ลุงวัย 63 ปีชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ฉุนทวงหนี้ไม่ได้ บุกยิงพ่อค้าร้านคอหมูย่างได้รับบาดเจ็บสาหัสกลางตลาดเย็นทุ่งศรีเมือง เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ก่อนเข้ามอบตัวพร้อมอาวุธปืน เบื้องต้นคาดว่าเกิดจากการทวงหนี้

เมื่อเวลา 17.40 น. วันที่ 10 สิงหาคม 2566 ร.ต.ท.ปุณยวัจน์ กระจ่าง ร้อยเวร สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งเหตุใช้อาวุธปืนยิงกัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ที่บริเวณตรงข้ามสำนักงานแขวงทางหลวงชนบท ถนนอภัย ต.กาฬสินธุ์ อ.เมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์ หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อม เดินทางตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.ท.สุเทพ ภูกัณหา รองผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พ.ต.ท.ชูชาติ อุทธิสินธ์ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยชุดสืบสวน และสายตรวจสภ.เมืองกาฬสินธุ์

โดยที่เกิดเหตุอยู่บริเวณหน้าร้านน้องแชมป์คอหมูย่าง และหมูปิ้ง ตลาดเย็นทุ่งศรีเมือง ถ.อภัย ต.กาฬสินธุ์ อ.เมืองกาฬสินธุ์ โดยพบผู้บาดเจ็บถูกยิงที่โหนกแก้มด้านขวา 1 นัด ได้รับบาดเจ็บสาหัส หน่วยกู้ชีพ กู้ภัยช่วยกันปั้มหัวใจ และเร่งนำส่งโรงพยาบาล ทราบชื่อคือนายสะอาด ศรีฤทธิ์ อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 110/2 ถนนซอยน้ำทิพย์ ต.กาฬสินธุ์ อ.เมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นเจ้าของร้านน้องแชมป์คอหมูย่าง
จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายวรรณา ชายผา อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 172/4 ถ.ทุ่งศรีเมือง ต.กาฬสินธุ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นผู้ใช้อาวุธปืนพกสั้นขนาด .32 ยิงนายสะอาดหรือนายแมวได้รับบาดเจ็บ และหลังก่อเหตุได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนสภ.เมืองกาฬสินธุ์ พร้อมอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ

ทั้งนี้ จากการสอบถามเบื้องต้นถึงสาเหตุครั้งนี้ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายวรรณาได้มาทวงหนี้เงินกู้ที่นายสะอาดยืมมากว่า 2 แสนบาท แต่ผู้บาดเจ็บไม่มีให้ จนเกิดการโต้เถียงกัน และก่อนหน้านี้ทั้งสองก็เคยเกิดการโต้งเถียงกันเรื่องทวงหนี้ จึงอาจเป็นสาเหตุลงมือก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งพนักงานสอบสวนจะร่วมกับพิสูจน์หลักฐานตรวจสถานที่เกิดเหตุเก็บหลักฐาน และทำการสอบปากคำผู้ก่อเหตุอย่างละเอียดต่อไป

สอบถามนางนวลจันทร์ ชัยผา อายุ 63 ปี แม่ค้าขายข้างแกงอยู่ตรงข้ามกัน ซึ่งเป็นภรรยานายวรรณา ชัยผา อายุ 63 ปี ผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ก่อนที่เกิดเหตุนั้น ตนยังเห็นสามีบรรจุอาหาร ข้าวแกง ใส่ถุงเตรียมขายให้ลูกค้าตามปกติ ก่อนที่ต่อมาจะได้ยินดังเหมือนเสียงยางรถจักรยานยนต์ระเบิด ทางด้านฝั่งตรงข้ามซึ่งเป็นร้านน้องแชมป์ จากนั้นก็เห็นสามีวิ่งข้ามถนนมาขับขี่รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ข้างร้านออกไป พร้อมที่ได้ยินเสียงพ่อค้าแม่ค้าและลูกค้าที่กำลังมาเดินเลือกซื้ออาหารร้องตะโกนว่านายแมวถูกยิง และนอนล้มฟุบกับพื้นแล้ว

นางนวลจันทร์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาตนไม่เคยรู้ว่านายวรรณาสามีมีอาวุธปืน แต่ระยะหลังๆนี้จะได้ยินนายวรรณาสามีร้องขึ้นอย่างอารมณ์เสียบ่อยๆว่า “อยากฆ่าคนโว้ย” ซึ่งพอตนถามว่าอยากจะฆ่าใครสามีก็ไม่บอก อีกอย่างที่ผ่านมาสามีค่อนข้างจะเป็นคนอารมณ์ร้อน บางครั้งก็จะตบตีตน แต่ก็ไม่ถึงขั้นรุนแรงและบาดเจ็บ

อย่างไรก็ตามสำหรับสาเหตุที่สามีลงมือก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงนายแมวในครั้งนี้ เชื่อว่าคงเป็นเรื่องของการทวงคืนที่นายสะอาดกู้ยืมไปเมื่อ 7-8 เดือนก่อนจำนวน 2 แสนบาท ซึ่งเป็นเงินที่ได้จากการเก็บหอมรอมริบค้าขายข้าวแกงที่ตลาดแห่งนี้มากว่า 20 ปี เท่าที่ตนทราบสามีคิดดอกเบี้ยกับนายสะอาดร้อยละ 5 โดยนายสะอาดจะนำไปปล่อยกู้กินดอกเบี้ยอีกต่อหนึ่ง และที่ผ่านมานายสะอาดไม่ยอมผ่อนชำระ ซึ่งสามีตนไปทวงถามหลายครั้งก็ไม่ยอมให้ จึงน่าจะเป็นเหตุจูงใจให้ตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงในครั้งนี้ สำหรับเหตุที่เกิดขึ้นทำให้ตนรู้สึกช็อคและเสียใจมาก ในส่วนของคดีความ ก็คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย และไม่มีหลักทรัพย์ที่จะไปประกันตัวสามีอย่างแน่นอน

ด้านนางประคอง ศุภเมืองแสน อายุ 67 ปี แม่ค้าขายกับข้าวฝั่งตรงข้ามที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ช่วงที่เกิดเหตุนั้น ตน และพ่อค้า แม่ค้าต่างพากันขายของตามปกติ และช่วงที่ลูกค้ากำลังพลุกพล่าน ผู้คนกำลังมาหาซื้ออาหารเย็น ก่อนเกิดเหตุเห็นนายวรรณาเดินไปหานายสะอาด ก่อนจะมีปากเสียงกัน สักพักก็ได้เสียงปืน 1 นัด และเห็นนายวรรณาวิ่งออกมาขี่รถจรยานยนต์ออกไป แต่ช่วงที่ยิงนั้นตนไม่เห็นเพราะกำลังขายของ ส่วนสาเหตุคาดน่าจะมาจากการทวงเงินกัน