นราธิวาส -ร่วม รณรงค์ ดอกไม้จันทน์ หีบศพ กับ เจ้าอาวาส และ สมาพันธ์ไทยพุทธ สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้ผู้สูงอายุ วัดพรหมนิวาส

นราธิวาส -ร่วม รณรงค์ ดอกไม้จันทน์ หีบศพ กับ เจ้าอาวาส และ สมาพันธ์ไทยพุทธ สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้ผู้สูงอายุ วัดพรหมนิวาส

 

การวางดอกไม้จันทน์ในงานศพ เป็นการแสดงความอาลัยครั้งสุดท้ายต่อผู้วายชนม์ เชื่อกันว่า กลิ่นหอมของไม้จันทน์จะนำดวงวิญญาณของผู้วายชนม์ไปสู่ภพภูมิที่ดี ในอดีตการใช้ดอกไม้จันทน์ในงานศพ จะไม่ใช้กันอย่างที่เราเห็นทุกวันนี้ แต่เป็นการนำไม้จันทน์หอมมาทำ “หีบศพ” เพื่อกลบกลิ่นศพในเวลา ฌาปนกิจ เนื่องจากเป็นไม้ที่มีน้ำมันที่มีกลิ่นหอมมักจะถูกใช้กับกษัตริย์ ขุนนางในวัง ราชวงศ์เท่านั้น ไม้ชนิดนี้เป็นไม้มงคล ราคาสูงและหายาก จนกระทั่งปัจจุบันที่มีการประดิษฐ์ ดอกไม้เทียมที่มีรูปแบบที่หลากหลายขึ้น ทำให้ชนชั้นสามัญชนมีโอกาสได้ใช้ และได้แสดงความเคารพรักและรำลึกถึงผู้วายชนม์ ไม่ใช่เพียงแต่แสดงความรู้สึกโศกเศร้าเพียงอย่างเดียว

“โครงการส่งเสริมกลุ่มอาชีพสตรีไทยพุทธ จังหวัดนราธิวาส ” ได้ร่วมกับ พระครูวิสิฐพรหมคุณ เจ้าอาวาส ณ. วัดพรหมวิหารจังหวัดนราธิวาส อำเภอเมืองจังหวัดนราธิวาส ได้จัดกิจกรรมขึ้นอย่างต่อเนื่องถึงการอนุรักษ์ รณรงค์ ดอกไม้จันทน์ โลงหีบศพ กับกิจการงานศพ เป้าหมายเพื่อ ลดการใช้จ่ายในห้วงเศรษฐกิจตกต่ำ เสริมสร้างรายได้กับผู้ว่างงาน ผู้สูงอายุ และคนยากไร้ และต้องการเรียนรู้เพื่อนำไปประกอบอาชีพต่อไป โดย สมาพันธ์ไทยพุทธจังหวัดนราธิวาส ได้บอกถึงเหตุผลจากการเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบ มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 ทำให้การดำรงชีวิตเป็นไปได้ยากลำบาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการประกอบอาชีพ เพื่อดำรงอยู่

จึงมีความคิดเห็นร่วมกันว่า การมีอาชีพเสริมเพื่อหารายได้มาดำรงชีวิตประจำวันท่ามกลางสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น ในพื้นที่แทบทุกเดือน วัตถุประสงค์หลักๆ คือเพื่อสร้างรายได้ให้กับครอบครัว แก้ปัญหาการใช้ชีวิตในห้วงเศรษฐกิจตกต่ำ ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ปลูกฝั่งค่านิยมตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในรัชกาลที่9 และเพื่อรวมพลังสามัคคี ของพุทธศาสนิกชนในงานอาชีพอย่างมั่นคง ปัจจุบันมีสมาชิก 120 คน 3 อำเภอ 5 กิจกรรม และการทำดอกไม้จันทน์ก็เป็น 1 ในโครงการนี้ โดยปัจจุบัน โครงการนี้ จะไม่ได้มีเฉพาะกลุ่มชุมชนชาวพุทธ แต่จะมีกลุ่มชุมชนชาวมุสลิมเข้าร่วมโครงการนี้ด้วย แสดงให้เห็นว่า การอยู่ร่วมในพหุวัฒนธรรมในพื้นแผ่นดินไทย เราอยู่ร่วมกันได้ และจะสร้างสันติสุข ไปด้วยกัน..

พระครูวิสิฐพรหมคุณ เจ้าอาวาสวัดพรหมนิวาส อำเมือง จังหวัดนราธิวาส จุดเริ่มต้นตั้งแต่ ที่เราเตรียมงานถวายพระบรมศพ พ่อหลวง รัชกาลที่9 ส่งเสริมผลิตเครื่องมือ ในการทำดอกไม้จันทน์ และก็ไปอบรม ผู้ต้องขังบ้าง และก็ออกตามชุมชนต่างๆที่อยากจะมีความรู้ เรื่องทำดอกไม้จันทน์ ตามวัดต่างๆ เพื่อไว้ใช้เอง เป็นการประหยัด ไม่ให้เจ้าภาพสิ้นเปลืองมาก เพราะการสูญเสีย เราก็ นึกถึงตัวบุคคลแล้วไม่อยากสูญเสียมาก แล้วการที่อาตมา พยายามรณรงค์ ดอกไม้จันทน์ หน้าศพ แทนที่จะใช้ดอกไม้สดหน้างาน เราจะเสียเงินหลายหมื่น เราใช้ดอกไม้จันทน์มา ก็จะประหยัด ไม่ต้องซื้อเป็นช่อแบบนี้ ในนี้เราจะดึงไปใช้ได้เลย ส่วนพวงหรีด นี้เป็นชุดนักเรียน พวงหรีดชุดหนึ่ง 3-4 พัน เราก็รณรงค์ว่า เราใช้ ชุดนักเรียน เพื่อเสร็จแล้วเราเอาไปสงเคราะห์เด็กที่ ยากจน ขาดแคลน จะเป็นผู้หญิงผู้ชาย ได้ทั้งเด็กพุทธ เด็กมุสลิม ได้ทั้งนั้น

