ปราจีนบุรี – สาววัย 14 เข้าห้องสุขาเพื่อจะปลดทุกข์ เหลือบเห็นโทรศัพท์ผ่านช่องลม ร้องเรียกคนในบ้านช่วยจับ แต่ไม่ทัน

ปราจีนบุรี – สาววัย 14 เข้าห้องสุขาเพื่อจะปลดทุกข์ เหลือบเห็นโทรศัพท์ผ่านช่องลม ร้องเรียกคนในบ้านช่วยจับ แต่ไม่ทัน

 


วันนี้ 24 เมษายน 2565 พ.ต.ท.สหวัสส์ ดาทอง สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ประจันตคาม รับแจ้งจาก นางผึ้ง นามสมมุติ ว่า เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ของวันที่ 23 เมษายน 2565 ได้มีคนร้ายแอบบุกเข้ามาภายในบ้านพัก ข้างห้องน้ำ ซึ่งอยู่ติดกับรั้วข้างบ้าน และใช้โทรศัพท์มือถือสอดเข้ามาตรงช่องลมของห้องน้ำ ซึ่งขณะนั้น น.ส.เอ นามสมมุติ บุตรสาว ได้เข้าทำธุระส่วนตัว ในห้องสุขาดังกล่าว ขณะเดียวกันบุตรสาวของตนได้ยินเสียงคล้ายมีคนอยู่ข้างห้องน้ำในบ้าน ซึ่งติดกับริมรั้วของบ้านพัก และใกล้ห้องน้ำ ได้เห็นมีโทรศัพท์มือถือยื่นเข้ามาทางช่องลม บุตรสาวของตนจึงได้ร้องตะโกนเรียกว่ามีคนใช้โทรศัพท์มือถือยื่นเข้ามาเพื่อแอบถ่ายตน จากเสียงร้องตะโกนออกมา ในขณะเดียวกัน นายพี ผู้เป็นบิดาได้ยิน จึงได้วิ่งไปทางหลังบ้าน แต่ไม่พบตัวคนร้ายแล้ว พบแต่ร่องรอยป่าหญ้าข้างห้องน้ำราบไปเป็นบริเวณกว้าง


จากนั้น นายพี บิดา ได้นำรถขับติดตามคนร้ายไปรอบๆ พื้นที่ซึ่งเป็นทุ่งนา สุดท้ายพบรถ จักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า สีดำ คาดว่าเป็นรถของผู้ก่อเหตุ ซึ่งจอดแอบอยู่ บริเวณข้างต้นไม้ในที่มืด แต่ไม่พบตัวเจ้าของรถ ตนจึงได้แจ้งไปยัง นายสำอางค์ ส่องแสง ผญบ.บ้านเมืองใหม่ ม.4 ต.ประจันตคาม อ.ประจันตคาม มาร่วมตรวจสอบ และทราบว่า รถที่พบ ซึ่งจอดอยู่ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 100 เมตร นายสำอางค์ ผู้ใหญ่บ้าน จำได้ว่า รถต้องสงสัยคันดังกล่าว เป็นรถของ นายอำนาจ อายุ 61 ปี บ้านเลขที่ 74 ม.4 ต.ประจันตคาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี เป็นเจ้าของรถ จักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า สีดำ หมายเลขทะเบียน 1กฎ-4949 ปราจีนบุรี ที่ผู้ต้องสงสัยนำมาก่อเหตุ บุกเข้าบ้านและแอบถ่ายคลิป สาววัย 14 ขณะเข้าห้องน้ำเพื่อจะปลดทุกข์


นายอำนาจ รับว่ารถคันดังกล่าว ตนเป็นเจ้าของรถจริง แต่หลานชายของตน ชื่อ นาย ต.นำรถของตนคันนี้ ออกมาจากบ้านพัก เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. และนาย ต.กลับเข้าบ้านมาอีกครั้ง เวลาประมาณ 21.00 น.วานนี้ 23 เมษายน หลานชายของตนกลับมาโดยมิได้นำรถจักรยานยนต์ของตนกลับมาด้วย นาย ต.บอกกับตนเพียงว่า รถเสียจอดฝากเขาไว้ เช้าจะไปเอาให้ จนกระทั่ง มีนายสำอางค์ ผู้ใหญ่บ้านโทรศัพท์เจ้ามาหาตน บอกให้มาดูรถที่มีคนนำมาจอดทิ้งไว้ในป่า ข้างต้นไม้ ว่าใช่รถของตนหรือไม่ พอตนมาดู ก็ว่าใช่รถของตนจริง และรถของตนไม่ได้เสียอย่างที่หลานชายของตนบอกกับตนแต่อย่างใด เวลาต่อมา ตนจึงได้เป็นคนนำรถไปจอดไว้ที่บ้านของผู้เสียหาย เพื่อแสดงว่าตนบริสุทธิ์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการเกิดเหตุแอบถ่ายคลิปนี้แต่อย่างใด ส่วนตนก็ได้แจ้งให้หลานชายของตน คือ นาย.ต.ทราบ แล้วว่า หากเราไม่ได้ทำความผิด เราก็ไปชี้แจงให้เขาทราบ หรือหากเราทำจริง ก็ให้ไปขอโทษเขาเสีย แต่ นาย ต.หลานชายบอกว่า เช้าจะไปขอโทษเขาเอง จากนั้นต่อมาในช่วงเช้า ตนก็ไม่พบนาย ต.หลานชายของตนอีกเลย นายอำนาจกล่าว

 

///// ณัฐวัฒน์ กุลเศรษฐ์สุวภา ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรี