สตูล ชาวสตูลเฮ!! “ลาโตส” หรือสาหร่ายขนนก อาหารพื้นถิ่นทานได้ตลอดทั้งปีแล้ว หลังหนุ่มสตูลดีกรี ป.โท ใช้นวัตกรรมการเลี้ยง ในระบบน้ำหมุนเวียนแบบปิด พร้อมส่งต่อชุมชน

สตูล ชาวสตูลเฮ!! “ลาโตส” หรือสาหร่ายขนนก อาหารพื้นถิ่นทานได้ตลอดทั้งปีแล้ว หลังหนุ่มสตูลดีกรี ป.โท ใช้นวัตกรรมการเลี้ยง ในระบบน้ำหมุนเวียนแบบปิด พร้อมส่งต่อชุมชน

วันนี้ 7 ตุลาคม 2565 ที่ศูนย์เรียนรู้นครรีละงูปาร์ค ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 บ้านควนสำราญ ตำบลละงู อำเภอละงู จังหวัดสตูลนายวศินะ รุ่งเรือง หนุ่มสตูลดีกรีปริญญาโทสาขาประมง วัย 28 ปีนำชมโรงเรือนเลี้ยงสาหร่ายขนนก (หรือ ลาโตส ภาษาถิ่น) ซึ่งเป็นนวัตกรรมการเลี้ยงสาหร่ายขนนกในระบบน้ำหมุนเวียนแบบปิดบนพื้นที่ 30 ไร่ แห่งเดียวในจังหวัดสตูล เป็นการนำสาหร่ายในธรรมชาติผ่านการเพาะเลี้ยงแบบอินทรีย์ในระบบน้ำหมุนเวียนแบบปิด จนสามารถเลี้ยงสาหร่ายลาโตสจากพ่อแม่พันธุ์ธรรมชาติ ให้เกิดเป็นสปอร์ในโรงเรือนแบบปิดได้หลายต่อหลายรุ่นจากการลองผิดลองถูก จนขยายต้นอ่อนสู่ระบบการเลี้ยงในฟาร์มนับเป็นความท้าทาย และมุ่งมั่นกว่าจะมาเป็นวันนี้ สาหร่ายขนนก มีการดูแลคล้ายปะการังที่อ่อนไหวง่าย การเพิ่มคาร์บอนธาตุเพื่อการสังเคราะแสงในพืช อาหารจุลินทรีย์ย่อยเป็นแร่ธาตุไนโตรเจน ซึ่งการเลี้ยงจะใช้ 1 ตะกร้ามีสาหร่ายฯ 100 กรัม

ผ่านไป 2 สัปดาห์จะมีสาหร่ายเพิ่มขึ้น 300 กรัมทำให้เราตัดแยกออก (เหมือนเก็บตัดผักบุ้งได้ตลอดทั้งปี) โดยจะส่งขายกิโลกรัมละ 200 บาทถึง 250 บาท (ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการขอมาตรฐานผลิตภัณฑ์อินทรีย์) นอกจากนี้ที่ศูนย์เรียนรู้นครรีละงูปาร์ค ยังร่วมกับมูลนิธิยูนูสสร้างโมเดลธุรกิจการเลี้ยง สาหร่ายขนนก (หรือ ลาโตส ภาษาถิ่น) ในถังเพื่อส่งต่อความรู้ให้กับชุมชนเป็นการสร้างงานและรายได้และอนุรักษ์สาหร่ายให้อยู่คู่กับชุมชนและชาวสตูลตลอดไป หลังพบว่าสาหร่ายชนิดนี้กำลังหาทานได้ยากขึ้นเนื่องจากหนึ่งปีมีให้รับประทานเพียง 3 เดือนแล้วเท่านั้นที่เป็นช่วงฤดูแล้งและร้อนจัด เพราะไม่ชอบฝน “น้องหม่อน” หรือ นายวศินะ รุ่งเรือง ศูนย์เรียนรู้นครรีละงูปาร์ค บอกว่า จุดเริ่มต้นของการหันมาเลี้ยงสาหร่ายขนนก หรือ ลาโตส เพราะความชอบกิน และเห็นว่าสาหร่ายชนิดนี้มีเฉพาะฤดูร้อนเท่านั้นที่จะหามากินได้ เชื่อว่าตลาดมีความต้องการสูงและจะทำอย่างไรให้มีผลผลิตออกมาตลอดทั้งปี อีกทั้งชุมชนมีรายได้จึงเป็นที่มาของการตั้งศูนย์เรียนรู้ในครั้งนี้


จุดเริ่มต้นเลี้ยงมาถึง 4 ปี ปีแรกสนุกและตื่นเต้นมากับสิ่งที่ทำ แม้ไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่ มาปีที่ 2 และปีที่3 รู้ความต้องการของสาหร่ายชนิดนี้และสามารถเพาะเลี้ยงเองได้ จนวันนี้สามารถให้ผลผลิตเก็บทุกวัน 20-60 กก.สร้างรายได้หลักหมื่น เป้าหมายจะขึ้นขยายบ่อเลี้ยงพร้อมทำงานร่วมกับมูลนิธิยูนูส สร้างอาชีพเสริม โมเดลสู่ชุมชน ต่อยอดเป็นอาชีพ รายได้ เดือนที่ 3 – 4 ก็สามารถหลุดทุนได้ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีบ่อตกปลา มีค่ายเรียนรู้ฟาร์มสเตย์ ครัวในฟาร์ม ศูนย์เรียนรู้อนุรักษ์ป่าชายเลนด้วย


นายอดิศักดิ์ รุ่งเรือง คุณพ่อของน้องหม่อน ซึ่งมีดีกรีเป็นปราชญ์ปลานิล เล่าว่า สำหรับการทานสาหร่ายขนนก หรือ ลาโตส ซึ่งมีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม ทำให้ต้องทานแบบสด ๆ ไม่สามารถนำไปแช่ตู้เย็นได้ และเป็นอาหารท้องถิ่นชั้นเลิศ ซึ่งทางศูนย์ฯเห็นว่านี่คือจุดแข็งทำให้ผู้บริโภคที่ชื่นชอบทานต้องมาหาทานได้ที่จังหวัดสตูลเท่านั้น อีกทั้งการทานหากรู้เคล็ดลับก็จะทานสาหร่ายด้วยความอร่อย โดยเฉพาะสาหร่าย (ลาโตส) ของที่นี่ที่เลี้ยงแบบอินทรีย์ไม่มีสิ่งสกปรกก่อนรับประทานเพียงนำสาหร่ายที่ต้องการจะทานไปจุ่มน้ำ 1-2 ครั้งก็ยกใส่จานราดด้วยน้ำจิ้ม ขี้แซะ (ที่มีส่วนผสมของ ถั่วปน มะพร้าวคั่ว กะปิ พริก) ทานพอคำก็จะอร่อย สำหรับสรรพคุณของ สาหร่ายขนนก มีสรรพคุณต้านอนุมูลอิสระ มีวิตามิน ไอโอดีน และ กรดอะมิโนหลายชนิดที่พืชบกไม่มี

นิตยา แสงมณี // ผู้สื่อข่าวภูมิภาคประจำจังหวัดสตูล