ปราจีนบุรี-ไฟไหม้บ้านกลางชุมชนหวิดลามซ้ำรอยไฟไหม้ใหญ่กลางเมือง

ปราจีนบุรี-ไฟไหม้บ้านกลางชุมชนหวิดลามซ้ำรอยไฟไหม้ใหญ่กลางเมือง

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 23 ธันวาคม 2565 ร.ต.อ.อชิดา ไผ่โสภา ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองปราจีนบุรี ได้รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัยสว่างบำเพ็ญธรรมสถานปราจีนบุรี ว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย บริเวณชุมชนริมทางรถไฟ ต.หน้าเมือง อ.เมืองปราจีนบุรี จึงได้ประสานผู้บังคับบัญชาทราบ โดยมี พ.ต.อ.กสินธุ์ ธำรงศรีสุข ผู้กำกับ สภ.เมืองปราจีนบุรี นายวิธรัช รามัญ นายอำเภอเมืองปราจีนบุรี ได้เดินทางมาร่วมตรวจสอบในที่เกิดเหตุ


ที่เกิดเหตุดังกล่าวเป็นบ้านไม้สองชั้นและด้านข้างมีการต่อเติมชั้นล่างออกไปทั้งสองข้าง ต้นเพลิงเกิดจากบ้านหลังกลาง ซึ่งไฟกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรงขึ้นไปถึงชั้นสองของตัวบ้าน ด้วยเหตุที่บ้านต้นเพลิงเป็นบ้านไม้หลังกลาง ทำให้บ้านที่อยู่ด้านข้างทั้งซ้ายและขวา เกิดไฟไหม้ลูกลามทั้ง2ฝั่ง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากข้างเคียงต้องสนับสนุนรถน้ำมาช่วย ทั้งรถน้ำเทศบาลเมืองปราจีนบุรี, อบต.บ้านพระ, อบต.ดงพระราม, อบต.รอบเมือง, อบจ. และรถน้ำจากมณฑลหทารบกที่ 12 ใช้เวลาประมาณ 40 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ต่อมา กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ โดย กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ จัดกำลังพลจิตอาสาเข้ามาช่วยเหลือประชาชนในครั้งนี้ด้วย


จากการสอบถามนางปอราวรรณ์ สินธุรัมย์ อายุ 62 ปี บ้านเลขที่ 34/1 ต.หน้าเมือง อ.เมืองปราจีนบุรี ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์คนแรกและเป็นผู้ที่ถูกไฟไหม้บ้านด้วย เป็นบ้านติดกันหลังซ้ายมือ ได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า บ้านของตนเองเปิดเป็นร้านเย็บผ้า ขณะเกิดเหตุตนเองกำลังเย็บผ้าอยู่ และได้กลิ่นควันไฟ จึงเดินไปดูหลังบ้านว่ามีใครเผาอะไรมั้ย แต่พอเดินกลับเข้ามาในบ้าน พบว่ากลุ่มควันพุ่งลงมาจากหลังคาของบ้านที่อยู่ติดกัน จึงทราบว่าเกิดเหตุไฟไหม้ ตนเองจึงได้หยิบเอาแต่เพียงชุดของลูกค้าที่มาเย็บออกมาได้แค่นั้น ก่อนที่จะรีบโทรศัพท์ไปแจ้งเจ้าของบ้านหลังที่เป็นต้นเพลิง แต่ไม่รับสาย ขณะที่ไฟได้เริ่มลุกลามอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ช่วยกันใช้น้ำฉีดสกัดอย่างโกลาหล ส่วนบ้านที่เป็นต้นเพลิงหลังกลาง บ้านเลขที่ 36 มีนางพรทิพย์ มากโชติ อายุ 53 ปี เป็นผู้อยู่อาศัย ขณะเกิดเหตุไม่มีคนอยู่บ้าน และมีรถยนต์เก๋งฮอนด้า ซีวิค สีแดง หมายเลขทะเบียน กต 6185 ปราจีนบุรี จอดอยู่หน้าบ้าน เจ้าหน้าที่จึงต้องช่วยกันเข็นออกมาก่อนที่จะถูกไฟไหม้ไปด้วย


สอบถามจ.ส.อ.บุญลพ กัทรี อายุ 80 ปี บ้านเลขที่ 34-36 ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านทั้ง3หลัง กล่าวว่า ตนเองได้ต่อเติมบ้าน และมีคนมาเช่าอยู่ เป็นบ้านหลังซ้ายและหลังกลางที่เป็นต้นเพลิง ขณะเกิดเหตุตนเองอยู่หลังบ้าน เห็นไฟไหม้บ้านหลังกลางตนเองพร้อมภรรยาจึงรีบหนีออกมานอกบ้าน สำหรับสาเหตุของการเกิดเหตุไฟไหม้ในครั้งนี้ก็ยังไม่ทราบว่าเกิดเหตุจากอะไร ต้องรอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบหาสาเหตุและสอบสวนเจ้าของบ้านหลังต้นเพลิงเสียก่อน การเกิดเหตุไฟไหม้ครั้งนี้ชาวบ้านบริเวณดังกล่าวเกิดความหวาดกลัวกับเหตุการณ์เนื่องจากบริเวณนั้นเป็นบ้านไม้ที่อยู่ติดกันหลายหลัง และจากเหตุการณ์ไฟไหม้กลางเมืองปราจีนบุรีจึงทำให้กลัวเหตุการณ์ซ้ำรอย แต่ในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ทันท่วงที มีบ้านเรื่องได้รับความเสียหาย 4 หลังคาเรือน ยังไม่สามารถประเมินค่าความเสียหายได้

///////// /ณัฐวัฒน์ กุลเศรษฐ์สุวภา ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรี