ปทุมธานี-นักศึกษาสาวปี 4 มหาวิทยาลัยชื่อดัง อายุ 22 ปี ร้อง “ปวีณา” ถูกตำรวจยศ “ส.ต.ต.” ตำแหน่งสิบเวร สภ.ธัญบุรี บังคับให้มีเพศสัมพันธ์ พร้อมกับจ่ายเงิน 1 หมื่นบาท แลกกับการไม่ดำเนินคดีเมาขับ หญิงสาวป่วยซึมเศร้ายอมทำตามแล้วแต่ไม่จบ!!

ปทุมธานี-นักศึกษาสาวปี 4 มหาวิทยาลัยชื่อดัง อายุ 22 ปี ร้อง “ปวีณา” ถูกตำรวจยศ “ส.ต.ต.” ตำแหน่งสิบเวร สภ.ธัญบุรี บังคับให้มีเพศสัมพันธ์ พร้อมกับจ่ายเงิน 1 หมื่นบาท แลกกับการไม่ดำเนินคดีเมาขับ หญิงสาวป่วยซึมเศร้ายอมทำตามแล้วแต่ไม่จบ!!

เครียดจัดจนต้องเข้าแอดมินรพ.ถึง 3 วัน ออกจากรพ.ยังถูก ส.ต.ต. ตามแบล็กเมล์ไม่เลิกโดยขอให้ไปมีเพศสัมพันธ์อีก สุดจะทนไหวแล้วขอช่วยให้ความเป็นธรรมด้วย “ปวีณา” พาเข้าแจ้งความ พ.ต.อ.จิรวัฒน์ เปี่ยมปิ่นเศรษฐ ผกก.สภ.ธัญบุรี ด้าน ผกก.สั่งให้ ส.ต.ต. หยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที พร้อมสั่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง และจะเรียกตัวมาสอบสวนหากพบมูลความผิดจะดำเนินคดีทั้งทางอาญาและวินัย ที่มูลนิธิปวีณาฯ  วันที่ 9 ก.ย.67 เวลา 12.30 น.นางสาวเอ (นามสมมุติ) อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี กรณีถูกตำรวจยศ สิบตำรวจตรี สิบเวร สภ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เรียกเงิน 1 หมื่นบาท และบังคับให้มีเพศสัมพันธ์แลกกับการไม่ดำเนินคดีเมาขับ โดยข่มขู่ถ้าไม่ยอมทำตามจะต้องติดคุก และเสียค่าปรับ 2 หมื่นบาท เมื่อยินยอมทำตามแต่ตำรวจนายดังกล่าวยังไม่ยอมจบ ติดต่อมาแบล็กเมล์เพื่อจะให้ไปนอนด้วยอีก จึงทนไม่ไหวเข้าขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ


นางสาวเอ กล่าวว่า คืนวันที่ 30 ส.ค.67 ช่วงเวลาประมาณ 5 ทุ่มเศษ หลังจากดื่มกับเพื่อนและกำลังขับรถกลับบ้าน รถหนูกำลังจะเลี้ยวซ้ายและได้ไปเฉี่ยวชนกับรถเก๋งอีกคันที่ย่านคลองสี่ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี รถของหนูและคู่กรณีเสียหายจึงได้เรียกประกันมาจัดการทั้งสองฝ่าย จากนั้นหนูได้เดินทางไปที่สภ.ธัญบุรี ส่วนคู่กรณีไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ระหว่างอยู่ที่โรงพัก ตำรวจสิบเวรได้เรียกเข้าไปในห้องๆ หนึ่ง ซึ่งมีหนูกับสิบเวรสองคน เขาจะให้หนูเป่าแอลกอฮอร์ โดยเขาเป่าให้ดูก่อนปรากฎว่าขึ้นที่ 0 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จากนั้นเขาก็ให้หนูเป่า ปรากฎว่าขึ้นที่ 103 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เมื่อมีผลออกมา เขาเห็นว่าหนูกลัวจะถูกดำเนินคดี เขาเลยเรียกหนูไปคุยที่หน้าห้องน้ำด้านข้างอาคารเพราะไม่มีกล้องวงจรปิด แล้วเขาก็บอกว่า “จะให้เซ็นใบที่เป่าแอลกอฮอล์ไว้ทั้ง 2 ใบ แต่จะเอาใบที่เป็น 0 ให้กับประกันเพื่อที่รถของหนูจะได้เครมซ่อมด้วย แต่ต้องจ่ายให้เขา 10,000 บาท ถ้าไม่รับข้อเสนอหนูก็จะติดคุก และถูกปรับ 20,000 บาท” หนูกลัวว่าจะถูกดำเนินคดีจึงตกลงทำตาม เมื่อเซ็นใบเป่าแอลกอฮอล์ทั้ง 2 ใบแล้ว เขาก็ให้หนูเขียนข้อมูลส่วนตัว ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ เบอรโทรติดต่อ และให้หนูนั่งแท็กซี่กลับไปก่อน ซึ่งกว่าจะเสร็จเรื่องช่วงนั้นก็เป็นเวลาตี 2 ของวันที่ 31 ส.ค.แล้ว วันนั้นหนูยื่นเงินให้แต่เขายังไม่ได้รับแล้วบอกว่าจะติดต่อมารับหนูไปลงบันทึกประจำวันอีกที

 
ต่อมาวันที่ 1 ก.ย.67 ช่วงบ่าย 2 เขาได้ขับรถกระบะส่วนตัวมารับหนูที่คอนโดฯ ย่านรังสิต ก่อนจะพามาลงบันทึกประจำที่สภ.ธัญบุรี โดยระบุว่ากรณีรถเฉียวชนเกิดจากความประมาทของหนู หลังเสร็จแล้วเขาก็ได้ขับรถพากลับมาส่งโดยระหว่างทางเขาบอกว่าได้คุยกับร้อยเวร สารวัตร และผู้กำกับให้แล้วไม่มีปัญหา จากนั้นเขาได้จอดรถให้หนูลงไปกดเงินสด 10,000 บาทมายื่นให้เขาในรถ แล้วหนูก็ขอใบเป่าแอลกอฮอล์ที่ระบุ 103 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ที่หนูเซ็นเอาไว้ เพราะหนูกลัวว่าเขาจะเอามาดำเนินคดีกับหนูอีก แต่เขาก็ยื้อไม่ยอมให้อีก กระทั่งวันที่ 2 ก.ย.67 หนูอยากได้เอกสารใบเป่าแอลกอฮอล์ เขาจึงนัดให้หนูไปหาที่สภ.ธัญบุรี แล้วเขาบอกว่างั้นเดี๋ยวเราไปหาที่นั่งคุยกันเงียบๆ จากนั้นเขาก็พาไปที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งลักษณะเป็นผับโดยเขาได้จองโต๊ะไว้แล้ว และดูเหมือนเขาจะรู้จักเด็กเสิร์ฟในร้านแทบทุกคน ระหว่างที่นั่งกินเขาก็บังคับในชนแก้วแล้วดื่มให้หมดแก้วหลายครั้ง ซึ่งหนูก็พยายามขอร้องให้เขาเอาใบเป่าแอลกอฮอล์ให้หนู เขาก็บอกว่า “ต้องให้หนูยอมนอนกับเขาถึงจะคืนให้ คืนนั้นเขาจึงตามหนูกลับมาที่คอนโดฯ และมีเพศสัมพันธ์

 

หนูบอกให้เขาป้องกันแต่เขาก็ไม่ยอม หลังมีเพศสัมพันธ์กันแล้วเขาก็ยังไม่ยอมคืนใบเป่าแอลกอฮอล์ให้หนู บอกว่าที่ผ่านมาเขาต้องเก็บใบเป่าไว้ทุกใบ ไม่เคยให้ใครเลย” “ปกติหนูเป็นโรคซึมเศร้าอยู่แล้ว หลังจากที่เขากลับไปหนูสับสนมากจนอาการกำเริบต้องไปพบแพทย์ นอนแอดมิดที่โรงพยาบาลถึง 3 วัน ระหว่างวันที่ 3-6 ก.ย. เมื่อกลับบ้านเขาก็ยังโทรมาหาบอกอีกว่า “จะมามาหาหนูที่คอนโดฯ ตอน 2 ทุ่ม วันที่ 9 ก.ย.นี้ หนูสับสนและกลัวมากจึงได้มาขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ” หลังรับเรื่อง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้พาน.ส.เอ เดินทางไปที่สภ.ธัญบุรี ไปพบ พ.ต.อ.จิรวัฒน์ เปี่ยมปิ่นเศรษฐ ผกก.สภ.ธัญบุรี และตำรวจได้รับแจ้งความทันที โดย พ.ต.อ.จิรวัฒน์ เปี่ยมปิ่นเศรษฐ ผกก.สภ.ธัญบุรี ได้รับเรื่องและสั่งการให้ ส.ต.ต. หยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที พร้อมสั่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง เบื้องต้นในเรื่องของการเปลี่ยนข้อมูลเอกสารการเป่าเครื่องวัดปริมาณแอลกอฮอล์ รับเงินสินบน 10,000 บาท บังคับให้ไปมีเพศสัมพันธ์แลกกับผลตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ มีความผิดเข้าข่ายกระทำผิดม.157 ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และจะเรียกตัวมาทำการสอบสวน หากพบมูลความผิดจะดำเนินคดีทั้งทางอาญาและวินัย ขณะที่มูลนิธิปวีณาฯ จะให้การดูแลเรื่องความปลอดภัยของน.ส.เอ และจะติดตามคดีนี้อย่างใกล้ชิดต่อไป.

ภาพ/ข่าว ประภาพรรณ ขาวขำ/รายงาน