ยะลา-เบตง เดือดร้อนหนัก ปลานิลสายน้ำไหลตายหลายพันตัว

เบตง เกษตรกรผู้เลี้ยงปลานิลสายน้ำไหล เดือดร้อน เสียหายหนัก ปลาตายหลายพันตัว เจ้าหน้าที่ประมงจังหวัดยะลา ลงพื้นที่ เร่งตรวจหาสาเหตุ

 


วันที่ 2 ก.ค.67 นายอมร ชุมช่วย นายอำเภอเบตง พร้อมด้วย นายวิรัช แซ่ตัน นายก อบต.ตาเนาะแมเราะ นายอัฟฟาร มาชะ นักวิชาการประมง ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดยะลา เดินทางลงพื้นที่ร้านอาหารปลานิลสายน้ำไหล ตั้งอยู่ ม.2 บ้านบ่อน้ำร้อน ต.ตาเนาะแมเราะ อ.เบตง จ.ยะลา หรือที่คนในพื้นที่เรียก บ่อปลาโกหงิ่ว ซึ่งเป็นร้านอาหารชื่อดัง ที่ใครไปใครมาท่องเที่ยวอำเภอเบตง ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย นักท่องเที่ยวต่างชาติ ต้องแวะไปชิมอาหาร โดยเฉพาะปลานิลสายน้ำไหล เนื่องจากทราบว่าปลานิลสายน้ำไหล ที่เพาะเลี้ยงไว้ขายในร้านอาหารทยอยตายจำนวนมาก และมีของเกษตรกรอีกหลายรายก็พบปัญหาปลานิลสายน้ำไหลตายโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งบางแห่งตายยกบ่อ ต้องรีบจับปลาขึ้นจากบ่อ

 

เมื่อไปถึงพบนายสันติ จงเกียรติขจร (โกหงิ่ว) พร้อมลูกชายและลูกน้อง ช่วยกันใช้สวิงจับปลาที่เริ่มตายขึ้นจากบ่อ ซึ่งปลาที่ตายมีหลายขนาด ทั้งตัวใหญ่ตัวเล็ก บางตัวก็ลอยหงายท้องอยู่ในบ่อ บางตัวไม่มีแรงว่ายน้ำจนใช้มือเปล่าจับได้โดยง่าย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดยะลา จึงได้นำน้ำในบ่อปลามาทำการตรวจ ก็พบว่าคุณภาพน้ำปกติไม่มีสารเคมี หรือสิ่งแปลกปลอมปนเปื้อนแต่อย่างไร ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ให้เหตุผลว่า อาจเป็นไปได้ว่า การเลี้ยงปลานิลสายน้ำไหล น้ำได้หมุนเวียนเปลี่ยนถ่ายตลอด ไม่เหมือนการเลี้ยงปลาในบ่อปกติ จึงทำให้การตรวจคุณภาพน้ำได้ค่าปกติ ส่วนปลาที่ตายพบว่า ที่บริเวณเหงือกปลามีตะกอน ติดอยู่จำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงเร่งหาสาเหตุว่าทำไมถึงมีตะกอนติดอยู่ที่เหงือกปลาจำนวนมากจนทำให้ปลาไม่สามารถหายใจเอาออกซิเจนเข้าไปได้ จนตายในที่สุด

 
นายสันติ จงเกียรติขจร (โกหงิ่ว) เล่าว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาปลาในบ่อที่เลี้ยงไว้เริ่มทยอยตาย โดยไม่ทราบสาเหตุ จนถึงขณะนี้ ได้จับปลาที่ตายและอาการไม่ดีขึ้นจากบ่อแล้วประมาณพันกว่าตัว เบื้องต้นได้แก้ปัญหา โดยการเปลี่ยนถ่ายน้ำบ่อปลาทั้งหมด ซึ่งมีอยู่จำนวน 11 บ่อ มีปลาจำนวน 70,000 กว่าตัว ซึ่งก็อาจช่วยชีวิตปลาได้บ้าง ส่วนค่าเสียหายยังไม่สามารถประเมินได้ เพราะยังคงมีปลาทยอยตายอยู่เรื่อยๆ ขณะนี้ต้องเร่งจับปลาที่อาการไม่ดีขึ้นจากบ่อ แล้วให้คนงานนำไปแร่ทำปลาแดดเดียว ส่วนปลาที่ตายก็จะนำไปหมักทำเป็นปุ๋ยใส่ต้นไม้ ปลาที่ตายหรืออาการไม่ดี จะไม่เอาไปทำอาหารให้ลูกค้าเด็ดขาด

 
โกหงิ่ว ยังได้เล่าให้ฟังอีกว่า ก่อนที่ปลาในบ่อของตนจะเริ่มทยอยตาย บ่อเลี้ยงปลานิลสายน้ำไหลของคนที่ตนรู้จัก ซึ่งมีบ่ออยู่ต้นน้ำก่อนบ่อปลาของตน ปลาได้ทยอยตายตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว และได้เดินพาผู้สื่อข่าวขึ้นไปดู ซึ่งก็เจอคนงาน กำลังจับปลาที่ตายขึ้นจากบ่อ และเล่าว่า ปลาตายไปกว่า 2,000 ตัวแล้ว เกือบหมดบ่อแล้ว หากไม่จับปลาที่ตายขึ้นจากบ่อ ปลาก็จะจมลงก้นบ่อ จากนั้นปลาก็จะพองแล้วลอยขึ้นมา และทำให้น้ำเสียส่งกลิ่นเหม็นไปทั่ว เพราะฉะนั้น เมื่อปลาตายหรืออาการไม่ดีก็ต้องรีบนำปลาขึ้นจากบ่อทันที