กาฬสินธุ์โผล่อีกแห่งที่ 9 ต่อจิ๊กซอว์จ่อถึงตัวไอ้โม่งเบื้องหลังตัดไม้พะยูง

คณะทำงานตรวจสอบเชิงลึก ต่อจิ๊กซอว์ใกล้ถึงตัวไอ้โม่งเบื้องหลังตัดไม้พะยูงในโรงเรียน ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงรับแจ้งตัดไม้พะยูงเพิ่มอีกเป็นแห่งที่ 9 ในโรงเรียนบ้านสร้างแก้ว ต.หนองแวง อ.สมเด็จ ด้านธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์เฉลย จำหน่ายไม้พะยูงโรงเรียนหนองแวงบ่อแก้ว 2 ต้น จำนวนเงิน 25,500 บาท รวมมีรายได้จากการจำหน่ายไม้พะยูงในห้วงที่ผ่านมาจำนวน 312,500 บาท

จากกรณีตัดไม้พะยูงในโรงเรียนคำไฮวิทยา อ.หนองกุงศรี 22 ต้น กับอีก 2 ตอ ราคา 153,000 บาท โรงเรียนหนองโนวิทยา อ.ห้วยเม็ก 9 ต้น ราคา 104,000 บาท และโรงเรียนคุรุชนประสิทธิ์ศิลป์ อ.ห้วยเม็ก 3 ต้น ราคา 30,000 บาท ซึ่งจากการประเมินราคากลาง ตามมาตรฐานกรมป่าไม้ พบว่าต่ำกว่าตลาด 30-50 เท่า ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมในการขออนุญาต และการให้อนุญาต ขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 และธนารักษ์ ยังไม่ออกมาชี้แจง ให้ความกระจ่างต่อสังคม และในส่วนขององค์กรอิสระอย่าง ปปท. ก็ยังไม่รายงานความคืบหน้าของการตรวจสอบ จึงเป็นประเด็นให้ชาวบ้าน เครือข่ายรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ แจ้งเบาะแสมาที่ฝ่ายความมั่นคง ว่ามีการขออนุญาตและให้อนุญาตตัดไม้พะยูงในโรงเรียนเป็นข่าวรายวัน เช่น ที่โรงเรียนหนองแวงบ่อแก้ว และโรงเรียนชุมชนดอนยูงวิทยา อ.ยางตลาด ล่าสุด นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผวจ.กาฬสินธุ์ แต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบเชิงลึก เร่งเก็บข้อมูลเพิ่ม กรณี สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2-ธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ ให้ตัดไม้พะยูงขายแบบต่อเนื่องไม่ชอบมาพากล ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น


เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งคณะทำงานตรวจสอบเชิงลึก พบเอกสารฉบับหนึ่งจากสำนักงานธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ รายงานถึง ผวจ.กาฬสินธุ์ กรณีการขออนุญาตตัดไม้และการจำหน่ายไม้ในที่ราชพัสดุ ในสถานศึกษา 5 แห่ง โดยหนังสือลงวันที่ 7 ก.ย.66 ประกอบด้วย (1) โรงเรียนคุรุชนประสิทธิ์ศิลป์ 3 ต้น จำนวนเงิน 30,000 บาท (2) โรงเรียนหนองโนวิทยาคม 9 ต้น จำนวนเงิน 104,000 บาท (3) โรงเรียนหนองแวงบ่อแก้ว 2 ต้น จำนวนเงิน 25,500 บาท (4) โรงเรียนบ้านสร้างแก้ว อ.สมเด็จ (สพป.กาฬสินธุ์ เขต 3) 1 ต้น ไม่มีของกลางเนื่องจากคนร้ายขนย้ายไป เหตุเกิดเมื่อ 30 มิ.ย.66 เวลาประมาณ 03.00-04.00 น. และ (5) โรงเรียนคำไฮวิทยา 22 ต้นกับอีก 2 ตอ ราคา 153,000 บาท รวมเป็นเงินจากการจำหน่ายไม้พะยูง โดยนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน จำนวน 312,500 บาท


นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่าจากรายงานของธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ดังกล่าว ซึ่งระบุตัดไม้พะยูงในโรงเรียนบ้านสร้างแก้ว ต.หนองแวง อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ นับเป็นแห่งที่ 9 ที่ขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูงโรงเรียนก่อเหตุ และมีรายงานเข้ามา ซึ่งหลายฝ่ายได้ประมวลเหตุการณ์ และเชื่อได้ว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ เพื่อนำไปสู่การขออนุญาตตัด การให้อนุญาตตัด ลักษณะเหมือนหลายโรงเรียนที่ผ่านมา จึงเป็นอีกกประเด็นหนึ่งที่ทำให้เชื่อว่า ทำกันเป็นขบวนการ และอาจจะมีคนของรัฐร่วมขบวนการ ซึ่งคณะทำงานเชิงรุกกำลังต่อจิ๊กซอว์ และใกล้ถึงตัวคนที่อยู่เบื้องหลังกรณีตัดไม้พะยูงในโรงเรียนเร็วๆนี้


