มองบทบาท “นิพนธ์ บุญญามณี” ขุนพล”ประชาธิปัตย์”ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่าจะ”ฝ่าข้าม””พรรคเจ้าถิ่น” และ “เม็ดเงิน ธุรกิจ”สีเทา” รวมทั้ง การสั่ง”ซ้ายหัน-ขวาหัน “จากผู้มีอำนาจ และอิทธิพลของ”บีอาร์เอ็น” อย่างไร

มองบทบาท “นิพนธ์ บุญญามณี” ขุนพล”ประชาธิปัตย์”ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่าจะ”ฝ่าข้าม””พรรคเจ้าถิ่น” และ “เม็ดเงิน ธุรกิจ”สีเทา” รวมทั้ง การสั่ง”ซ้ายหัน-ขวาหัน “จากผู้มีอำนาจ และอิทธิพลของ”บีอาร์เอ็น” อย่างไร


ติดตามดูความเคลื่อนไหวของพรรคประชาธิปัตย์ในการ”สรรหา” ผู้สมัครในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ “ปัตตานี,ยะลา” และ”นราธิวาส” ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งใหม่ จะมีการเพิ่มเขตเลือกตั้งใน จ.นราธิวาสอีก 1 เขต จาก 4 เขต เป็น 5 เขต จ.ยะลา มี 3 เขตเลือกตั้ง และ จ.ปัตตานีมี 4 เขต รวมเป็น 12 เขตเลือกตั้ง
ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 พรรคประชาธิปัตย์เหลือ สส.ในพื้นที่ 3 จังหวัดเพียง”หนึ่งเดียว” นั้นคือ นายอัลวาร์ สาและ” สส.เขต 1 ของ จ.ปัตตานี ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งหน้า “อัลวาร์” คงต้องไปสมัคร สส.ในพรรคการเมืองอื่น เพราะ”ประชาธิปัตย์” ไม่ได้ส่ง”อัลวาร์” ลงสมัคร โดยได้มีการเปิดตัวผู้สมัครคนใหม่ในเขต 1 ปัตตานีไป แล้วนั่นเอง


สาเหตุหนึ่งที่ “ประชาธิปัตย์” เหลือ สส. เพียงคนเดียวในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 เป็นเพราะ” สุเทพ เทือกสุบรรณ” ผู้นำ”นกหวีด” อดีต “เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์” ใช้วิธีการ”ตกปลาในบ่อประชาธิปัตย์” ไปลงสมัครใน”พรรคการเมืองของตนเอง” ที่ตั้งขึ้นใหม่ ด้วยวิธีการเดียวกับที่”พรรครวมไทยสร้างชาติ” ดำเนินการอยู่ในขณะนี้ ทำให้ พรรคประชาธิปัตย์” เสียศูนย์” เพราะเสียอดีต สส.ไปเกือบหมด และ อดีต สส.ของ”ประชาธิปัตย์” ที่ไป”กอดคอ” กับ” สุเทพ เทือกสุบรรณ” ก็ไปไม่ถึง”ดวงดาว” กลายเป็น สส. สอบตก”ระเนระนาด”
การเลือกตั้งที่จะมาถึงในปี 2566 ผู้ที่ถูกพรรคประชาธิปัตย์วางตัวให้”รับผิดชอบ”ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้คือ “นิพนธ์ บุญญามณี” รองหัวหน้าพรรค และ ผู้อำนวยการเลือกตั้งของพรรค ซึ่งหลังจากเวลาหลายเดือนในการ”สรรหา”ผู้สมัครตาม”กติกา”ของพรรค จนได้ผู้สมัครครบทั้ง 12 เขต เลือกตั้งใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และได้มีการ”เปิดตัว” อย่าง”คึกคัก” ไปแล้ว ที่หอประชุม มหาวิทยาลัยราชภัฎ จ.ยะลา เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
ซึ่งในการ”เปิดตัว” ผู้สมัครทั้ง 12 เขตของ”ประชาธิปัตย์” ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พบว่า”ว่าที่ผู้สมัคร” ส่วนใหญ่ เป็นนักการเมือง”หน้าใหม่ ที่ไม่เคยลง”เล่นการเมือง” ระดับชาติ มีเพียง”เจะอามิง โต๊ะตาหยง” ผู้สมัครเขต 5 จ.นราธิวาส และ”ณรงค์ ดูดิง” อดีต สส.เขต 3 จ.ยะลา ที่เป็น อดีต สส.เก่าของพรรคประชาธิปัตย์


