ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ “ กวดขันแรงงานข้ามชาติทะลักแนวชายแดนวันเดียวจับ หลบหนีกว่า 100 ราย

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ใน
ประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทย หรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.กฤษฎา กาญจนอลงกรณ์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ธนิต
ไทยวัชรามาศ ผบก.สส.สตม, พล.ต.ต.มานัด ศรีวงษา ผบก.ตม.3, พล.ต.ต.เดชา กัลยาวุฒิพงศ์ ผบก.ตม.4 ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญโดยมีรายละเอียดดังนี้

กล่าวคือ จากกการสืบสวนหาข่าวของฝ่ายสืบสวน ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทำให้ได้ทราบว่า ในคืนวันที่ 2 ส.ค.65 จะมีชาวเมียนมาร์จำนวนมาก หลบหนีเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติ จากฝั่งหมู่บ้านมูด่อง ประเทศเมียนมาร์ และจะมีขบวนการช่วยเหลือชาวเมียนมาร์ดังกล่าวเข้าไปส่งยังพื้นที่ภาคกลางของประเทศไทย จึงได้ประสานกับ กองกำกับการสืบสวนสอบสวน บก.ตม.3 และหน่วยงานรักษาความมั่นคงในพื้นที่
จว.ประจวบคีรีขันธ์ บูรณาการกำลัง และแบ่งชุดปฏิบัติการออกเป็นหลายชุดเพื่อเฝ้าดูในช่องทางต่างๆที่มี ซึ่งมีโอกาสในการลักลอบขนคนเข้าเมือง จนได้ผลการปฏิบัติ ดังนี้

1.บริเวณถนนสี่แยกห้วยใหญ่ หมู่ 5 ต.คลองวาฬ อ.เมือง จว.ประจวบคีรีขันธ์ เวลาประมาณ 18.00 น.
ได้มีรถยนต์กระบะ โตโยต้า รุ่นรีโว่ สีบรอนซ์ ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ขับผ่านมามีลักษณะตรงกับที่รับแจ้งจากสายลับ จึงเรียกให้หยุดและทำการตรวจสอบ ผลการตรวจสอบพบ นายโม ไม่มีนามสกุล อายุ 46 ปี เป็นบุคคลที่
ไม่มีสถานะทางทะเบียน เป็นผู้ขับรถ และมีบุคคลต่างด้าว สัญชาติเมียนมาร์อีก 27 คน โดยสารอัดกันมาในรถ
ไม่มีหนังสือเดินทาง จึงทำการจับกุมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดี

2. บริเวณ หมู่ 3 ต.เกาะหลัก อ.เมืองฯ จว.ประจวบคีรีขันธ์ เวลาประมาณ 20.00 น. ได้มีรถยนต์ มิตซูบิชิ
สีเทา ขับผ่านมามีลักษณะด้านท้ายยุบต่ำ จึงไล่ติดตามจนสามารถสกัดจับได้ที่ทางขึ้นช่องสิบศพ ผลการตรวจสอบพบว่ามี นายสมยศ(ขอสงวนสกุล) อายุ 29 ปี สัญชาติไทย เป็นผู้ขับรถ ภายในมีผู้นั่งโดยสารมาด้วย 25 คน
สัญชาติเมียนมาร์และไม่มีหนังสือเดินทาง จึงทำการจับกุมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดี
3. บริเวณ หมู่ 3 ต.ห้วยทราย อ.เมืองฯ จว.ประจวบคีรีขันธ์ มีรถยนต์ มิตซูบิชิ สีเทา ทะเบียน ประจวบคีรีขันธ์ ขับผ่านมามีลักษณะตรงกับที่รับแจ้งจากสายลับ จึงไล่ติดตามจนสามารถสกัดจับได้ที่บริเวณถนนสายบ้านวังมะเดื่อ-ถ้ำหมี ผลการตรวจสอบพบว่ามี นายธนศิษฐ์(ขอสงวนสกุล) อายุ 47 ปี สัญชาติไทย เป็นผู้ขับรถ

ภายในมีผู้นั่งโดยสารมาด้วย 18 คน สัญชาติเมียนมาร์และไม่มีหนังสือเดินทาง และจากการตรวจสอบในบริเวณใกล้เคียงกันยังพบ ชาวเมียนมาร์อีก 13 คน นั่งรวมเป็นกลุ่มอยู่บริเวณในกอหญ้าริมถนน ตรวจสอบแล้วไม่มีหนังสือเดินทาง เชื่อว่านั่งรอรถในขบวนการเดียวกันมารับ จึงจับกุมชาวเมียนมาร์อีก 13 คนดังกล่าวด้วย นำตัวส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดี
การแจ้งข้อกล่าวหา : นายโม นายสมยศ และนายธนศิษฐ์ ว่า “ช่วยเหลือ ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วย
ประการใดๆ ให้บุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายพ้นจากการจับกุม”
คนต่างด้าวจำนวนรวม 83 คน “เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”

การตรวจยึดของกลาง :
1.รถยนต์ กระบะ โตโยต้า รุ่น รีโว่ สี บรอนซ์ ทะเบียน กรุงเทพมหานคร
2.รถยนต์ มิตซูบิชิ รุ่น แอล 200 สี เทา ทะเบียน ประจวบคีรีขันธ์
3.รถยนต์ อีซุซุ รุ่น ดีแม็ก สีฟ้า ทะเบียน ชลบุรี
4.โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง
จากการสืบสวนขยายผลเพิ่มเติมทราบว่า ชาวเมียนมาร์ที่หลบหนีเข้าเมืองมาในคืนนี้ ติดต่อผ่านนายหน้ารายเดียวกันที่อยู่ฝั่งประเทศเมียนมาร์ โดยชาวเมียนมาร์ที่หลบหนีเข้ามานั้นต้องการเข้าไปทำงานบริเวณภาคกลางของประเทศไทย และผู้ต้องหาทั้ง 3 คนที่ให้การช่วยเหลือชาวเมียนมาร์ดังกล่าวนั้นให้การว่าได้รับค่าจ้างในการขนหัวละ 500 บาท โดยจะได้รับเงินเมื่อเสร็จงาน

สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่าง ๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่น ๆ ที่มีหมายจับ และการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง