวัดใต้โพธิ์ค้ำ อ.เมืองกาฬสินธุ์ ความยาว 1,141 ม. ผู้รับจ้าง หจก.ประชาพัฒน์ เริ่มต้นสัญญา 12 ก.ย.62 สิ้นสุดสัญญา 30 ก.ย.64 งบ 95,423,000 บาท เบิกจ่าย 64,544,000 บาท ส่วน หจก.เฮงนำกิจ ได้ 6 โครงการ ประกอบด้วย 1.โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งแก่งดอนกลาง เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ความยาว 853 เมตร ผู้รับจ้าง หจก.เฮงนำกิจ เริ่มต้นสัญญา 28 ก.ย.65 สิ้นสุดสัญญา 8 ก.ค.67 งบ 39,540,000 บาท เบิกจ่าย 11,099,000 บาท 2.โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำปาว บริเวณซอยน้ำทิพย์เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ความยาว 937 ม. ผู้รับจ้าง หจก.เฮงนำกิจ เบิกจ่าย เริ่มต้นสัญญา 10 ก.ย.64 สิ้นสุดสัญญา 20 ส.ค.66 งบ 59,350,000 บาท เบิกจ่าย 10,336,000 บาท 3.โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำชี (ระยะที่ 2) วัดลำชีศรีวนาราม ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย ความยาว 385 ม.ผู้รับจ้าง หจก.เฮงนำกิจ เริ่มต้นสัญญา 10 ก.ย.63 สิ้นสุดสัญญา 10 ส.ค.65 งบ 59,270,000 บาท เบิกจ่าย 33,090,500 บาท 4.โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำชี วัดใหม่สามัคคี ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย ความยาว 423 ม. ผู้รับจ้าง หจก.เฮงนำกิจ เริ่มต้นสัญญา 10 ก.ย.63 สิ้นสุดสัญญา 10 ส.ค.65 งบ 59,306,000 บาท เบิกจ่าย 19,775,900 บาท
5.โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมลำน้ำพาน หลังเทศบาลตำบลลำพาน บ้านวังยูง อ.เมืองกาฬสินธุ์ ความยาว 562 ม. ผู้รับจ้าง หจก.เฮงนำกิจ เริ่มต้นสัญญา 23 ก.ย.64 สิ้นสุดสัญญา 4 ก.ค.66 งบ (ตามเอกสารปะหน้า) 44,490,000 บาท (เอกสารต่อมา 59,306,000 บาท) เบิกจ่าย 13,737,000 บาท
6.โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำชีบ้านหนองหวาย-หนองคล้า ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย ความยาว 300 ม. ผู้รับจ้าง หจก.เฮงนำกิจ เริ่มต้นสัญญา 28 ก.ย. 65 สิ้นสุดสัญญา 8 ก.ค. 67 งบ 39,525,000 บาท เบิกจ่าย 20,169,000 บาท รวมทั้ง 2 บริษัท งบประมาณก่อสร้าง 545,104,000 บาท มีการเบิกจ่ายไปแล้ว 252,917,400 บาท
นอกจากนี้มีรายงานว่า ดร.ฉลาด ขามช่วง ปธ.กมธ.ปปช.ฯ ได้มอบอำนาจให้ กับ ทนายความไปแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.นพวรรณ แก้วใส ตำแหน่งนักประชาสัมพันธ์ ปฏิบัติการประจำสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ในกรณีเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2568 น.ส.นพวรรณฯ ได้ส่งหนังสือขอเชิญรายงานข่าวการแจ้งความร้องทุกข์ของ บริษัทเอกชนในแอพพลิเคชั่นไลน์กลุ่มสื่อมวลชนกับข้าราชการสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกาฬสินธุ์ และนักข่าวและสื่อมวลชนที่มีสมชิก 129 คน ซึ่งมีข้อความว่า เรียน สื่อมวลชน(หมายถึงสื่อมวลชน) ทุกท่าน ขอเรียนเชิญเข้าร่วมรายงานข่าวกรณี หจก.เฮงนำกิจ และ หจก.ประชาพัฒน์ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีต่อ นายฉลาด ขามช่วง ประธานคณะกรรมาธิการ ปปช.ฯ ในความผิดฐานหมิ่นประมาท ณ สถานีตำรวจภูธรกมลาไสย ในวันศุกร์ที่ 7 มีนาคม 2568 เวลา 13.30 น. และแนบหนังสือที่ นายสุนทร บุญยิ่ง ทนายความผู้รับมอบอำนาจ หจก.เฮงนำกิจ และ หจก.ประชาพัฒน์ มาด้วย การกระทำดังกล่าวของ น.ส.นพวรรณฯ ได้แจ้งข่าวที่เป็นกิจกรรมของบริษัทเอกชนในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ การกระทำจึงเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามอำนาจหน้าที่ โดยได้แจ้งไว้เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2568 ที่ สภ.เมืองกาฬสินธุ์