ซึ่งเห็นได้ชัดว่า ในการเลือกตั้ง ที่จะมีขึ้นในปี 2566 “ว่าที่ผู้สมัคร” ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่จะมี”เลือดใหม่” หรือ”คนรุ่นใหม่” เข้ามาให้ใน”สนามเลือกตั้ง” ซึ่งไม่เพียงแต่ในพื้นที่”สามจังหวัดชายแดนภาคใต้” แต่ยังมีอีกหลายจังหวัด ที่มีการ”ส่งคนรุ่นใหม่” ให้ ประชาชน ได้ทำการ”พิจารณา” เช่น จ.สตูล .พัทลุง .สงขลา .นครศรีธรรมราช และ ตรัง รวมทั้งอีกหลายพื้นที่
การส่งผู้สมัคร สส.ครั้งนี้ของ”ประชาธิปัตย์” จึงเป็นการ “ผสมผสานกัน” ระหว่าง “นักการเมืองเก่า” ที่เป็น สส. อยู่แล้วในเขตเลือกตั้ง กับนักการเมือง”รุ่นใหม่” ที่เข้ามา”เสริมทัพ” เพื่อให้ถึงความ”เปลี่ยนแปลง” การ”เปิดโอกาส” ให้”คนรุ่นใหม่” ที่”สนใจการเมือง” และที่สำคัญเป็นผู้”สนใจการเมืองรุ่นใหม่” ที่ต้องการลงสมัครในนามของ”ประชาธิปัตย์”


