กาฬสินธุ์ ชาวบ้านฝ่าวิกฤติตลาดกุ้งซบเซายกฟาร์มขึ้นบกขายริมถนน

เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามในจังหวัดกาฬสินธุ์ ยังได้รับผลกระทบจากบรรยากาศการซื้อขายฝืดเคือง ต่อเนื่องมาตั้งแต่สถานการณ์โควิด-19 และเศรษฐกิจตกต่ำ น้ำมันแพง ไม่มีพ่อค้าคนกลางต่างจังหวัดหรือภายในจังหวัดนำกุ้งไปขาย ทำให้กุ้งก้ามกรามที่เป็นสัตว์เศรษฐกิจอันดับหนึ่งของจังหวัดแทบกลายเป็นสินค้าค้างสต็อก เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งต่างรับภาระค่าใช้จ่ายด้านอาหารเลี้ยงกุ้งเพิ่ม ทำให้ล่าสุดพบผู้ประกอบการเลี้ยงกุ้งก้ามกรามรายใหญ่ ต้องปรับตัวเป็นพ่อค้าขายกุ้งโดยเปิดตลาดนำกุ้งจากฟาร์มขั้นมาขายเอง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพ่อค้าคนกลางและลูกค้าทั่วไป โดยขายในราคาปากบ่อขั้นต่ำกิโลกรัมละ 200 บาท หรือไซส์ใหญ่เพียงกิโลกรัมละ 300 บาท


เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามบรรยากาศการจำหน่ายกุ้งก้ามกราม ที่ได้ชื่อว่าเป็นสัตว์เศรษฐกิจอันกับหนึ่งของ จ.กาฬสินธุ์ โดยมีพื้นที่เลี้ยงกันมากในเขต ต.นาเชือก ต.บัวบาน ต.เขาพระนอน อ.ยางตลาด และ ต.ลำคลอง ต.ลำพาน อ.เมืองกาฬสินธุ์ ทั้งนี้ ได้รับน้ำจากโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว หรือเขื่อนลำปาว ทั้งนี้จากเดิมที่ผ่านมาบรรยากาศซื้อขายคึกคัก และขายดีตลอดปี โดยเฉพาะเทศกาลปีใหม่ เทศกาลสงกรานต์ วันหยุดยาวและวันสำคัญต่างๆ จะมีพ่อค้าคนกลางเข้ามารับซื้อและขนส่งกุ้งก้ามกรามไปจำหน่ายทั่วภาคอีสาน ภาคเหลือบางจังหวัด รวมทั้งข้ามฝั่งโขงไปขายยัง สปป.ลาว ในภาพรวมมีเม็ดเงินสะพัดเดือนละไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท แต่สำหรับปี 2565 หรือหลังจากเกิดสถานการณ์โควิด-19 ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำ น้ำมันแพง พบว่าบรรยากาศการซื้อขายกุ้งก้ามกรามกลับซบเซาเป็นอย่างมาก ทำให้กุ้งก้ามกรามที่ได้อายุจับจำหน่ายตกค้างในบ่อเป็นเป็นจำนวนมาก แทบกลายเป็นสินค้าค้างสต็อก ส่งผลกระทบขยายเป็นวงกว้าง ทั้งผู้เลี้ยงกุ้ง และผู้ประกอบการขายอาหารกุ้ง


นางสงกรานต์ ภูทะวัง อายุ 48 ปี ผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามรายใหญ่ บ้านตูม หมู่ 19 ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ครอบครัวตนเลี้ยงกุ้ง 70 ไร่ ปีนี้ลี้ยงกุ้งประมาณ 7 แสนตัว ถือเป็นความโชคดีที่คุณภาพลูกกุ้งสายพันธุ์ที่นำมาเลี้ยงในปีนี้ดีมาก อัตราการเหลือรอดสูง ได้กุ้งเยอะ โตเร็ว เลี้ยง 5 เดือนได้ขนาดจับจำหน่าย แต่กลับประสบปัญหาไม่มีตลาดรับซื้อ เดิมเคยไปส่งเองบ้างตามตลาดต่างจังหวัดและร้านอาหารต่างๆ บางครั้งก็จะมีพ่อค้าคนกลางมารับซื้อถึงฟาร์มหรือปากบ่อ ในราคา ก.ก.ละ 250 บาท แต่พอเกิดสถานการณ์โควิด-19 รวมทั้งภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ และน้ำมันแพงดังกล่าว ธุรกิจการค้าขายกุ้งแทบเป็นอัมพาต จึงต้องมีการปรับตัวเพื่อความอยู่รอด เพื่อจะได้มีจุดจำหน่ายกุ้ง จึงลงทุนเปิดตลาดขายกุ้งสดเอง เหมือนยกฟาร์มกุ้งขึ้นมาขายริมถนน โดยเปิดเป็นร้าน “ตาสมทรัพย์กุ้งสด” ที่ริมถนนสายโคกใหญ่-โพธิ์ศรี บริเวณด้านหน้าบึงบัวบาน บ้านตูม ต.บัวบาน อ.ยางตลาด ซึ่งเป็นเส้นทางหลักไปเขื่อนลำปาว ทั้งนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าและพ่อค้าคนกลางทั่วไป ที่สำคัญจำหน่ายในราคาหน้าฟาร์ม หรือราคาปากบ่อ


นางสงกรานต์กล่าวอีกว่า การเปิดตลาดขายกุ้งก้ามกราม ซึ่งได้เปิดมาประมาณ 2 สัปดาห์ กระแสตอบรับค่อนข้างดี ถือเป็นการฝ่าทางตันวิกฤติตลาดกุ้งซบเซา ให้มีตลาดกุ้งจำหน่ายได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้า ผู้บริโภค จึงได้แบ่งขนาดกุ้งก้ามกรามจำหน่ายไว้ 3 ไซส์ 3 ราคา คือไซส์รวม 35 ตัว/ก.ก. ราคา 200 บาท ไซส์กลาง 28-30 ตัว/ก.ก. ราคา 260 บาท และไซส์ใหญ่ 15-20 ตัว/ก.ก.ราคา 300 บาท หรือหากซื้อจำนวนมาก หลาย ก.ก.ก็จะลดราคาให้เป็นพิเศษ ทั้งนี้ นอกจากจะจับกุ้งจากบ่อมารอจำหน่ายที่ร้าน “ตาสมทรัพย์กุ้งสด” แล้ว ยังเปิดขายทางกลุ่มไลน์และเฟซบุ๊กอีกด้วย รับรองความสด เนื้อแน่น อร่อย ราคาหน้าฟาร์ม ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง เพราะเลี้ยงเอง ขายเอง ถูกใจลดราคาให้ลูกค้าอีกด้วยทุกวัน โดยเปิดขายทุกวันตั้งแต่ 06.00 น.-18.00 น.