“ผบช.ภ.7″เรียกประชุมด่วน ถกคดีญาติสงสัย ผูกคอตายเป็นฆาตกรรมอำพราง สั่งเร่งรัด 10 มาตราการ

“ผบช.ภ.7″เรียกประชุมด่วน ถกคดีญาติสงสัย ผูกคอตายเป็นฆาตกรรมอำพราง สั่งเร่งรัด 10 มาตราการ

วันนี้(วันจันทร์ ที่ 18 ก.ค. 65) เวลา 14.00-16.00 น.ที่ห้องประชุม ภ.จว.นครปฐม ต.ถนนขาด อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่า ได้เรียกประชุม ด่วน เร่งรัดติดตามผลความคืบหน้าคดีที่น่าสนใจของประชาชน “คดีผูกคอตาย แต่ญาติสงสัยว่าเป็นคดีฆาตกรรม เมื่อวันที่ 14 ก.ค. 65 เวลาประมาณ 01.00 น. เหตุเกิดบริเวณบ้านเลขที่ 89/111 หมู่ 8 ต.อ้อมใหญ่ อ.สามพราน จว.นครปฐม”

โดยมี พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา รอง ผบช.ภ.7พ.ต.อ.ชิตภพ โตเหมือน รอง ผบก.สส.ภ.7,พ.ต.อ.ศุภชัย ไตรสมบูรณ์ นวท.(สบ.5) ศพฐ.7 ฯพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมโดยได้กำชับให้
(1.)ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน เร่งรัดสืบสวนหาพยานหลักฐานในคดีตามที่ได้สั่งการเพิ่มเติม สืบสวนเดินภาคพื้นดิน บ้านเรือนประชาชนที่อยู่บริเวณใกล้เคียง ตรวจสอบภาคอากาศ จุดบริเวณที่ใกล้เคียง(2.)ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสอบสวน สอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องในคดีเพิ่มเติม สอบสวนปากคำแพทย์ผู้ชันสูตรพลิกศพโดยละเอียด นำรายงานการสืบสวนเข้าสู่สำนวน ส่งวัตถุพยานและเร่งติดตามผลการตรวจพิสูจน์หลักฐาน จากกองพิสูจน์หลักฐานนำเข้าสำนวนการสอบสวน และดำเนินการตามที่ได้สั่งการเพิ่มเติม

 

(3.)ให้ พฐ. เข้าตรวจที่เกิดเหตุอีกครั้งโดยละเอียด รวมถึงตรวจสอบคราบโลหิตบริเวณโดยรอบที่เกิดเหตุ จำลองสถานการณ์ให้ทราบว่าราวเหล็กที่ใช้แขวนคอสามารถรับน้ำหนักผู้เสียชีวิตได้ไหมและรับน้ำหนักสูงสุดได้เท่าใด และประสานตรวจความเร็วรถผู้ต้องสงสัยจากกล้องวงจรปิด(4.)สืบสวน สภ. ทำไทม์ไลน์กล้องวงจรปิดโดยละเอียด ตรวจสอบเกี่ยวกับบริษัท รายรับรายจ่ายข้อมูลงบดุลบริษัท


(5.)สืบสวน ภ.จว. ตรวจสอบประวัติส่วนบุคคลของผู้ต้องสงสัย(6.)สืบสวนภาค ตรวจสอบข้อมูลการใช้โทรศัพท์ สื่อสังคมออนไลน์ของผู้ต้องสงสัย และฮาร์ดดิสก์ตัวเก่าของกล้องวงจรปิดในบริษัทผู้ต้องสงสัย
(7.)ให้ผู้บังคับบัญชา ควบคุมกำกับดูแลและสั่งการในคดีด้วยตนเอง ตรวจสำนวนการสอบสวน ตามคำสั่ง ตร.ที่ 419/2556 อย่างเคร่งครัด, โดยให้ดำเนินการแจ้งความคืบหน้าทางคดีให้ฝ่ายผู้เสียหายทราบเป็นระยะ และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมกัน
(8.)ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในคดีทุกนาย พึงระมัดระวังการให้ข่าว โดยเน้นย้ำ อย่าให้มีการเผยแพร่แนวทางการสืบสวนหรือข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องทางคดีต่อสื่อมวลชนหรือมีภาพไปปรากฎยังสื่อโซเชี่ยลมีเดียต่าง ๆ เพราะจะทำให้ข้อมูลความลับคดีหรือเทคนิคในการสืบสวนรั่วไหล ทำให้ทำงานได้ยาก
(9.)กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายให้ทำงานร่วมกันเป็นทีม(teamwork) บูรณาการการข่าวร่วมกันทุกฝ่าย แบ่งหน้าที่กันทำงานให้ชัดเจน
(10.)ให้รายงานผลการปฏิบัติให้ทราบทุกระยะ หากพบปัญหาให้รายงานให้ทราบ เน้นย้ำอย่าให้เกิดข้อบกพร่อง

พล.ต.ท.ธนายุตม์ เปิดเผยอีกว่าในการนี้ยังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องรวบรวมพยานหลักฐานในคดีให้รอบคอบ เพื่อให้สามารถดำเนินคดีลงโทษผู้กระทำผิดและผู้เกี่ยวข้องได้จนถึงที่สุดเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่พี่น้องประชาชน และคืนความเป็นธรรมให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต.