อดีต เอ็นจีโอ แฉความจริงของการ คัดค้าน เมืองต้นแบบที่จะนะ วอนรัฐบาล ชาวจะนะรอไม่ได้แล้ว

อดีต เอ็นจีโอ แฉความจริงของการ คัดค้าน เมืองต้นแบบที่จะนะ วอนรัฐบาล ชาวจะนะรอไม่ได้แล้ว

 


นางมณี อนันทบริพงษ์ ผู้นำกลุ่มประชาชนที่ผลัดดันให้ รัฐบาลเร่งดำเนินการโครงการ “เมืองต้นแบบที่ 4” หรือ นิคมอุตสาหกรรมจะนะ ได้ เปิดเผยว่า ก่อนที่จะมาเป็นผู้นำกลุ่มประชาชนใน 3 ตำบลของ อ.จะนะ เรียกร้องให้ รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ดำเนินการ ขับเคลื่อน นิคมอุตสาหกรรมจะนะ หรือ เมืองต้นแบบที่ 4 หรือ “เมืองอุตสาหกรรมแห่งอนาคต” นั้น ตนเองอยู่ในกลุ่ม “เอ็นจีโอ” ที่เคยร่วมกันคัดค้าน โครงการต่างๆ แต่หลังจากที่ ศอ.บต. ได้ลงพื้นที่ ทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ถึงโครงการ”เมืองต้นแบบที่ 4 จะนะ” ซึ่งตนและประชาชนเกืแบ 90 % เห็นว่าเป็นโครงการพัฒนาที่ สามารถแก้ปัญหาความยากจน แก้ปัญหาคนว่างงาน และแก้ปัญหาของผู้ที่จบการศึกษาและไม่มีงานทำ จึงได้ร่วมสนับสนุนโครงการนี้ ทำให้ กลุ่ม เอ็นจีโอ ในพื้นที่ ไม่พอใจ และเรียกตนไปทำความเข้าใจเพื่อให้ร่วมกันคัดค้านโครงการดังกล่าว เมื่อตนไม่เห็นด้วยก็ถูกลบชื่ออกจากกลุ่ม สำหรับที่ผ่านมา เอ็นจีโอ กลุ่มที่อยู่ในพื้นที่ อ.จะนะ ทำการคัดค้านทุกอย่างโดยที่ไม่ฟังเหตุผลของฝ่ายอื่นๆ และให้ทุกคนเชื่อในข้อมูลของเอ็นจีโอ เท่านั้น


ตนอยากจะบอกไปยังหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการผลักดันโครงการ”เมืองต้นแบบที่ 4 “ แห่งนี้ว่า คนใน 3 ตำบล ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการ คือ ต.นาทับ, ตลิ่งชัน และ สะกอม เกือบร้อยละ 90 เห็นด้วยกันการพัฒนาในพื้นที่ด้วยการเป็นเมือง”นิคมอุตสาหกรรม” คนส่วนน้อยเท่านั้น ที่ออกมาคัดค้าน แต่รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลับไปเชื่อข้อมูลว่าคนทั้ง อำเภอจะนะไม่เอาด้วยกับการพัฒนา และคัดค้าน โครงการ”เมืองต้นแบบที่ 4 “ เพราะ เอ็นจีโอ กลุ่มนี้ มีทุนในการ นำผู้คัดค้านไป คัดค้านที่หน้าทำเนียบ และมี “สื่อ”ของ เอ็นจีโอ ให้การสนับสนุน รวมทั้ง”สื่อ” ในส่วนกลาง ที่ไม่รู้ข้อมูลและไม่ลงมาสัมผัสข้อเท็จจริงในพื้นที่ ทำให้เข้าใจตามที่ เอ็นจีโอ ให้ข่าวว่า คนทั้งอำเภอคัดค้านการพัฒนาในอำเภอจะนะ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชน ก็ไม่ได้ลงมาแสวงหาข้อเท็จจริง ส่วนผู้ที่สนับสนุนและต้องการเห็นการพัฒนาร้อยละ 90 ล้วนแต่เป็นคนจน ไม่มีปัญญาที่จะไป ชุมนุมเพื่อแสดงพลังในการสนับสนุนที่หน้าทำเนียบ หรือแถลงข่าวให้สื่อสวนกลางไปลงข่าว ทำให้คนทั้งประเทศ และหน่วยงานภาครัฐและเอกชนไม่ทราบข้อเท็จจริง


ในขณะที่นายยา หว่าหลำ อาชีพประมงพื้นบ้าน กล่าวว่า ถ้ารัฐหรือหน่วยงานเอกชน รวมทั้งสื่อมวลชน ต้อการข้อเท็จจริง ให้ลงพื้นที่ เคาะประตูบ้าน ถามชาวบ้านเป็นหลังๆ ไปเลยว่า ใครสนับสนุน ใครคัดค้าน ก็จะทราบข้อเท็จจริง ไม่ต้องมา ถกเถียง กัน และอำเภอจะนะ ได้มีการเดินหน้าโครงการ พัฒนาอำเภอจะนะ ไม่ใช่มาสั่งชะลอโครงการเอาไว้ ทั้งที่เป็นโครงการที่คนในพื้นที่ต้องการ และเป็นโครงการที่แก้ปัญหา ความยากจน คนว่างงาน และ ผู้จบการศึกษาจะมีงานทำ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สภาสพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ที่เข้ามารับผิดชอบในการขับเคลื่อนโครงการนี้ เร่งดำเนินการ โดยเร็ว เพราะเป็นความต้องการของคนส่วนใหญ่ใน อำเภอจะนะ โดยเฉพาะคนยากจน ในพื้นที่ 3 ตำบล ที่เป็นที่ตั้งของโครงการ

 

นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา