จันทบุรี-ตม.จว.จันทบุรี “ไล่ล่าระทึก”

จันทบุรี-ตม.จว.จันทบุรี “ไล่ล่าระทึก”

วันที่ 3 เม.ย.2566 ตม.จว.จันทบุรี อำนวยการโดย พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย ผกก.ตม.จวจันทบุรี , พ.ต.ท.ศวัส โชติรณพัส รอง ผกก.ตม.จว.จันทบุรี สั่งการให้ พ.ต.ท.นิพนธ์ เรืองสม สว.ตม.จว.จันทบุรี พร้อมกำลังฝ่ายสืบสวน ตม.จว.จันทบุรี ร่วมกับ สภ.บ้านแปลง ตั้งด่านตรวจบริเวณริมถนนสาย จางวาง-บ้านแปลง ม.2 ต.หนองตาคง อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ขณะที่ตั้งด่านตรวจอยู่นั้น พบรถยนต์ตู้ลักษณะมีพิรุธต้องสงสัยจำนวนสามคัน ขับขี่มาด้วยความเร็วตามกันมาจาก อ.สอยดาว จ.จันทบุรี มาใกล้ถึงจุดตรวจ จึงส่งสัญญาณมือให้ชะลอความเร็วเพื่อขอทำการตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมายภายในรถ แต่ว่าเมื่อรถยนต์ตู้ทั้งสามคันเห็นด่าตรวจ กับเร่งเครื่องยนต์ขับรถฝ่าด่านตรวจ หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจจึงได้ติดตามไปพร้อมทั้งประสานไปยังจุดตรวจผ่านแดนถาวร บ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ให้ช่วยติดตามตรวจสอบ

ในเวลาต่อมาได้พบว่ารถยนต์ตู้ทั้งสามคันนั้นได้มาจอดที่ตลาดการค้าชายแดนบ้านแหลม ม.4 ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี จึงร่วมกันเข้าไปตรวจสอบ จากการตรวจสอบพบว่า รถยนต์ตู้คันที่ 1 มี นายณัฐพงษ์ อายุ 34 ปี สัญชาติไทย เป็นผู้ขับขี่ มีบุคคลต่างด้าวจำนวน 6 คน รถยนต์ตู้คันที่ 2 มี นายวิชญ์ภาส อายุ 40 ปี สัญชาติไทย เป็นผู้ขับขี่ มีบุคคลต่างด้าวจำนวน 10 คน รถยนต์ตู้คันที่ 3 มี นายเกร่ง อายุ 40 ปี สัญชาติไทย มีบุคคลต่างด้าวจำนวน 2 คน โดยสารมาด้วย ซึ่งบุคคลต่างด้าวทั้งหมดนั้นเป็นบุคคลต่างด้าวสัญชาติกัมพูชาที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จึงทำการจับกุมผู้ขับขี่รถยนต์ตู้ทั้งสามคันโดยกล่าวหาว่า “ช่วยเหลือซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยเหลือประการใด ๆ แก่บุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายให้พ้นจากการถูกจับกุม” และทำการจับกุมคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชาทั้ง 18 คน โดยกล่าวหาว่า “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” นำตัวผู้ถูกจับกุมพร้อมของกลางส่ง สภ.บ้านแปลง เพื่อดำเนินคดี ต่อไป


ในเวลาเดียวกันนั้นชุดเคลื่อนที่เร็ว ตม.จว.จันทบุรี ได้ทำการจับกุม นายพยนต์ อายุ 57 ปี สัญชาติไทย พร้อมด้วยบุคคลต่างด้าว 3 คน และทำการจับกุม นายอนันต์ อายุ 94 ปี สัญชาติไทย พร้อมด้วยบุคคลต่างด้าว 10 คน โดยกล่าวหา นายพยนต์ และนายอนันต์ ว่า “ช่วยเหลือซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยเหลือประการใด ๆ แก่บุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายให้พ้นจากการถูกจับกุม” พร้อมด้วยจับกุมคนต่างด้าวอีกจำนวน 13 คน คน โดยกล่าวหาว่า “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” ได้ที่บริเวณริมถนนสุขุมวิท ม.7 ต.ท่าช้าง อ.เมือง จ.จันทบุรี


ทั้งนี้ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิพัทฒ์ สัจจพันธ์ ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.วริศร์สิริภ์ ลีละสิริ ผบก.ตม.3 ได้สั่งกำชับให้ ตม.จว.จันทบุรี เพิ่มความเข้มงวดกวดขันและตรวจสอบบุคคลต่างด้าวในพื้นที่รับผิดชอบ เนื่องจากบริเวณพรมแดนไทย ด้านจังหวัดจันทบุรี มีพื้นที่ติดต่อกับประเทศกัมพูชาเป็นระยะทางยาวประมาณ 86 กิโลเมตร ง่ายต่อการลักลอบหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ทั้งนี้ ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดจันทบุรี ขอแจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรู้ถึงโทษและอันตรายอันเกิดจากการใช้แรงงานต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดย ตม.จว.จันทบุรี จะมีการดำเนินการป้องกันปราบปรามคนต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายอย่างอย่างสม่ำเสมอ ต่อเนื่องเป็นรูปธรรมชัดเจนและจริงจัง ควบคู่ไปกับการส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่เพื่อการดำเนินชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุขของคนในประเทศ

 

ภาพ/ข่าว จรัล บรรยงคเสนา จ.จันทบุรี
พรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์รวมข่าวภาคตะวันออก