ขอบคุณ”ประชาธิปัตย์ ที่ไม่ร่วมทำร้ายประเทศไทย เพราะเรื่องการถอน พรบ.กัญชา กัญชง” เป็นเรื่องของ”บ้านเมือง” ที่ไม่ใช่เรื่อง”การเมือง”อย่างที่พรรคภูมิใจไทย ต้องการให้เป็น

เมือง ไม้ขม
รายงานพิเศษ
ขอบคุณ”ประชาธิปัตย์ ที่ไม่ร่วมทำร้ายประเทศไทย เพราะเรื่องการถอน พรบ.กัญชา กัญชง” เป็นเรื่องของ”บ้านเมือง” ที่ไม่ใช่เรื่อง”การเมือง”อย่างที่พรรคภูมิใจไทย ต้องการให้เป็น


กลายเป็นประเด็น”ร้อนฉ่า”ทาง”การเมือง” ในทันที จากที่ “สาทิตย์ วงศ์หนองเตย” สส.”เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ ได้เสนอให้มีการ ถอนร่าง พรบ.กัญชา กัญชง” ออกจากการพิจารณาของ สภาผู้แทน ฯและมีการ”ขานรับ” อย่าง”เนืองแน่น”จากพรรคการเมือง”ฝ่ายค้าน” รวมทั้ง สส.ในฝั่งพรรคร่วมรัฐบาล ที่ไม่เห็นด้วยกับเรื่อง”กัญชาเสรี” ที่ ปราศจากการควบคุมมาตั้งแต่ต้น
โดยข้อเท็จจริง พรรคภูมิใจไทย ชูประเด็น”กัญชาเสรี” มาใช้ในการ”หาเสียง” ตั้งแต่การเลือกตั้งในสมัยที่ผ่านมา ด้วยเรื่องการส่งเสริมให้มีการประชาชน”ปลูกกัญชา” บ้านละ 6 ต้น และทุกครอบครัวจะ”ร่ำรวย” จากการ”ปลูกกัญชา” ซึ่งหลังจากที่ พรรคภูมิใจไทยได้เข้าร่วมรัฐบาล ก็มีการ”ผลักดัน” ให้มีการ”ปลดล็อค” ให้”พืชกัญชา” พ้นจากการเป็น”ยาเสพติด” เพื่อให้เป็นไปตามนโยบาย”กัญชาเสรี”เป็นการใช้ประโยชน์ทาง”การแพทย์” และการ”สันทนาการ” โดยไม่ผิดกฎหมาย


เรื่องการ”ปลดล็อก” ให้”กัญชา”พ้นจากการเป็นยาเสพติดประเภท 5 เพื่อใช้ประโยชน์ทาง”การแพทย์” ทุกพรรคการเมือง และ คนในประเทศ ไม่มีใครปฏิเสธแต่”เห็นด้วย” แต่ในเรื่องการใช้”กัญชา” เพื่อการ”สันทนาการ” โดยที่ยังไม่มี”กฎหมายรองรับ” คือประเด็นของความ”ห่วงใย” ของ พรรคการเมืองและของนักการเมือง รวมทั้ง นักวิชาการ และ แม้แต่”หมอ”ในกระทรวงสาธารณสุข ที่นายอนุทิน ชาญวีระกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็น “รัฐมนตรี”อยู่ และเป็น เจ้าของ นโยบาย”กัญชาเสรี” ก็ออกมา แสดงความไม่เห็นด้วย เป็นจำนวนมาก
ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย ทั้งพรรคการเมือง นักการเมือง นักวิชาการ ผู้อยู่ในวงการแพทย์ ตำรวจ ปกครอง ผู้นำศาสนา และ ประชาชน มีความเห็นว่า ก่อนที่พรรคภูมิใจไทย จะดำเนินการให้”กัญชา กัญชง”พ้นจากกฎหมายยาเสพติด จะต้องมีการออก”กฎหมาย” รองรับอย่างถูกต้อง ไม่ใช่มีเพียง” ประกาศกระทรวงสาธารณสุข” เพียงอย่างเดียว และไม่ใช่ปล่อยให้เป็น”กัญชาเสรี” ที่ “ใครใคร่ปลูก ใครใคร่ค้า ใคร่ใคร่ขาย ใคร่ใคร่สูบ ใครจะนำไปเป็นส่วนผสมของอาหารก็ทำได้โดยไม่มีการควบคุม” เพราะมองเห็นถึง”อันตราย” ที่เกิดขึ้นกับ “เยาวชน” ประชาชน และ ประเทศชาติ


แต่ พรรคภูมิในไทย ไม่ฟังเสียงคัดค้านที่ดัง”กระหึ่ม” จากทั่วประเทศ และมองว่า ผู้ที่ออกมา”คัดค้าน”เป็นผู้เสียประโยชน์ และเป็นเรื่องของ”การเมือง” ทั้งที่ “นักวิชาการ” เจ้าหน้าที่รัฐ ที่ออกมา”คัดค้าน” ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ”การเมือง” และ”พรรคการเมือง” พรรคภูมิใจไทย ใช้”กลยุทธ”การได้เปรียบ ทางการเมือง และใช้เวทีของ”สภาผู้แทนฯ”ในการ”ปลดล็อก” ให้”กัญชา” พ้นจากการเป็น”ยาเสพติด” และให้เป็น”กัญชาเสรี” ที่ แม้แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็”นิ่งเงียบ” ต่อเสียง”คัดค้าน” ที่ดังมาจากผู้ที่ไม่เห็นด้วย ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ต้อง รับผิดชอบกับปัญหา ที่ต้องตามมาเมื่อเปิด”เสรีกัญชา” โดยที่ยังไม่มี “กฎหมาย” รองรับ
และหลังจากที่มีมีการประกาศใช้”นโยบายกัญชาเสรี” เกิดขึ้น เพียงไม่กี่เดือน ก็เห็นได้ชัดว่า นโยบาย”กัญชาเสรี” ได้”พ่นพิษ” สร้างปัญหามากมายให้กับ ประเทศไทย ในเรื่องของ”เศรษฐกิจ” ชาวบ้านที่ปลูกกัญชา เพราะเชื่อในการ”หาเสียง”ของพรรคภูมิใจไทยว่า” ปลูกแล้วรวย” ก็ไม่เป็นความจริง เพราะการปลูกกัญชาเพื่อใช้ในทาง”การแพทย์”และ”ทางการค้า” ต้องมีการ”ลงทุน” ต้องใช้หลัก”วิชาการ” ซึ่ง ชาวบ้านทั่วไปไม่มี”ปัญญา” ที่จะทำได้ เป็นการ”หลอกลวง”ประชาชนให้”หลงเชื่อ” และเข้าใจผิดมาโดยตลอด


นโยบาย”กัญชาเสรี” ที่ไม่มี”กฎหมายรองรับ” สร้างปัญหาให้กับ”การท่องเที่ยว” เพราะ”ต่างประเทศ”เอาที่ใกล้บ้านของเรา เช่น มาเลเซีย,สิงคโปร์,สปป.ลาว และอื่นๆ ยังให้”กัญชา” เป็นยาเสพติด หลังจากที่ไทยมีนโยบาย”กัญชาเสรี” สถานฑูตของประเทศเพื่อนบ้านต่างออกหนังสือเตือน คนของประเทศเขา ที่เข้ามา ท่องเที่ยว ในประเทศไทย ให้ระวัง ป้องกัน ที่อาจจะได้รับ”สารเสพติด” จาก อาหาร เครื่องดื่ม ที่อาจจะถูกตรวจพบ และถูกดำเนินคดี และ เท่าที่ทราบ มี ทั้งคนไทย และคนต่างชาติ ที่ถูก ดำเนินคดีจาก สารเสพติด ที่ได้รับจากการเดินทางมาประเทศไทย เรื่อง”กัญชาเสรี” จึง”มีโทษ” มากกว่า”มีคุณ” ต่อ เศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ของประเทศไทย ผู้ที่ได้ประโยชน์ จึงเป็น”ชาวต่างชาติ” ที่เข้ามาเพื่อ”ค้ายาเสพติด” และ “เสพยาเสพติด” ที่เปิด”เสรี” ของประเทศไทยเท่านั้น
