“ สืบนครบาล รวบเสี่ยณัฐพระโขนงหลอกนำทองปลอมหลอกขายพริตตี้สาว ”

“ สืบนครบาล รวบเสี่ยณัฐพระโขนงหลอกนำทองปลอมหลอกขายพริตตี้สาว ”

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้ปราบปรามอาชญากรรมทุกรูปแบบที่กระทำความผิดสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก ชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบสวนนครบาล IDMBได้รับแจ้งเรื่องความเดือนร้อนจากประชาชนอาชีพพริตตี้ถูกคนร้ายนำทองปลอม น.น. 2 บาท มาหลอกขาย เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหายจำนวน 30,000 บาท และจากการตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์คนร้ายที่ก่อเหตุเคยถูกจับกุมในคดีลักทรัพย์ในเวลากลางคืน และฉ้อโกงมาแล้ว 2 ครั้ง


ต่อมาวันที่ 26 ธันวาคม 2565 เวลาประมาณ 18.30 น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.สราวุธ คนใหญ่ , พ.ต.อ.นิวัตน์ พึ่งอุทัยศรี , พ.ต.อ.กมล นุ่มหอม รอง ผบก สส.บช.น. , พ.ต.อ.ฤตวีร์ สุขเจริญ ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น , พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. พร้อมด้วยชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบสวนนครบาล IDMB และเจ้าหน้าที่ กก.วิเคราะห์ข่าวฯบก.สส.บช.น. ได้สืบสวนติดตามจับกุมตัว นายณัฐอินทร์ทัช อายุ 34 ปี ที่อยู่ เลขที่ 7 ซอยวชิรธรรมสาธิต 74 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ


โดยกล่าวหาว่าฉ้อโกง ตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ ที่ 622/2565 ลงวันที่ 2 กันยายน พ.ศ.2565
สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่บริเวณลานจอดตลาดรถวิน ภายในซอยศรีนครินทร์ 40 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร
จากการซักถามปากคำในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การภาคเสธว่าเมื่อ มิ.ย.65 ตนไม่ได้มีเจตนาที่จะนำทองปลอมน้ำหนัก 2 บาท มาเสนอขายให้แก่พริตตี้สาวผู้เสียหาย แต่ทองดังกล่าวอ้างว่าตนได้มาจากการรับซื้อมาจากคนที่เล่นเสียพนัน โดยในวันเกิดเหตุเมื่อตนได้ทองมาจากผู้เล่นเสียพนันให้ตนแล้ว ตนได้นัดพริตตี้สาวให้มาพบ ต่อมาตนมีธุระที่จะต้องใช้เงินด่วนจึงได้เสนอให้พริตตี้โอนเงินเข้าบัญชีตนจำนวน 30,000 บาท เพื่อแลกกับสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 2 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนมิได้ปักใจเชื่อคำให้การ


เนื่องจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าผู้ต้องหาเป็นคนที่มีความรู้ด้านการสั่งทำกรอบพระ สั่งทำเครื่องประดับ ที่ทำจากเงินและทองไม่บริสุทธิ์ โดยมีร้านรับทำกรอบพระย่านศรีนครินทร์เป็นของตนเอง จึงมีความรู้ในการสั่งซื้อสั่งทำเครื่องประดับ รวมทั้งรู้แหล่งซื้อทองปลอมราคาหลักพัน ประกอบกับเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์กระทำความผิดของผู้ต้องหาพบว่าก่อนหน้าที่จะมาถูกจับกุมในครั้งนี้ ผู้ต้องหาดังกล่าวเคยถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกง และ ข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน มาแล้ว 2 ครั้ง คือ
– ปี 2554 ถูกจับกุมข้อหา “ ฉ้อโกง ” ท้องที่ สน.หัวหมาก ครั้งนั้น มีพฤติการณ์หลอกนำพระปลอมไปหลอกให้ผู้เสียหายเช่าบูชา มูลค่าความเสียหายกว่า 200,000 บาท
– ปี 2557 ถูกจับกุมข้อหา “ ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ” ท้องที่ สน.โชคชัย ครั้งนั้น มีพฤติการณ์ชักชวนผู้เสียหายไปร่วมรับประทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งก่อนจะฉวยโอกาสขณะที่ผู้เสียหายเข้าห้องน้ำลักเอาทรัพย์สินที่อยู่ภายในซองเอกสารซึ่งเป็นเงินสดกว่า 100,000 บาท พร้อมเอกสารสำคัญของผู้เสียหายไป


ทั้งนี้ ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการจับกุมตัวผู้ต้องหา ปรากฏผู้ต้องหามีการใส่เครื่องประดับที่มีลักษณะเหมือนทองคำที่คอและข้อมือเพื่อดูให้เป็นคนมีฐานะ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจซักถามผู้ต้องหาให้การเครื่องประดับที่สวมใส่นั้นเป็นทองปลอมที่ตนซื้อมาในราคาหลักพันบาท เหตุที่ตนสวมใส่เครื่องประดับดังกล่าวเนื่องจากเป็นความชอบส่วนตัว เพื่อให้ตนดูภูมิฐานมีฐานะ เป็นที่น่าเชื่อถือดึงดูดความสนใจของเพศตรงข้าม โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิงที่เป็นนักเที่ยวกลางคืน พริตตี้ จึงนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวแจ้งเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่าในสังคมปัจจุบันมิจฉาชีพมีหลายรูปแบบ ขอให้ประชาชนได้โปรดใช้สติในการใช้ชีวิตในสังคม อย่างหลงเชื่อกลโกง หรือมองคนที่การแต่งตัวหรือสวมใส่เครื่องประดับ ควรมีสติวิเคราะห์ถึงพฤติกรรม กลโกง หากไม่แน่ใจ หรือสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอผลประโยชน์ เสนอขาย หรือชักชวนลงทุนในด้านต่างๆ นั้นจะเป็นมิจฉาชีพหรือไม่ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.