กาฬสินธุ์ เปิดเมืองเปิดเรียนสอนครูปั้มหัวใจกู้ชีพช่วยชีวิตเหตุฉุกเฉิน

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ จัดโครงการหลักสูตรครูสอนการปฐมพยาบาลฉุกเฉินและการกู้ชีพขั้นพื้นฐาน (Basic CPR Instructor) ให้กับอาสากู้ชีพในจังหวัดกาฬสินธุ์ ลดอัตราการเสียชีวิตจากภาวะฉุกเฉินและตอบสนองนโยบายกระทรวงสาธารณสุขที่ต้องการให้คนไทยทำ CPR เป็น 10 ล้านคน ภายใน 3 ปี ได้


ที่หอประชุมธรรมาภิบาล เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ นายแพทย์อภิชัย ลิมานนท์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ เป็นประธานจัดอบรมโครงการหลักสูตรครูสอนการปฐมพยาบาลฉุกเฉินและการกู้ชีพขั้นพื้นฐาน (Basic CPR Instructor) โดยมีนางอาภิรมย์ ชิณโน หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคไม่ติดต่อ สุขภาพจิตและยาเสพติด พร้อมด้วยบุคลากร เจ้าหน้าที่ สำนักงานสาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ และอาสากู้ชีพกู้ภัยจากมูลนิธิการกุศลจำนวน 200 คน เข้ารับการอบรม

นายแพทย์อภิชัย ลิมานนท์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า การช่วยฟื้นคืนชีพ เช่น เหตุวูบ หมดสติ จมน้ำ หรือเนื่องจากโรคประจำตัว รวมทั้งอุบัติเหตุอื่นใด เป็นเรื่องที่สำคัญมากโดยเฉพาะในสถานการณ์วิกฤติฉุกเฉิน การช่วยฟื้นคืนชีพผู้ป่วยอย่างมีประสิทธิภาพนั้น ต้องอาศัยความรู้ที่ถูกต้องและรวดเร็ว ในกรณีที่บริเวณเกิดเหตุมีเครื่องกระตุ้นหัวใจด้วยกระแสไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (AED) ผู้ช่วยเหลือสามารถปฏิบัติการกู้ชีพ ร่วมกับการกระตุ้นหัวใจด้วยกระแสไฟฟ้าได้ ซึ่งโครงการหลักสูตรครูสอนการปฐมพยาบาลฉุกเฉินและการกู้ชีพขั้นพื้นฐานในครั้งนี้ จึงมีความสำคัญ ในการให้ความรู้แก่ผู้เข้าร่วมอบรม ในการกู้ชีพกู้ภัยขั้นพื้นฐาน และสามารถลดอัตราการเสียชีวิตจากภาวะฉุกเฉินได้


นายแพทย์อภิชัยกล่าวอีกว่า สำนักงานสาธารณสุขกาฬสินธุ์ มีแนวทางในการที่จะจัดโครงการหลักสูตรครูสอนการปฐมพยาบาลฉุกเฉินและการกู้ชีพขั้นพื้นฐาน (Basic CPR Instructor) ให้กับอาสากู้ชีพใน จ.กาฬสินธุ์เป็นประจำทุกปี แต่เนื่องจากในช่วงท่านมาเกิดสถานการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 จึงเป็นเหตุให้งดการจัดโครงการไป อย่างไรก็ตามเมื่อสถานการณ์โควิด-19 ผ่อนคลาย สามารถเปิดเมืองตามประกาศ ของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.)และเตรียมประกาศเป็นโรคประจำถิ่น จึงได้ร่วมกับสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจัดอบรม และยังมีแนวทางที่จะเปิดการอบรมขยายผลไปยังกลุ่ม อสม.และสถานศึกษาในโอกาสต่อไป และตอบสนองนโยบายกระทรวงสาธารณสุขที่ต้องการให้คนไทยทำ CPR เป็น 10 ล้านคน ภายใน 3 ปี


ด้านนางสาวปิยกุล สิงห์ทอง อาสาสมัครกู้ชีพกู้ภัยเมตตาธรรมกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า การได้เข้าอบรมเพื่อเสริมสร้างความรู้การปฐมพยาบาลฉุกเฉินและการกู้ชีพขั้นพื้นฐานเป็นสิ่งสำคัญ และจำเป็นอย่างมากต่อการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ ซึ่งจะเป็นการกู้ชีพได้อย่างรวดเร็วถูกต้องได้มาตรฐาน โดยเฉพาะการทำ CPR โดยมุ่งหวังว่าการนำความรู้ที่เข้าอบรมในครั้งนี้ นอกจากการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว ยังตั้งใจที่จะนำความรู้ที่ได้รับไปถ่ายทอดให้กับผู้ที่สนใจ เพื่อที่ทุกคนจะได้มีความรู้ในการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุหากอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉินได้ จะเป็นการลดการสูญเสียได้เพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ หลักสูตรการอบรมในครั้งนี้ใช้ระยะเวลา 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 25-27 พฤษภาคม 2565 ผู้เข้าอบรมประกอบด้วย ผู้ปฏิบัติงานการแพทย์ฉุกเฉินในโรงพยาบาลของรัฐและเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มูลนิธิการกุศล จำนวน 200 คน โดยได้รับการสนับสนุนวิทยากรจากสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ และได้รับงบประมาณสนับสนุนจากสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