ปทุมธานี รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ปทุมธานี ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำ สั่งทุกหน่วยร่วมมือป้องกัน ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างใกล้ชิด

ปทุมธานี รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ปทุมธานี ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำ สั่งทุกหน่วยร่วมมือป้องกัน ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างใกล้ชิด

เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2565 เวลา 14.00 น. พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำและแผนงานด้านทรัพยากรน้ำ โดยประชุมร่วมกับหน่วยงานด้านน้ำ ทั้งส่วนกลาง และในพื้นที่ ณ ห้องประชุมบัวหลวง ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดปทุมธานี โดยมี นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี รายงานสถานการณ์น้ำในจังหวัดปทุมธานี จากนั้นคณะรองนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ วัดโบสถ์ อ.สามโคก ตรวจระดับน้ำและการบริหารจัดการน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ท่าน้ำวัดโบสถ์ หลังจากเดินทางถึงวัดโบสถ์ สามโคก รองนายกรัฐมนตรี พลเอกประวิทย์ วงษ์สุวรรณ เข้าถวายสักการะพระราชวเมธาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ฝ่ายธรรมยุต เจ้าอาวาสวัดโบสถ์ จากนั้นท่านเจ้าอาวาสวัดโบสถ์ได้มอบวัตถุมงคลให้กับท่านรองนายกรัฐมนตรีฯพร้อมด้วยคณะผู้ติดตามเพื่อเป็นสิริมงคลต่อมาพระะราชวรมเมธาจารย์เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี (ฝ่ายธรรมยุต)เจ้าอาวาสวัดโบสถ์แนะนำสถานที่ภายในวัดโบสถ์และนำคณะรองนายกรัฐมนตรี กราบไหว้หลวงพ่อพุทธโสธร องค์โต กราบหลวงพ่อทันใจ กราบท้าวเวสสุวรรณฯ


ก่อนดูระดับน้ำหน้าวัด ก่อนเดินทาง ไปต่อยัง อบต.กระแชง อ.สามโคก พบปะประชาชนในพื้นที่ ให้กำลังใจและติดตามการทำงานของทีมงานขบวนคาราวานช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม วิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี ซึ่งช่วยกันทำอาหารแจกจ่ายประชาชนผู้ประสบภัย และวิทยาลัยเทคนิคธัญบุรีที่จัดทีมนักศึกษามาให้ความรู้ บริการช่วยเหลือชาวบ้านเกี่ยวกับยานพาหนะ เช่นเปลี่ยนผ้าเบรค ถ่ายน้ำมันเครื่อง และกลุ่มจิตอาสาร่วมกันกรอกกระสอบทราย ก่อนจะเดินทางลงพื้นที่ตรวจติดตามระดับน้ำที่ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ อ.ธัญบุรี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี สั่งการและกำชับถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการปรับปรุงซ่อมแซมประตูระบายน้ำอย่างเป็นระบบ เพื่อรองรับน้ำได้อย่างเต็มศักยภาพ รับมือทันสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง
สำหรับจังหวัดปทุมธานี มีทั้งหมด 7 อําเภอ ประกอบด้วย อําเภอเมืองปทุมธานี อําเภอธัญบุรี อําเภอคลองหลวง อําเภอลําลูกกา อําเภอลาดหลุมแก้ว อําเภอสามโคก และอําเภอหนองเสือ รวม 60 ตําบล 345 หมู่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 65 แห่ง

ประกอบด้วยองค์การบริหารส่วนจังหวัด 1 แห่ง เทศบาลนคร 1 แห่ง เทศบาลเมือง 9 แห่ง เทศบาลตําบล 17 แห่ง และองค์การบริการส่วนตําบล 37 แห่ง สถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในปัจจุบันสืบเนื่องมาจากมีฝนตกหนักและมีการระบายน้ำเพิ่มขึ้น ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา และลำคลอง ในพื้นที่ชั้นในและชั้นนอกของจังหวัดปทุมธานี เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือน ไร่นา ของราษฎร ตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน 2565 มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว จำนวน 5 อำเภอ 45 ตำบล 166 ชุมชน 264 หมู่บ้าน 70,958 ครัวเรือน (ข้อมูล ณ วันที่ 12 กันยายน 2565) ประกอบด้วย อำเภอเมืองปทุมธานี / อำเภอสามโคก / อำเภอลำลูกกา / อำเภอธัญบุรี / อำเภอคลองหลวง โดยแยกเป็นการเกิดจากน้ำล้นตลิ่งในแม่น้ำเจ้าพระยา มีผลกระทบ 2 อำเภอ 21 ตำบล 56 หมู่บ้าน 8 ชุมชน รวม 4,926 ครัวเรือน เป็นพื้นที่นอกคันกั้นน้ำทั้งหมด ซึ่งจังหวัดปทุมธานี ใช้ถนนเป็นแนวคันกั้นน้ำทั้งสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมีความยาว 30 กิโลเมตร ระดับความสูง 3 – 3.5 เมตร ตั้งแต่ อำเภอเมืองปทุมธานี – อำเภอสามโคก เกิดจากปริมาณฝนตกหนักในพื้นที่ชั้นใน ทำให้ระดับน้ำในคลองรังสิตประยูรศักดิ์ มีระดับน้ำสูงขึ้น มีผลกระทบ 4 อำเภอ 14 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในพื้นที่อำเภอเมืองปทุมธานี /

อำเภอธัญบุรี / อำเภอคลองหลวง / อำเภอลำลูกกาโดยการประกาศพื้นที่ประสบสาธารณภัย จำนวน 5 อำเภอ (ธัญบุรี / คลองหลวง / ลำลูกกา / เมืองปทุมธานี / หนองเสือ) 24 ตำบล 227 หมู่บ้าน 179 ชุมชน จากสถานการณ์ดังกล่าวข้างต้น จังหวัดปทุมธานี ได้บูรณาการร่วมกับส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ อำเภอ เหล่ากาชาดจังหวัด กิ่งกาชาดอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มูลนิธิ ภาคเอกชน และประชาชนจิตอาสา ร่วมกันบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในเบื้องต้น การติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เสริมคันดิน/จัดหากระสอบทราย เพื่อป้องกันน้ำท่วม จัดทำสะพานไม้/โป๊ะแพลอยน้ำ เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการเดินทาง การขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง แจกจ่ายถุงยังชีพ/เครื่องอุปโภคบริโภค/ยาและเวชภัณฑ์ ให้กับครัวเรือนผู้ประสบภัยในเบื้องต้น ตลอดจนจัดชุดแพทย์เคลื่อนที่ออกตรวจสุขภาพและให้บริการทางการแพทย์ การสำรวจและย้ายมิเตอร์ไฟฟ้าในจุดเสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมถึง และอื่นๆ อย่างไรก็ตามขณะนี้สถานการณ์น้ำในจังหวัดปทุมธานียังอยู่ในระดับที่ต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากต้องติดตามสภาพอากาศที่อาจเปลี่ยนแปลง รวมถึงระดับน้ำทะเลหนุนสูง ซึ่งจังหวัดจะประกาศแจ้งเตือนประชาชนริมแม่น้ำเจ้าพระยาให้ขนของขึ้นที่สูง ไว้ล่วงหน้า

ภาพ/ข่าว ประภาพรรณ ขาวขำ/รายงาน