ในส่วนปัญหาของในประเทศ ที่ได้รับผลกระทบจาก”กัญชาเสรี” คือ มีประชาชนจำนวนมาก ที่”ปลูกกัญชา”เพื่อเชื่อในการ”โฆษณา” ว่า ปลูกแล้วรวย สามารถขายให้กับผู้รับซื้อที่ใช้ในทาง”การแพทย์” แต่ ปรากฏว่าเป็นเรื่อง”ไม่จริง” กลายเป็นการ”ลงทุน” ที่”สูญเปล่า”ทั้ง เวลา และ เงินตรา ประเด็นต่อมา มีประชาชน และ เยาวชน หันมา สูบกัญชา อย่าง”เป็นล่ำเป็นสัน” เพราะมี”ปลูกที่บ้าน” และ”หาซื้อ”ได้ทั่วไปโดยไม่มีการ”จับกุม” อย่างในอดีต คนไทยมีการนิยมสูบกัญชาอยู่แล้ว แต่เมื่อกัญชาเป็นยาเสพติด ก็มีการ”ลักลอบขาย”และ,ลักลอบสูบ” ปัญหาสังคมที่เกิดจากกัญชาจึงมีไม่มาก


แม้ว่าจะมีการ ออกระเบียบ จาก โรงเรียน จาก สถานที่ราชการ และสถานที่ทำงานไม่ให้มีการ”เสพกัญชา”ในสถานที่ดังกล่าว แต่เมื่อมีการให้ปลูกกัญชาที่บ้านได้ การออกระเบียบดังกล่าวก็ไม่มีความหมาย เพราะทุกคนสามารถสูบกัญที่บ้าน และที่อื่นๆได้ ยกเว้นเพียงที่”สาธารณะ” เท่านั้น
ปัญหาสังคมที่ชัดเจนที่สุดคือในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งวันนี้เต็มไปด้วย “สิ่งเสพติด” หันไปทางซ้ายเจอ”กัญชา” หันไปทางขวาเจอ”น้ำกระท่อม” และ รอบๆตัวคือ “ยาบ้า” ที่ขายกันอย่าง”เสรี” 4 เม็ด 100 บาท วันนี้ ประชาชนวัยทำงาน และ เยาวชน ที่อยู่ในวัยเรียน ต่างอยู่ใน”วังวน”ของ “ยาเสพติด” ที่ รัฐบาลเอง ก็ “ล้มเหลว” ในการแก้ปัญหามาโดยตลอด การ “ปลดล็อก” ทั้ง”พืชกระท่อม” แล”พืชกัญชา” ที่ไม่”รอบคอบ” เป็นการหาคะแนนนิยม”ทางการเมือง” โดย”ละเลย” ข้อเท็จจริงของ”สังคมไทย” จึงกลายเป็น”ดาบสองคม” ที่กลับมา”ทำร้าย” สังคมไทย อย่างไม่ควรจะเป็น ถ้าพรรคภูมิใจไทย และ”รัฐบาล” มีความ”รอบคอบ” รู้จักฟังเสียงของผู้”คัดค้าน” และไม่มองว่าผู้ที่”เห็นต่าง” เป็นเรื่อง”การเมือง” วันนี้ปัญหาของ”ยาเสพติด” อย่างจะไม่ร้ายแรงอย่างที่เป็น
เรื่องการที่ พรรคประชาธิปัตย์ และอาจหมายรวมถึงพรรคอื่นๆ ที่เป็น”ฝ่ายค้าน” ที่ออกมา”ไม่เห็นด้วยกับนโยบาย”กัญชาเสรี”ของพรรคภูมิใจไทย ไม่ใช่เรื่อง”การเมือง” แต่เป็นเรื่อง”บ้านเมือง” เพราะ วันนี้ “บ้านเมืองของเรา” เต็มไปด้วย ปัญหา”อาชญากรรม ความรุนแรงในสังคมในครอบครัว ลูกฆ่าพ่อ ลูกทำร้ายแม่ พี่น้องฆ่ากัน, ตายายถูก หลาน ทำร้าย ถูก ฆ่า ผัวเมีย แยกทาง เด็กเล็กถูก ทำร้าย ทารุณ ซึ่งเหตุการร้อยละ 80 มาจากเรื่องของ”ยาเสพติด” ที่ถูกปล่อยปละ ที่ผ่านมา ขนาดที่มี”กฎหมาย” ยังควบคุมไม่ได้ และวันหนึ่ง เมื่อการใช้”ยาเสพติด”เป็นเรื่องการใช้อย่าง”เสรี” และเพื่อการ”สันทนาการ” ก็คิดเอาเองว่า “สังคมไทย” และ”ประเทศไทย” จะเป็นแบบไหน
เชื่อว่าคนไทยกว่าครึ่งประเทศ เห็นด้วยกับคำพูดของ”จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ต่อการ ถอนร่าง พรบ.กัญชา กัญชง ออกจากสภาฯ เพื่อนำไป”ปรับปรุง” ให้เป็นประโยชน์ให้เป็นไปตาม”กฎหมาย” แล้วนำเข้ามาพิจารณาใหม่อีกครั้ง การที่”ประชาธิปัตย์” ออกมา”คัดค้าน” ไม่ใช่เรื่อง”การเมือง” แต่เป็นเรื่องการ”คิดถึงประชาชน คิดถึงอนาคตของประเทศ ไม่ใช่การทำร้ายประชาชน”
แน่นอน เรื่องของ”การเมือง” วันนี้ พรรคภูมิใจไทย คือ คู่แข่ง ของพรรคประชาธิปัตย์ ในสนามการเลือกตั้งในพื้นที่ภาคใต้ แต่นั่นเป็นเรื่องของ”อนาคต”ทาง”การเมือง” ถ้า “พรรคภูมิใจไทยเชื่อว่า”นโยบายกัญชาเสรี” เป็นความต้องการของประชาชน ก็เดินหน้า”หาเสียง”ต่อไป ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ละพรรคอื่นๆ ที่เห็นด้วยกับการปลดล็อก”กัญชา” จาก”ยาเสพติด” เพื่อใช้ประโยชน์ทาง”การแพทย์” และให้ประชาชนได้ใช้ในการเป็น”ยาสมุนไพร” แต่”ไม่เห็นด้วย”กับการ”เปิดกว้าง”อย่าง”เสรี”ในการ “สันทนาการ” โดยที่ไม่มี”กฎหมาย”รองรับ ก็ว่ากันให้”ชัดเจน” แพ้ชนะ อยู่ที่การตัดสินของประชาชน
แต่…ไม่ควรที่จะออกมา”ตีโพยตีพาย” ถามหาความรับผิดชอบ จากพรรคการเมืองที่ไม่เห็นด้วย เพราะเรื่องนี้ มีการ”ผลักดัน”กันมาโดยไม่ถูกต้อง ขาดความ”รอบคอบ” และเป็นเรื่อง”การเมือง” ของพรรคภูมิใจไทยมาตั้งแต่ต้น วันนี้ เมื่อ พรรคการเมือง”ส่วนใหญ่” ต้องการให้นำกลับไปทำให้ถูกต้อง เพื่อประโยชน์ของ”คนไทย” ทั้งแผ่นดิน จึงเป็นเรื่องที่ชอบด้วยเหตุผลทั้งปวง พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคการเมืองอื่นๆ ที่สนับสนุนให้ถอน พรบ.กัญชา กัญชง กลับออกไป เพื่อทำให้ถูกต้อง ควรได้รับการ”ปรบมือ” ในฐานะที่พวกท่าน ไม่ร่วมมือกัน”ทำร้ายประเทศไทย”