ด้านนายไสว สะอาด ธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์กล่าวว่า ในส่วนของการอนุญาตตัดไม้พะยูงในโรงเรียนนั้น ตนลงนามอนุญาตให้ผู้อำนวยการ สพป.กาฬสินธุ์เขต 2 ตัดได้ตามระเบียบ แต่ให้ถือปฏิบัติตามหนังสือกรมธนารักษ์ ตาม ว 20 ลงวันที่ 1 ก.พ.60 โดยต้องมีความสมเหตุสมผล ตัดต้นที่มีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอันตรายต่อเด็กนักเรียน สายไฟฟ้า ตัวอาคาร เท่านั้น อย่างไรก็ตาม เรื่องที่เกิดขึ้น เช่น ที่โรงเรียนคำไฮวิทยา ตนได้ลงพื้นที่เมื่อวันที่ 24 ก.ค.66 ก่อนที่จะมีการตัดในวันที่ 17 ส.ค.66 ส่วนรายละเอียดอื่นๆไม่ขอกล่าวถึง เพราะได้ชี้แจงกับอธิบดีกรมธนารักษ์แล้ว


สำหรับที่โรงเรียนคำไฮวิทยา อ.หนองกุงศรี 22 ต้นกับอีก 2 ตอ ราคา 153,000 บาทนั้น ฝ่ายความมั่นคงได้ตั้งข้อสังเกต การขออนุญาตตัดและให้อนุญาตตัดตามไทม์ไลน์ ดังนี้ 7 ก.ค.66 โรงเรียนคำไฮวิทยา ส่งหนังสือถึงต่อ สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 เรื่อง ขออนุญาตตัดต้นไม้ในโรงเรียน, 19 ก.ค.66 สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 ส่งถึงหนังสือถึงธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ เรื่องขออนุญาตตัดต้นไม้ในที่ราชพัสดุ, 19 ก.ค.66 สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 ส่งถึงหนังสือผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้กาฬสินธุ์ เรื่องขอความอนุเคราะห์เจ้าหน้าที่เพื่อแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการประเมินราคากลางต้นไม้ที่จะจำหน่าย, 24 ก.ค.66 นายไสว สะอาด ธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ แจ้งในที่ประชุมคณะอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่า จ.กาฬสินธุ์ (คปป.จว.) เมื่อวันที่ 13 ก.ย.66 ที่ผ่านมา ว่าได้ลงพื้นที่ตรวจสอบด้วยตนเอง, 25 ก.ค.66 ศูนย์ป่าไม้กาฬสินธุ์ ตอบกลับ สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 ขอความอนุเคราะห์เจ้าหน้าที่เพื่อแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการประเมินราคาต้นไม้ที่จะจำหน่าย, 11 ส.ค.66 ธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ ตอบกลับ สปพ.กาฬสินธุ์ เขต 2 เรื่องขอจำหน่ายต้นไม้ที่ได้จากที่ราชพัสดุ, 11 ส.ค.66 สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 ส่งถึงหนังสือโรงเรียนคำไฮวิทยา ขออนุญาตจำหน่ายต้นไม้ในที่ราชพัสดุ, 15 ส.ค.66

สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 ส่งถึงหนังสือโรงเรียนคำไฮวิทยา ส่งสำเนาสัญญาซื้อขาย และ 17 ส.ค.66 ตัดไม้ 17 ต้นและขนย้ายไป คงเหลือ 5 ต้นกับอีก 2 ตอ
ขณะที่นายนิยม กิตติวงศ์ตระกูล ผู้อำนวยการส่วนทรัพยากรธรรมชาติ สนง.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบสภาพตอไม้พะยูง ที่ทางโรงเรียนหนองแวงบ่อแก้ว ได้ตั้งข้อสงสัยประเด็นที่ทางโรงเรียนระบุว่ายืนต้นตาย 4 ต้น และถูกลักลอบตัด 2 ต้น โดยเฉพาะตอที่ยืนต้นตายนั้น เป็นที่น่าสังเกตคือ เป็นไปได้ไหมที่ไม้พะยูง ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วเป็นต้นไม้ที่แข็งแรง จะยืนต้นตายพร้อมกันหรือในเวลาไล่เลี่ยกันถึง 4 ต้น จากการวัดขนาดตอไม้พะยูง พบว่ามีขนาดรอบลำต้นขนาดใหญ่ 2 ตอ และขนาดกลาง 2 ตอ โดย 1 ใน 4 ตอมีลูกไม้หรือกิ่งไม้เกิดขึ้น ซึ่งลักษณะที่มีลูกไม้เกิดขึ้น สันนิษฐานเบื้องต้นไว้เลยว่าต้นไม้ดังกล่าวไม่ได้ยืนต้นตาย ทั้งนี้ เป็นจุดสงสัยเท่านั้น ไม่ได้มุ่งจับผิดใคร อย่างไรก็ตาม ในประเด็นความสงสัย ยังพุ่งไปที่ไม้พะยูง 17 ท่อน ที่คณะกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนหนองแวงบ่อแก้วอยากทราบ เพราะเคยนำมาเก็บไว้ในห้องประชุม ปรากฏหลักฐานเป็นภาพถ่าย บันทึกจากมือถือ ระบุวันที่ 5 พ.ค.66 หลังเกิดเหตุคนร้ายลักลอบตัดวันที่ 2 พ.ค.66 ซึ่งคณะกรรมการสถานศึกษาทุกคน ยืนยันว่าไม่เคยทราบเรื่องการขายทอดตลาดไม้พะยูงในโรงเรียนเลย


ด้านนายทองคำ เหมกุล กำนันตำบลอิตื้อ กล่าวว่า ตนและผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนหนองแวงบ่อแก้ว ไม่เคยทราบว่ามีการขายไม้พะยูงในโรงเรียนหนองแวงบ่อแก้ว ทราบแค่ว่ามีการขออนุญาตตัดไม้พะยูงที่ยืนต้นตาย และมีเหตุคนร้ายมาลักลอบตัด จากนั้นมีการแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โนนสูง และเจ้าหน้าที่ธนารักษ์มาตรวจ ต่อมาตัดไม้พะยูงที่เหลือจากการลักขโมยเป็นท่อนๆ โดยนำมาเก็บรักษาไว้ในห้องประชุมนี้ แต่พอเข้ามาดูเท่านั้น ทุกคนต่างตกใจแทบช็อค เพราะไม้พะยูง 17 ท่อนที่เคยเก็บไว้ไม่เหลืออยู่เลย เพิ่งจะรู้ความจริงในวันนี้ว่าไม้พะยูงทั้งหมด ถูกธนารักษ์ขายทอดตลาดไปหมดแล้ว นอกจากนี้จากคำตอบของธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ ระบุแค่ว่าจำหน่ายไม้พะยูง 2 ต้น ราคา 25,500 บาทนั้น ก็เพิ่งจะทราบวันนี้เช่นกัน ซึ่งเป็นประเด็นน่าสงสัยอยู่เพราะราคาต่ำ
อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลการตัดไม้พะยูงในที่ราชพัสดุและในโรงเรียน พื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ที่ได้รับแจ้งเข้ามายังฝ่ายความมั่นคง ในรอบเดือน ส.ค.-ก.ย.นี้ รวมแล้ว 9 แห่งด้วยกัน ประกอบด้วย (1) ที่สถานีเพาะชำกล้าไม้กาฬสินธุ์ ต.อิตื้อ อ.ยางตลาด 1 ต้น, (2) ขออนุญาตตัดที่โรงเรียนคำไฮวิทยา อ.หนองกุงศรี จำนวน 22 ต้น (3) รับแจ้งตัดไม้พะยูงที่โรงเรียนหนองโนวิทยาคม อ.ห้วยเม็ก จำนวน 9 ต้น (4) คนร้ายลักลอบตัดไม้พะยูงในโรงเรียนห้วยเม็กวิทยา 1 ต้น, (5) ลักลอบตัดไม้พะยูงที่สถานีวนวัฒนวิจัยกาฬสินธุ์ ต.อุ่มเม่า อ.ยางตลาด 1 ต้น (6) รับแจ้งขออนุญาตตัดไม้พะยูงขายจำนวน 3 ต้นที่โรงเรียนคุรุชนประสิทธิ์ศิลป์ อ.ห้วยเม็ก (7) ตัดและขายไม้พะยูงทอดตลาด 6 ต้น ที่โรงเรียนหนองแวงบ่อแก้ว (8) ที่โรงเรียนชุมชนดอนยูงวิทยายน อ.ยางตลาด และล่าสุด (9) ที่โรงเรียนบ้านสร้างแก้ว อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์