บรรยากาศลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 วันแรกที่ ธ.ก.ส.กาฬสินธุ์คึกคัก ประชาชนส่วนใหญ่ที่มีอาชีพการเกษตรเดินทางมาลงทะเบียนอย่างต่อเนื่อง โดยทางธ.ก.ส.จังหวัดกาฬสินธุ์ได้เปิดจุดบริการคลอบคลุมทั้ง 18 อำเภอ คาดมีผู้ลงทะเบียนภาพรวมทั้งจังหวัดกว่า 2.9 แสนคน

เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2565 นายเชาวฤทธิ์ เกตุดี ผู้อำนวยการสำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยผู้ช่วยฯและผู้จัดการฯ เข้าตรวจเยี่ยมความเรียบร้อยและร่วมเปิดการลงทะเบียนโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 ที่จุดบริการของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จ.กาฬสินธุ์ โดยวันนี้เป็นการลงทะเบียนวันแรก พบว่ามีประชาชนทยอยเดินทางมาลงทะเบียนอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเช้า เริ่มตั้งแต่เวลา 08.30 น.โดยส่วนใหญ่จะเป็นประชาชนที่ประกอบอาชีพการเกษตร ซึ่งทาง ธ.ก.ส.จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ และได้ตั้งโต๊ะรองรับการลงทะเบียนไว้อย่างพอเพียงไปจนถึงวันที่ 19 ตุลาคม 2565

นายเชาวฤทธิ์ เกตุดี ผู้อำนวยการสำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า วันนี้สำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดการลงทะเบียนโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 วันแรก พร้อมกันทั่วประเทศ ซึ่งบรรยากาศเริ่มคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า เพราะประชาชนและเกษตรกรเดินทางมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ทางธ.ก.ส.จังหวัดกาฬสินธุ์ได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่เปิดบริการให้กับพี่น้องประชาชนรวมทั้งหมด 18 จุดคลอบคลุมครบทุกอำเภอของ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อให้ครบกับความต้องการ

นายเชาวฤทธิ์ กล่าวต่อว่า การลงทะเบียนนอกจากที่ ธ.ก.ส.แล้วยังสามารถลงทะเบียนได้ผ่านทาง https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th หรือ ผ่านหน่วยงานที่รับผิดชอบ เช่น ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สำนักงานคลังจังหวัด ที่ว่าการอำเภออีกด้วย ทั้งนี้ใน จ.กาฬสินธุ์มีเป้าหมายผู้ที่ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 จำนวน 290,000 ราย

สำหรับประชาชนที่ต้องการลงทะเบียนนั้นต้องมีสัญชาติไทย อายุ 18 ปีขึ้นไป รายได้ไม่เกิน 100,000 บาท/คน/ปี รายได้เฉลี่ยครอบครัวไม่เกิน 100,000 บาท/คน/ปี มีทรัพย์สิน เงินฝาก สลาก พันธบัตร และตราสารหนี้ภาครัฐ ไม่เกิน 100,000 บาท/คน ไม่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์(ตามที่กำหนด) ต้องไม่มีบัตรเครดิต และมีวงเงินกู้ ที่อยู่อาศัยรวมไม่เกิน 1.5 ล้านบาท และ/หรือ วงเงินกู้ ยานพาหนะรวมไม่เกิน 1 ล้านบาท