ตม.1 รวบฝรั่งหัวใส หลบ BLACKLIST เข้าไทย สุดท้ายไม่พ้นมือ ตม.

ตม.1 รวบฝรั่งหัวใส หลบ BLACKLIST เข้าไทย สุดท้ายไม่พ้นมือ ตม.

 

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีเรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม.ดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีหมายจับตำรวจสากล หรือมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน หรือเป็นลักษณะการกระทำผิดเข้าข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ปิติ นิธินนทเศรษฐ์ ผบก.ตม.1,พ.ต.อ.ณรงค์เวทย์ โอนสูงเนิน รอง ผบก.ตม.1, พ.ต.อ.ระพีพัฒน์ อุตสาหะ ผกก.สส.บก.ตม.1 ร่วมแถลงข่าวการจับกุมคดีที่น่าสนใจ ดังนี้

เจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.ตม.๑ ได้รับข้อมูลจากการสืบทราบว่า มีคนต่างด้าวสัญชาติอังกฤษ ชื่อ Mr.James ซึ่งเคยถูกจับกุมดำเนินคดีและถูกบันทึกรายชื่อเป็นบุคคลต้องห้ามเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไว้ แต่ต่อมาได้สัญชาติอิสราเอลและใช้หนังสือเดินทางของประเทศอิสราเอล เดินทางเข้ามาและพักอาศัยอยู่ในประเทศไทย


เมื่อเจ้าหน้าที่ได้รับทราบ จึงได้ทำการตรวจสอบข้อมูลจากระบบสารสนเทศ ตรวจคนเข้าเมือง โดยละเอียดจนพบว่า Mr.James สัญชาติอังกฤษ ดังกล่าวถือหนังสือเดินทางเลขที่ 51XXXXXXX เกิดวันที่ 25 ก.ค.2520 สถานที่เกิด LONDON มีข้อมูลในบัญชีบุคคลต้องห้ามและเฝ้าดู เนื่องจากเคยถูกจับดำเนินคดีในข้อหา “มีอาวุธไม่มีเครื่องหมายทะเบียนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตพกพาอาวุธไปในเมืองฯ” มีคำพิพากษาศาลถึงที่สุด จำคุก 9 เดือน และถูกผลักดันออกนอกประเทศ เมื่อ 3 เม.ย.2558 จริง ซึ่งจากการนำข้อมูลของ Mr.James สัญชาติอังกฤษ มาตรวจสอบในระบบสารสนเทศ สตม. แล้วพบว่าตรงกับข้อมูลของชายชาวต่างชาติ สัญชาติอิสราเอล

อีกรายหนึ่ง มีข้อมูลชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด สถานที่เกิด และใบหน้า คล้ายและเหมือนกับ Mr.James สัญชาติอังกฤษ แตกต่างกันเพียงสัญชาติและเลขที่หนังสือเดินทางเท่านั้น ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า Mr.James สัญชาติอิสราเอล ถือหนังสือเดินทางเลขที่ 21XXXXXX เกิด 25 ก.ค.2520 สถานที่เกิด LONDON เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรครั้งแรก เมื่อ 23 ต.ค.2558 ครั้งสุดท้าย เมื่อ 5 ม.ค.2563 และยื่นขออยู่ต่อครั้งสุดท้ายได้รับอนุญาตให้อยู่ต่อในราชอาณาจักรถึง 21 ก.ย.2565 ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ข้อมูล ชื่อ ชื่อกลาง นามสกุล วันเดือนปีเกิด และสถานที่เกิดตรงกัน ต่างกันเพียงสัญชาติของคนต่างด้าวเท่านั้น ตรงตามกับข้อมูลที่สืบทราบมาจริง

เจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.ตม.1 จึงได้ประสาน กก.3 บก.สส.สตม.เพื่อขอข้อมูลลายพิมพ์นิ้วมือของ Mr.James สัญชาติอังกฤษ จากฐานข้อมูลในระบบฯ เมื่อครั้งถูกส่งกลับผลักดันออกนอกราชอาณาจักรไป เมื่อวันที่ 3 เม.ย.2558 เพื่อส่งให้ ศท.ตม. ดำเนินการตรวจเปรียบเทียบเพื่อยืนยันกับลายพิมพ์นิ้วมือและใบหน้าของ Mr.James สัญชาติอิสราเอล จากระบบ Biometrics ในวันที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรครั้งล่าสุด ว่าบุคคลทั้งสองเป็นบุคคลคนเดียวกันหรือไม่ ซึ่งผลการตรวจสอบลายพิมพ์นิ้วมือและใบหน้ายืนยันว่าบุคคลทั้งสองเป็นบุคคลคนเดียวกัน จากนั้นเจ้าหน้าที่ฯจึงได้เสนอเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรของ Mr.Jame สัญชาติอิสราเอล และเมื่อผู้บังคับบัญชาอนุมัติ เจ้าหน้าที่ฯจึงได้ทำการควบคุมตัวคนต่างด้าวส่ง กก.3 บก.สส.เพื่อดำเนินการส่งกลับผลักดันต่อไป

สตม. จึงขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดต่างๆ รวมทั้งการดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมายก่อเหตุอันตรายต่อ ความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนหรือ ส่งผลกระทบต่อความมั่นคง และทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเบาะแสในการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง