หอการค้าเลย ชี้การค้าชายแดนปีนี้แย่สุด คาดจะเริ่มกระเตื้องขึ้นในปี 66

หอการค้าเลย ชี้การค้าชายแดนด้าน เลย-ลาว ปี 65 แย่ที่สุด คาดว่าจะกระเตื้องดีขึ้นในปี 2566 ด้วยเหตุนักลงทุนจากจีนทะลักสู่ลาว

เมื่อวันที่ 28 ก.ค.65 ณ สมาคมพ่อค้าจังหวัดเลย ต.กุดป่อง อ.เมืองเลย จ.เลย นายณัฐพล เหลืองวงศ์ไพศาล ประธานหอการค้าจังหวัดพ่อค้าจังหวัดเลย เปิดเผยถึงการค้าชายแดนไทย-สปป.ลาว ว่า ได้รับผลกระทบมาหลายปีจากพิษเชื้อโควิด-19 ต้องปิดเมืองปิดประเทศส่งผลกระทบวงกว้างรวมถึงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว การค้า-การลงทุน การขนส่งสินค้าข้ามแดน และการท่องเที่ยว ทั้งด่านผ่านแดนถาวร ท่าเทียบเรือน้ำลึก และจุดผ่อนปรน

ประธานหอการค้าจังหวัดเลย กล่าวอีกว่า การค้าขาย ขนส่งสินค้ายังไม่กระเตื้องขึ้นมากนักในช่วงที่มีการผ่อนคลายโควิดมาตั้งแต่ มิ.ย.65 ประกอบกับค่าเงินลาวค่อนข้างอ่อนตัวลงเมื่อเปรียบเทียบกับเงินไทย คือ ค่าเงินลาวจากก่อนนี้ 1 บาทไทย/ 280 กีบลาว แต่ปัจจุบัน 1 บาทไทยเท่ากับ 450 กีบลาว ส่งผลถึงการค้าการซื้อสินค้า ราคาเพิ่มสูงขึ้น มีปัญหาด้านการขนส่งสินค้า นักธุรกิจยังมีความกังวล

สำหรับสินค้าส่งออกส่วนใหญ่คือสินค้าอุปโภค-บริโภค น้ำมัน ส่วนสินค้าที่เรานำเข้าจากลาวส่วนใหญ่ คือ ไม้แปรรูปและพืชไร่และเราซื้อกระแสไฟฟ้าจากเขื่อนไชยะบูรี สปป.ลาวมากที่สุด ภาวะการค้าชายแดนบริเวณ เลย-ลาว ในไตรมาส 3-4 ปีนี้ยังหดตัว จึงถือว่าปี 2565 นี้แย่ที่สุด ส่วนในปี 2566 น่าจะดีขึ้น แต่ก็ต้องดูปัจจัยด้านสงครามรัสเซีย-ยูเครนว่าจะคลี่หลายไปในทางที่ดีหรือไม่ รวมถึงสถานการณ์เชื้อโควิด-19 และค่าเงินบาทไทย และค่าเงินกีบของลาว

ประธานหอการค้าจังหวัดพ่อค้าจังหวัดเลย กล่าวถึงปัจจัยที่กระทบว่า ปัจจัยสำคัญที่กระทบต่อการลงทุนการค้าชายแดนของเลย-ลาว คือ นักลงทุนจากจีนทะลักเข้าสู่ลาวมากขึ้น จากการใช้รถไฟความเร็วสูงต้นทุนต่ำมายังลาว ทางเลยต้องแย่งชิงตลาดกับจีน ในช่วง 20 ปีมานี้ทางจีนนิยมมีลูกคนเดียวและเน้นเป็นเพศชาย ส่งมาแต่งงานมีครอบครัวกับสาวชาวลาวและก็ลงทุนทำธุรกิจเปิดสถานประกอบการที่ลาวเยอะมากในขณะนี้

 

บุญชู ศรีไตรภพ จ.เลย