เราจะใส่เข้าไป รณรงค์ว่าต้องใช้ชุดนักเรียนมาตรฐาน และอีกกิจหนึ่ง อาตมาผลิตโลง อยากให้กับผู้ยากไร้ หรือ ทหาร ตำรวจ ที่เสียชีวิตในหน้าที่ ปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ โรงบรรจุศพที่ทำ ไม่เหมือนโลงศพมูลนิธิ ที่เขาแจก จะทำเหมือนกับโลงที่เขาขาย 7-8 พัน บาท พยายามทำเพื่อว่า ทหารตำรวจที่เสียชีวิต ในหน้าที่ส่งศพศพกลับบ้าน ถ้าเราเอา โลงศพมูลนิธิใส่ไป มันจะดูเป็นการโศกเศร้าว่า วีรบุรุษ ผู้ที่รักษาผืนแผ่นดิน ไทย ยอมเสียชีวิต ถวายชีวิต ในการพิทักษ์รักษา มาตุภูมิของเรา แล้วเวลาตายได้หีบศพไม่สวย มันเป็นคุณค่าทางจิตใจ ทั้งที่โลงอันนี้ ก็ไปเผาทิ้ง แต่จะมาเป็นคุณค่าทางจิตใจตอนตั้งศพ ตอนที่เราเคลื่อนศพ ที่จะไปสู่ เมน ที่จะทำการ ฌาปนกิจมันก็เลยเป็นคุณค่า ทางด้านจิตใจของญาติพี่น้อง นี้คือจุดประสงค์และ เหตุจูงใจ คือมีอยู่รายหนึ่งเจ้าหน้าที่ ทหารถูกระเบิด เสียชีวิต 4 ศพ ทหารมานิมนต์มารับ ศพ เพื่อส่งขึ้นเครื่องบิน เห็นแล้ว เขาใช้โรงศพมูลนิธิ อาตมาไม่ยอมรับศพ และไม่ให้เคลื่อนศพ อาตมาให้ไปหาซื้อโรงที่ ดี สมเกียรติ หน่อย เขาก็ได้ไปหาที่อำเภอหาดใหญ่

อาตมาเลยตั้งปณิธานว่า สักวันหนึ่งถ้ามีกำลัง จะต้องทำโรงนี้ขึ้นมา และโรงของอาตมา ศพจะเน่า เละเพียงใด ก็จะไม่มีน้ำเหลือง ออกมา โรงศพ ของอาตมาทำเป็นโรงมาตรฐาน นี้คือการดูแลผู้ที่เสียชีวิต โดยไม่คิดขาย ต้นทุน การทำ 4,000 กว่าบาท ตามร้านขาย 7-8,000 บาท แต่เราทำจุดประสงค์ บริจาคให้ผู้ที่ยากไร้แล้วแต่ บางทีเขาถวายให้ 1,000 บาท ทางวัด ไม่ได้ว่า สงเคราะห์กัน จุดมุ่งหวังที่ว่า ทำไมต้องมา รณรงค์ ทำพวกนี้ *** เพื่อต้องการให้ประหยัด *** ส่วนดอกไม้สดที่ญาติผู้สูญเสียนำมาวางหน้าหีบศพ ทางวัดก็นำไปหมัก ทำเป็นปุ๋ย คืนให้ต้นไม้ต่อไป หลีกเลี่ยงภาระกับรถขยะเทศบาล จุดประสงค์หลักๆ การรวมกลุ่มกันทำ พบปะกัน จะดีต่อจิตใจ แล้วถ้าแต่ละวัดจะมีชุมชนช่วยกันทำ แล้งงานศพแต่ละงานศพ **มันก็จะประหยัด ** แล้วจะภูมิใจว่าเราก็ได้ทำ บางคนบอกว่ามันเป็นรางไม่ดีที่จะไปทำดอกไม้ ถามว่าทุกคนมันก็ต้องตาย แล้วคนที่ ทำงานเปิดร้านทำขาย ได้เงินนั้น มันดีหรือไม่ดี เขาทำ เขารวย นี่ถ้าเราทำเองแล้วเป็นรางไม่ดี “ไม่ใช่” เราต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ อะไรก็แล้วแต่ ที่สุดของเราแล้ว เราต้องใช้ทุกคน ไม่ว่า ศาสนาไหน สุดท้ายต้องทิ้งร่างกายไว้ในผืนแผ่นดิน..

ข่าว.แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส