พิจิตร-ป.ป.ช.พิจิตรข้องใจลงพื้นที่ตรวจงานกรมชลประทานก่อสร้างปตร.วังจิกงบ231ล้านใช้เวลา7ปีแล้วสร้างไม่เสร็จเสียที

ชาวนาลุ่มน้ำยมเมืองชาละวันชะเง้อคอรอคอยหวังได้ใช้น้ำจากโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำวังจิก อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร ที่กรมชลประทานจ้างผู้รับเหมาดำเนินการด้วยงบประมาณ 231 ล้านบาทเศษ แต่เจอเหตุผู้รับเหมาขาดสภาพคล่อง ละทิ้งงาน 7 ปีแล้วสร้างไม่แล้วเสร็จเสียที ล่าสุดมีคำชี้แจงรอผู้รับจ้างบอกเลิกสัญญาหรือจะขอทำต่อ 28 มี.ค. 66 มีคำตอบบอกชาวบ้านว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป

วันที่ 24 มีนาคม 2566 นายวราพงษ์ อินต๊ะโมงค์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดพิจิตร พร้อมเจ้าหน้าที่กลุ่มงานป้องกันการทุจริต ผู้แทนนายอำเภอโพธิ์ประทับช้าง กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่และเครือข่ายภาคประชาชนชมรม STRONG – จิตพอเพียงต้านทุจริตโพธิ์ประทับช้าง ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้ากรณีโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำบ้านวังจิก อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร ที่ดำเนินการโดยกรมชลประทานตามสัญญาว่าจ้างด้วยงบ 231 ล้านบาทเศษ ระบุในสัญญาจ้างเริ่มงาน 15 พ.ย. 2559 สิ้นสุดสัญญา 1 ส.ค. 2562 แต่ปรากฎว่าจากวันนั้นถึงวันนี้ผู้รับจ้างทำงานไม่เป็นไปตามแผนงาน ทำไป หยุดไป ล่าสุดทิ้งงานขนเครื่องจักร อุปกรณ์ ออกจากพื้นที่ก่อสร้างไปจนหมดสิ้น คิดเนื้องานที่ทำแล้วประมาณ 60% และยังมีเงินที่สามารถเบิกได้อีก 80 ล้านบาท หากทำจนแล้วเสร็จ


โดย นายธนบดี รักสัตย์ ผอ.สำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 3 เปิดเผยว่า ปัจจุบันความก้าวหน้าของโครงการอยู่ที่ 60% ซึ่งเป็นการทำงานก่อสร้างเทคอนกรีตฐานล่างที่อยู่ต่ำกว่าระดับพื้นดินเหลือแค่เพียงงานอาคารส่วนบนและการติดบานประตูแต่ด้วยสาเหตุ เนื่องจากผู้รับเหมาเดิมขาดสภาพคล่อง รวมถึงตอนที่เข้าประมูลแข่งขันก็ฟันราคาต่ำกว่าราคากลางเกือบ 80 ล้านบาท จึงทำให้เหลือครอสต้นทุนในการทำงานเพียงแค่ 231 ล้านบาทเศษ เรียกได้ว่าในส่วนที่จะเป็นกำไรหายไปจากการฟันราคา ดังนั้นเมื่อถึงตอนดำเนินงานจริงจึงเป็นเหตุขาดสภาพคล่อง ซึ่งผู้รับเหมารายดังกล่าวสร้างปัญหาในลักษณะนี้กับงานรับจ้างของกรมชลประทานในหลายแห่ง และถูกขึ้นบัญชีว่าเป็นผู้ละทิ้งงาน

แต่ในส่วนโครงการก่อสร้าง ปตร.วังจิก กรมชลประทานได้พยายามติดต่อผู้รับจ้างรายเดิมนี้เพื่อขอทราบความชัดเจนว่าจะทำต่อหรือจะยกเลิกยอมทิ้งงาน ซึ่งคงต้องรอฟังคำตอบอีกครั้งในวันที่ 28 มี.ค 2566 ซึ่งเป็นไปตามระเบียบและกฎหมายกำหนดตามมาตรการบอกเลิกสัญญา ซึ่งถ้าผู้รับเหมารายเดิมแสดงเจตนาจะขอทำงานต่อก็จะมีระยะเวลาให้ทำงานได้ยาวถึง 827 วัน และจะได้เงินค่าจ้าง 80 ล้านบาทในส่วนที่เหลือ ซึ่งตรงกันข้ามหากผู้รับเหมารายเดิมทิ้งงานกรมชลประทานก็ต้องใช้ระยะเวลาหาผู้รับจ้างรายใหม่ ภายในเดือน ก.ย. 2566 เพื่อดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 365 วัน


ในส่วนของ นายนรสิงห์ ยังเพ็ง กำนันตำบลวังจิก อ.โพธิ์ประทับช้าง กล่าวว่า อยากให้โครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำวังจิกสร้างให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เนื่องจากประตูระบายน้ำแห่งอื่นๆ อีก 3 แห่ง ที่อยู่ในแม่น้ำยม ที่กรมชลประทานทำเองต่างจะแล้วเสร็จภายในปี 2566/2567 นี้ แต่มีอยู่แห่งเดียวคือที่ ปตร.วังจิก ก็ไม่รู้ว่าจะยืดเยื้อยาวไปถึง 827 วัน หรือ 365 วันกันแน่ แต่ถ้าเลือกได้อยากได้ผู้รับเหมารายใหม่หรืออยากให้กรมชลประทานทำเองน่าจะสำเร็จเสร็จได้ดีกว่าผู้รับจ้างผู้รับเหมาทำ เนื่องจากเกรงประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยเดิม


นายวราพงษ์ ผอ.ป.ป.ช.ประจำจังหวัดพิจิตร ให้สัมภาษณ์ว่าจากการลงพื้นที่และประชุมหารือ เบื้องต้นพบว่าผู้รับจ้างไม่ได้ดำเนินการก่อสร้างต่อเนื่อง และทิ้งงานโดยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ในไซต์งานก่อสร้างทั้งหมดไปนานหลายเดือนแล้ว เหตุขาดสภาพคล่อง ซึ่งการลงพื้นที่ครั้งนี้ไม่ได้มาจับผิดเรื่องการทุจริตแต่เป็นการมารับฟังปัญหาเพื่อช่วยกันหาแนวทางแก้ไขเพื่อที่จะให้การก่อสร้างดำเนินการแล้วเสร็จ ซึ่งถ้า ปตร.วังจิกแห่งนี้สร้างแล้วเสร็จเกษตรลุ่มน้ำยมในพื้นที่ ต.วังจิก ต.รังนก และแหล่งน้ำคลองสาขาพื้นที่การเกษตรกว่า 30,000 ไร่ ก็จะได้รับประโยชน์มีน้ำทำนารวมถึงจะช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้ง ได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

 

สิทธิพจน์ พิจิตร