หนีไม่รอด หัวโจกจอมบงการ กรรโชกทรัพย์กว่า 3 ล้าน อ้างเป็นตำรวจกองปราบปราม และ กอ รมน. จนมุมนักสืบเมืองกรุง

หนีไม่รอด หัวโจกจอมบงการ กรรโชกทรัพย์กว่า 3 ล้าน อ้างเป็นตำรวจกองปราบปราม และ กอ รมน. จนมุมนักสืบเมืองกรุง

สืบเนื่องวันที่ 11 เม.ย. ที่ผ่านมา ได้มีกลุ่มชายจำนวนหนึ่งแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ทหาร กอ.รมน. กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สังกัด กองปราบปรามเข้าขอทำการตรวจค้นบ้านที่เกิดเหตุ ย่านหัวหมาก และได้ร่วมกันกรรโชกเงินจากผู้เสียหายเป็นเงิน 3 ล้านบาท ขณะที่ภายในบ้านมีทั้งผู้หญิง เด็กอายุ 9 ปี กับ 6 ปี อาศัยอยู่ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบนครบาล สืบ บก.น.4 และสน.หัวหมาก ได้ร่วมกับจับกุม นายยะฝาด กับพวกรวม 3 คน และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.(สส. ) ได้สั่งการให้ บช.น. ขยายผลจนถึงที่สุด ตามที่ได้เสนอข่าวไปนั่น

เมื่อวันที่ 26 เมษายน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พร้อมเจ้าหน้าที่สืบสวนนครบาล เจ้าหน้าที่สืบสวน บก.น.4 และชุดสืบสวนสน.หัวหมาก ร่วมกันจับกุม นายบุญเสริม อายุ 53 ปี ที่อยู่ 70/7 ตรอก ร.ร.เพชรบุรี แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กทม. ทำหน้าที่ผู้บงการข้อหา ร่วมกันกรรโชกทรัพย์และร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น

พฤติการณ์คดีนี้ เมื่อวันที่ 11 เม.ย. 66 เวลาประมาณ 12.30 น. ขณะที่ผู้เสียหายได้พักอาศัยอยู่ที่บ้านพักที่เกิดเหตุ ได้มีชายจำนวน 4 คน แอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ กอ.รมน. และเจ้าหน้าตำรวจกองปราบ มาขอทำการตรวจค้นบ้านหลังที่เกิดเหตุ และได้แจ้งแก่ผู้เสียหายว่าได้กระทำความผิดฐาน ยักยอก ต่อมาได้เรียกรับเงินจากผู้เสียหายเป็นจำนวนเงิน 3 ล้านบาท หลังจากนั้นได้หลบหนีไป

ต่อมาเจ้าหน้าตำรวจที่ได้ทำการขยายผลและได้ติดตามจับกุมตัวนายบุญเสริม คำสังข์ ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1282/2566 ลงวันที่ 25 เมษายน 2566 สามารถจับกุมได้ที่บริเวณข้างสนามศุภชลาศัย แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กทม.

สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ได้รู้จักกับผู้เสียหายมาประมาณ 6 ปี ก่อนเกิดเหตุ ได้วางแผนกับพวกที่ก่อเหตุเพียงเพื่อทวงหนี้ที่ต้องได้จากผู้เสียหาย โดยได้ให้ นายยะฝาด ผู้ต้องหาที่ถูกจับมาก่อนหน้านี้ขึ้นมาจากจังหวัดสงขลา แต่ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว หลังจากเกิดเหตุได้แบ่งเงินกันคนละ 500,000 บาท และหลังจากนั้นได้ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัว ส่งพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก ดำเนินคดี
//