ชลบุรี-ผวจ.ชลบุรี เตรียมงัดกฎหมายไทย เล่นงาน UJV หากยังตีมึนเบี้ยวจ่ายค่างวดงานผู้รับเหมาไทยหลายพันล้านบาท

ชลบุรี-ผวจ.ชลบุรี เตรียมงัดกฎหมายไทย เล่นงาน UJV หากยังตีมึนเบี้ยวจ่ายค่างวดงานผู้รับเหมาไทยหลายพันล้านบาท

 

เปิดโอกาสพูดคุยแต่ละบริษัทเพื่อกำหนดยอดชำระอีกครั้ง หากยังดื้อแพ่งเจอความผิดฐานฉ้อโกง ด้านแกนนำกลุ่มผู้รับเหมาช่วงบอกงานนี้ ตัองถึงหู นายกฯ พร้อมนำแรงงานกว่า 3,000 คนเข้าทำเนียบสัปดาห์หน้า
จากกรณี ที่กลุ่มผู้รับเหมาโรงกลั่น TOP โครงการพลังงานสะอาด CFP (Clean Fuel Project ) โรงกลั่นน้ำมันใน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ที่เกิดจากการรวมตัวของ 24 บริษัทผู้รับเหมาช่วงไทยซึ่งได้รับผลกระทบจากการค้างชำระเงินค่างวดงานนานกว่า 7-8 เดือน ของบริษัทผู้รับเหมารายใหญ่ชาวต่างชาติ ได้แสดงพลังเดินเท้ากว่า 3,000 คน ไปยื่นหนังสือร้องขอความเห็นใจเจ้าของโครงการพลังงานสะอาดฯ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา
ก่อนจะพากันเข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชลบุรี เพื่อให้ช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนและผลักดันให้บริษัทรับเหมาต่างชาติ ให้ยินยอมจ่ายเงินค้างค่างวดรวมหลายพันล้านบาท เนื่องจากไม่ต้องการเลิกจ้างแรงงานกว่าหมื่นคนนั้น

วันนี้ ( 28 ต.ค.) นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้เรียกประชุมส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมหาทางแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของกลุ่มบริษัทฯ ผู้รับเหมาช่วง 24 บริษัท กรณีไม่ได้รับค่าตอบแทนตามสัญญา (โครงการพลังงานสะอาด Clean Fuel Project: CFP) ณ ห้องประชุม Ballroom โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ สวีท ศรีราชา แหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
โดยมี นายชัยพร แพภิรมย์รัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด , อัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและบังคับคดีจังหวัดชลบุรี,ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี,ตรวจคนเข้าเมือง ,สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานชลบุรี,จัดหางานจังหวัดชลบุรี,พาณิชย์จังหวัด ,พลังงานจังหวัด ,แรงงานจังหวัดชลบุรี และนายอำเภอศรีราชา, ตัวแทนจากบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) และตัวแทนกลุ่มผู้รับเหมาช่วงไทย เข้าร่วม

แต่กลุ่มบริษัท UJV ที่ประกอบด้วย บริษัท Saกาsung E&A (Thailand) Petrofac South East Asia Pte. Ltd, ua: Saipem Singapore Pte. Ltd, กลับไม่เข้าร่วมการประชุมและได้ทำหนังสือชี้แจงเหตุผลต่อศูนย์ดำรงธรรมชลบุรี ว่า กิจการร่วมค้า UJV ได้ทำสัญญากับผู้รับเหมาช่วงแต่ละรายแยกต่างหากจากกัน
ซึ่งข้อกำหนดตลอดจนเงื่อนไขและลักษณะของงานตามสัญญา รวมทั้งปัญหาและข้อขัดข้องตลอดจนการตรวจรับงานจากผู้รับเหมาช่วงแต่ละราย มีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกัน จึงทำให้การพิจารณาจัดการปัญหาตามข้อเรียกร้องของผู้รับเหมาช่วงจะต้องพิจารณาและแก้ไขปัญหาเป็นราย ๆ ไป โดยไม่อาจดำเนินการรวมกันหรือแก้ปัญหาทั้งหมดได้ โดยการเจรจากับผู้รับเหมาช่วงทุกรายพร้อมกันไป ในคราวเดียวกันได้
และยังอ้างว่า ปัจจุบันกิจการร่วมค้า UJV ได้ใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ในการแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและยินดีที่ที่จะติดต่อและทำความเข้าใจกับผู้รับเหมาช่วงแต่ละรายโดยตรง เพื่อจัดการปัญหาตามข้อเรียกร้อง ตามข้อกำหนดในสัญญาว่าจ้างผู้รับเหมาช่วง

ด้วยเหตุผลและความจำเป็นดังกล่าว กิจการร่วมค้า UJV จึงไม่อาจเข้าร่วมการประชุมในวันที่ 28.ต.ค.67 ได้ แต่มีความยินดีที่จะชี้แจงข้อเท็จจริงและหรือจัดส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องให้แก่จังหวัดชลบุรี ตามที่ต้องการต่อไป
โดย นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เผยหลังการประชุมว่า จุดประสงค์ของการเรียกประชุมทุกหน่วยงานในวันนี้ ก็เพื่อพิจาราณาถึงแนวทางแก้ไขปัญหาให้กับบริษัทผู้รับจ้างช่วงที่ UJV ไม่จ่ายเงินค่าตอบแทน จนทำให้มีแรงงานได้รับความเดือดร้อนมากกว่า 1 หมื่นคน ซึ่ง UJV ทำสัญญาคู่กับไทยออลย์ และทำสัญญาต่ออีก 40-50 บริษัท และไทยออยล์ ได้จ่ายเงินไปแล้วแต่ทาง UJV ไม่ยอมไปจ่ายเงินต่อ ซึ่งในที่ประชุมมีการพูดคุยว่าจะทำอย่างไร เพราะ ไทยออยล์ ได้จ่ายเงินไปหมดแล้ว 5 พันกว่าล้านบาท แต่กลับไม่นำไปจ่ายบริษัทรับช่วงต่อ

” วันนี้ได้ให้ทีมกฏหมายของ ไทยออยล์ นำสัญญามาดูซึ่งสัญญาเป็นสัญญาต่างประเทศ ที่ต้องไปอ้างอิงกับกฏหมายประเทศอังกฤษ การขึ้นศาลจึงยุ่งยาก จึงต้องรีบเพราะแรงงานจะไม่มีข้าวกินแล้ว และหลังจากนี้ จะเรียกประชุมแต่ละบริษัทผู้รับเหมาช่วงกับ UJV เพื่อสรุปความเสียหายของแต่ละบริษัท ซึ่งหากเคลียร์กันได้ก็เป็นการดี แต่ถ้าเคลียร์ไม่ได้ก็คงต้องใช้กฏหมายไทย เข้าดำเนินการที่อาจใช้ข้อหาฉ้อโกง เพราะทางไทยออยล์ จ่ายเงินหมดแล้วซึ่งก็ต้องคุยเป็นเคสๆ ไปและผมจะเป็นประธานการประชุมเอง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ปัญหาให้ทันท่วงที” ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าว
ด้าน นายฉัตรมงคล เขมาภิรัตน์ กรรมการบริษัท ศรีราชาคอนสตรัคชั่น จำกัด หรือ SCC เผยว่า ผลการประชุมในวันนี้เป็นที่น่าพอใจและขอขอบคุณ ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ที่เข้าใจถึงปัญหาความเดือดร้อนที่เกิดกับบริษัทรับเหมาช่วงไทยและกลุ่มแรงงานกว่าหมื่นชีวิต ในวันนี้อาจตกงาน เพราะหลายบริษัทใหญ่ เริ่มเกิดประสบปัญหาสายป่านขาด บางบริษัท ต้องปลดพนักงาน

 

และหากสุดท้ายกลุ่ม UJV ยังยื้อที่จะชำระค่างวดคงค้างก็คาดว่าไม่ถึงสิ้นปีนี้ อาจจะมีการเลิกจ้างพนักงานและแรงงานเป็นจำนวนมาก และสิ่งที่ตามมาคือปัญหาผลกระทบทางสังคมอย่างรุนแรง
” แต่เราเองก็ยังไม่เชื่อใจ UJV ว่าจะทำตามที่พูดในหนังสือที่เสนอต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด และไม่เชื่อว่า UJV จะชำระเงินค่างวดงาน 7-8 เดือน ดังนั้นเราจึงมีความจำเป็นที่จะต้องเดินทางไปทำเนียบรัฐบาล พร้อมแรงงานกว่า 3,000 คนในสัปดาหน้าเพี่อให้รัฐบาลได้รู้ว่า วันนี้เกิดอะไรขึ้นกับแรงงานไทยใน จ.ชลบุรี และจะยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ช่วยเหลือพวกเราต่อไป” นายฉัตรมงคล กล่าว
เช่นเดียวกับตัวแทนจาก บริษัท stecon ที่เผยว่าตามที่ไทยออยล์ ได้ออกแถลงการณ์ว่า ไม่มีเงินติดค้างกับ UJV แล้วทำให้ผู้รับเหมาช่วงต้องการคำตอบว่าสุดท้ายแล้วเงินจำนวนดังกล่าว อยู่ที่ใด และเหตุใด UJV จึงไม่จ่ายเงินให้กับผู้รับเหมาช่วงนาน 7-8 เดือน

 
“ สายป่านพวกเราแต่ละบริษัทไม่เท่ากัน ทำให้ขณะนี้เริ่มเกิดผลกระทบกับหลายบริษัท ทั้งการไม่สามารถจ่ายเงินให้กับพนักงานได้ บางบริษัทเลิกจ้างและไม่มีการจ่ายค่าชดเชยให้กับพนักงานและแรงงาน และหากในเดือน พ.ย.67 นี้กลุ่มผู้รับเหมาช่วงไม่ได้รับเงิน ก็จำเป็นที่จะต้องลอยแพพนักงานหลายพันคน จึงขอเรียกร้องให้มีการจ่ายเงินภายในเดือน พ.ย._7 นี้ ”ตัวแทนจาก บริษัท stecon กล่าว
ทั้งนี้ ในที่ประชุมยังมีการพิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหาตามระเบียบและกฎหมายแรงงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการช่วยเหลือแรงงานที่ถูกเลิกจ้าง รวมทั้งการหาแนวทางสร้างข้อตกลงเจรจาไกล่เกลี่ยการชำระค่าจ้างตามสัญญา ระหว่างกลุ่มบริษัทฯ จำนวน 24 บริษัท กับกิจการร่วมค้าระหว่างกลุ่มบริษัท UJV อีกด้วย

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ชลบุรี 0909535645