ซึ่งก็จะ”สวนทาง”กับการที่”พรรคการเมืองหลายพรรค” ที่ออกมา”โจมตี” ว่า”ประชาธิปัตย์” เป็นพรรคการเมืองที่”ไร้เสน่ห์” มีแต่”สมาชิกไหลออก” และในการเลือกตั้งครั้งหน้า”ประชาธิปัตย์” อาจจะเหลือ สส.ที่”สอบได้” น้อยกว่าในการเลือกตั้งปี 2562 แต่จากการที่ มี”คนรุ่นใหม่” เสนอตัวเข้ามา เพื่อลงรับสมัครรับเลือกตั้งในนาม”ประชาธิปัตย์” ทำให้เห็นว่าการถูก”โจมตี” และการ”สพประมาท” เป็นเรื่องที่”ไม่จริง
โดยเฉพาะ สส.ที่”ไหลออก” เพื่อในสมัครในนามพรรคการเมือง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลเรื่อง”การเงิน” เรื่อง”พรรคพวก” และเรื่อง”ผลโพล”ก็ต้องเข้าใจด้วยว่า ในการลงสมัครในนาม”พรรคใหม่” คะแนนส่วนหนึ่งที่เป็น”คะแนนพรรค”อาจจะไม่ได้ติดตามไปกับตัว สส. หรือ ผู้สมัคร ดังนั้นถ้า “ประชาธิปัตย์” ได้ ผู้สมัคร”หน้าใหม่” ที่มี”คะแนนนิยม” จากคนในพื้นที่สูง เมื่อบวกกับ”คะแนนพรรค” ก็ทำให้ได้เป็น”สส. ไม่ยากนัก ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งหน้า ให้”จับตามอง” การเลือกตั้ง เขต 1 ปัตตานี ที่”ประชาธิปัตย์” มี”คะแนนพรรค” ที่”เหนียวแน่น” เพื่อลงคะแนนให้กับผู้สมัครในนามพรรค ที่อาจจะทำให้”อดีต สส.” ที่ไปลงสมัครในพรรคอื่น ต้อง”น้ำตาตก” ก็เป็นได้
สำหรับพื้นที่ของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ “คู่แข่ง”ของทุกพรรคการเมือง ซึ่งไม่ใช่เฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ คือ”พรรคประชาชาติ” ที่มี วันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็นหัวหน้าพรรค และมี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง สส.บัญชีรายชื่อ เป็น เลขาธิการพรรค ที่มี สส. 6 คน ถ้าไม่รวม “อนุมัติ ซูสารอ” ที่”แปรพรรค” ไปอยู่กับ”พลังประชารัฐ” นานแล้ว ต่างมี ผลงานในการ”อภิปราย” ในสภาทุกคน และที่สำคัญ ทั้ง “วันนอร์” และ”ทวี” มีการ”ทำการบ้าน” และ”เกาะติดพื้นที่” อยู่ตลอดเวลา ซึ่งในการ”เลือกตั้ง” ครั้งนี้ทุกพรรคการเมืองก็จะ”ฟาดฟัน” สส.ของ”ประชาชาติ” เพื่อ”แย่งชิง” ที่นั่ง ในขณะที่”ประชาชาติ” ก็ต้องการเพิ่ม จำนวน สส.ให้มากกว่าเดิม ดังนั้น”สนามเลือกตั้ง” ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงเป็น”พื้นที่เล็ก” แต่”ดุเดือดเลือดพล่าน” และ”ตื่นเต้น-เร้าใจ” เพราะในพื้นที่แห่งนี้ มี”ปัจจัยอื่นๆ ทั้งแต่มี”กำลังทหาร” หลายหมื่นคน ที่อาจจะ”ซ้ายหัน-ขวาหัน” ตาม”คำสั่ง” ได้ และยังมีเรื่อง”อิทธิพล” ผลประโยชน์ จาก ขบวนการธุรกิจ”สีเทา” โดยเฉพาะ “ยาเสพติด,บุหรี่เถื่อน,น้ำมันเถื่อน และสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือ” อิทธิพล” ของ ขบวนการแบ่งแยกดินแดน”บีอาร์เอ็น” จะยืนอยู่”ฝั่งไหน” ตัว”บุคคล” หรือ”พรรคการเมือง” ล้วนเป็น”ตัวแปร” กับการ เลือกตั้ง” ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้งสิ้น
ซึ่งก็ต้อง”ยอมรับว่า” นี่เป็นงานหนักของ”นิพนธ์ บุญญามณี “ รองหัวหน้าพรรค และผู้อำนวยการเลือกตั้ง ที่จะต้องมี”ยุทธศาสตร์” ในการเลือกตั้งเฉพาะในพื้นที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ใน”อดีต” พรรคประชาธิปัตย์” เคย”เป็นแชมป์” มี สส.มากที่สุด และการมี”ยุทธศาสตร์” อย่างเดียวไม่พอ” แต่ต้องมี”กลยุทธ” ในการแปร”ยุทธศาสตร์” ไปสู่การ”ปฏิบัติการ” เพื่อให้ ผู้สมัคร นำไปใช้ในการ”หาเสียง” ใน แต่ละพื้นที่ เพราะเชื่อว่าคนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังให้การ”ต้อนรับ” การกลับมาของพรรคประชาธิปัตย์อยู่
และที่สำคัญจากการติดตามความ”เคลื่อนไหว”ของพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นการเดิน”เกมการเมือง” ตาม”กติกา”ของการทำการเมืองที่มี”จริยธรรม” เมื่อมีคน”ไหลออก”ก็ไม่”ตีโพยตีพาย” แต่มีการหา”คนใหม่” เข้ามาแทนที่ และ การหาผู้สมัครของ”ประชาธิปัตย์” ก็ไม่มีการ”ตกปลาในบ่อเพื่อน” อย่างที่หลายพรรคการเมืองทำกัน ดังนั้นการเลือกตั้งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่ง”ประชาธิปัตย์” มี สส.เพียง 1 เขต ใน จ.ปัตตานี ครั้งนี้ไม่ว่าได้ สส.เพิ่มกี่คน ก็ถือว่าเป็น”กำไร” ที่ สำคัญคือเป็นการ”เล่นการเมือง” ตาม”กติกา” ของพรรคการเมืองเก่าแก่ ที่มี”บรรทัดฐาน” ซึ่งเป็นเรื่องที่พรรคการเมือง ที่ต้อง”ปฏิบัติ” และ”รักษา”เอาไว้

นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา