พิจิตร-ธรรมนัส รมว.เกษตรฯบุกเมืองชาละวันสั่งเร่งแก้ปัญหาแหล่งน้ำเผยการเมืองในสภาน้ำผึ้งยังหวานอยู่เหมือนเดิม
พิจิตร-ธรรมนัส รมว.เกษตรฯบุกเมืองชาละวันสั่งเร่งแก้ปัญหาแหล่งน้ำเผยการเมืองในสภาน้ำผึ้งยังหวานอยู่เหมือนเดิม
https://youtu.be/CBi5tzl6OTk
วันที่ 22 มิถุนายน 2567 ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เดินด้วยเฮลิคอปเตอร์เพื่อตรวจราชการการแก้ไขปัญหาแหล่งน้ำให้กับเกษตรกรในพื้นที่ลุ่มน้ำยมของจังหวัดพิจิตร ซึ่งการเดินทางมาในครั้งนี้ได้รับการประสานงาน โดย  นายพรชัย อินทร์สุข อดีต สส.พิจิตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ ที่นำปัญหาการก่อสร้าง ปตร.วังจิก ต.วังจิก อ.โพธิ์ประทับช้าง  จ.พิจิตร (เป็นโครงการว่าจ้างผู้รับเหมา) ซึ่งเป็นพื้นที่ ที่มีปัญหาการก่อสร้างด้วยงบ 231 ล้านบาทเศษ ที่ทำสัญญาว่าจ้างตั้งแต่ปี 2559 ผ่านมา 8 ปีแล้ว งานยังไม่แล้วเสร็จการก่อสร้างมีผลการดำเนินการประมาณ 60% แต่ผู้รับเหมาขาดสภาพคล่องทิ้งงาน ทำให้โครงการดังกล่าวถูกทิ้งร้าง ทำให้ชาวนาลุ่มน้ำยมในแถบนี้เสียโอกาสที่จะมีน้ำทำนา
 โดย ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ ที่ลงพื้นที่ครั้งนี้ก็ได้มีผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น นายชูชาติ รักจิตร อธิบดีกรมชลประทาน , นายสุรชาติ มาลาศรี ผู้อำนวยการสำนักบริหารโครงการ กรมชลประทาน , นายธนบดี  รักสัตย์  ผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 3 , นายธรรมนูญ  แจ่มศรี เกษตรและสหกรณ์จังหวัดพิจิตร ,  นายรัตนะ สวามีชัย ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ , น.ส.สุณีย์  เหลืองวิจิตร อดีตเลขาธิการพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยกลุ่มเกษตรกรรวมกว่า 300 คน  ที่ร่วมให้การต้อนรับและฟังคำชี้แจงว่าโครงการดังกล่าวได้ยกเลิกผู้รับเหมารายเดิมและจะได้ผู้รับเหมารายใหม่ที่จะเข้าดำเนินงานการก่อสร้าง ปตร.วังจิกในแม่น้ำยม ให้เร็วที่สุดซึ่งหากการก่อสร้างแล้วเสร็จเกษตรกรในพื้นที่ 6 ตำบล 3 อำเภอ ของ จ.พิจิตร นาข้าว 37,397 ไร่ ฝั่งขวาแม่น้ำยมก็จะมีน้ำทำนาอย่างอุดมสมบูรณ์ได้แน่นอน
 จากนั้น  ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ ได้เดินทางไปดูการก่อสร้าง ประตูระบายน้ำบ้านท่าแห  ต.กำแพงดิน  อ.สามง่าม จ.พิจิตร ผลการดำเนินงาน 83% คาดว่าฤดูน้ำหลากปี 2567 จะเสร็จแล้วทัน สามารถกักเก็บน้ำได้ประมาณ 12.60 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งจะสามารถช่วยชาวนาพิจิตร-พิษณุโลก (เป็นโครงการกรมชลประทานดำเนินการเอง) ในพื้นที่รับประโยชน์ 81,111 ไร่ ราษฎรได้รับประโยชน์ 1,412 ครัวเรือน
ซึ่งหลังจากที่ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ ตรวจราชการและรับฟังปัญหาจากพี่น้องเกษตรกร รวมถึงได้ทำพิธีมอบโฉนด สปก. ให้กับเกษตรกรแล้ว ได้ให้สัมภาษณ์ ว่า ชาวพิจิตรส่วนใหญ่มีอาชีพทำการเกษตร ดังนั้นเรื่องของแหล่งน้ำจึงเป็นเรื่องที่มีความจำเป็นและสำคัญยิ่ง แต่ที่ ปตร.วังจิก ผู้รับเหมาทิ้งงานซึ่งได้สั่งให้ยกเลิดสัญยาเก่ากับผู้รับจ้างรายเก่า และให้หาผู้รับจ้างรายใหม่ให้รีบสร้าง ปตร.วังจิก ซึ่งตั้งอยู่ในแม่น้ำยมให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี ให้จงได้ ซึ่งคาดว่าต้นเดือน ก.ค. 67 ก็น่าจะได้ผู้รับเหมารายใหม่เข้ามาทำงานก่อสร้างให้แล้วเสร็จต่อไป
 
ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่าในแม่น้ำยมก็จะต้องเร่งสร้างอาคารบังคับน้ำแบบขั้นบันไดให้ได้ครบ 5 แห่ง ตามเป้าหมายที่วางไว้ คือ 1.  ปตร.ท่านางงาม  ต.ท่านางงาม  อ.บางระกำ  จ.พิษณุโลก 2. ปตร. บ้านท่าแห  ต.กำแพงดิน  อ.สามง่าม จ.พิจิตร 3. ปตร.สามง่าม (ฝายไฮดรอลิคพับได้) บ้านจระเข้ผอม ต.รังนก  อ.สามง่าม จ.พิจิตร ซึ่งสร้างเสร็จใช้งานมาได้ 3-4 ปีแล้ว  4. ปตร.วังจิก  ต.วังจิก  อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร (ซึ่งเป็นจุดก่อสร้างที่มีปัญหาผู้รับเหมาทิ้งงาน) 5.ปตร.โพธิ์ประทับช้าง   ต.ไผ่ท่าโพ  อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร  และในแม่น้ำน่านก็จะมีการสร้าง ปตร.ฆะมัง อ.เมืองพิจิตร อีกด้วยเช่นกัน ทั้งนี้มั่นใจว่าในอนาคตอันใกล้นี้พิจิตรจะเป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์ด้วยแหล่งน้ำและมีที่ดินทำกินเป็นสิทธิประโยชน์ของตนเอง ส่วนเรื่องโครงการปุ๋ยคนละครึ่งขอเวลาหารือและนำเรื่องเข้า ครม.ในวันอังคารที่จะถึงนี้อีกด้วย
 
สำหรับบรรยากาศทางการเมืองที่มีข่าวต่างๆนานาเกี่ยวกับพรรคพลังประชารัฐกับพรรคเพื่อไทยที่ว่า อาจจะมีการปรับ ครม. หรือ ย้ายข้างสลับขั้วนั้น ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ ตอบอย่างอารมณ์ดีว่าให้ดูจากการประชุมสภาของเมื่อวันวานที่ผ่านมาที่มีผลโหวตสนับสนุนงบประมาณปี 68 เสียงของฝ่ายรัฐบาลก็ทิ้งห่างหันกว่า 100 คะแนน ยืนยันว่าเสถียรภาพของรัฐบาลชุดนี้ยังเหนียวแน่น เข้มแข็ง มั่นคง
สิทธิพจน์/พิจิตร/