กาฬสินธุ์  8 ครอบครัวพื้นที่ตาบอดเดือดร้อนร้องขอถนนเข้า-ออกที่อาศัยทำนาเลี้ยงกุ้ง

ชาวบ้านในตำบลบัวบาน อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ 8 ครอบครัว กำลังได้รับความเดือดร้อน เหตุที่อาศัยและที่ทำกินเป็นที่ดินไม่มีทางเข้า-ออกหรือที่ตาบอด เนื่องจากเจ้าของที่ดินซึ่งอยู่ต้นทางไม่อนุญาตให้เข้า-ออกผ่านพื้นที่ ร้องขอความช่วยเหลือจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเปิดทางใหม่ โดยทำถนนข้ามคลอง ขณะที่นายอำเภอและคณะผู้บริหารเทศบาลบัวบานรุดลงพื้นที่ เร่งหาแนวทางช่วยเหลือ

 


เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2565 ผู้สื่อข่าวรายว่า ที่บริเวณลำรางสาธารณประโยชน์ แปลงนานางรัตนภรณ์ รักกลาง อายุ 53 ปี บ้านเลขที่ 39 หมู่ 4 บ้านตูม ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ นายสันติ จัตุพันธ์ นายอำเภอยางตลาด พร้อมด้วยนายสมยศ ยนต์ชัย ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีบัวบาน และคณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่กองช่าง นิติกร ประจำ ทต.บัวบาน ลงพื้นที่สอบถามปัญหาและสำรวจพื้นที่ หลังได้รับหนังสือร้องขอความช่วยเหลือ ในการสร้างถนนข้ามคลองเข้า-ออกที่พักอาศัยและประกอบอาชีพ โดยมีนายเกรียงไกร โม้แพง กำนัน ต.บัวบาน นางละมุล ภักดีนอก ผญบ.บ้านตูม หมู่ 4 นายสเตสฉัน ภูนาสูง ผญบ.บ้านตูม หมู่ 19 และชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนให้ข้อมูล


นางรัตนภรณ์ รักกลาง อายุ 53 ปี ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนกล่าวว่า ตนและเพื่อนบ้านจำนวน 8 ครัวเรือน กำลังได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เนื่องจากไม่มีทางสัญจรเข้า-ออกที่พักอาศัยและประกอบอาชีพ ทั้งขนส่งสินค้าการเกษตร คือกุ้งก้ามกรามและทำนา เนื่องจากที่ทำกินอยู่ด้านในหรือที่เรียกว่าที่ตาบอด ทั้งนี้ เดิมทางเข้า-ออก ซึ่งอยู่ด้านหน้าและติดกับถนนสาธารณะ ที่เคยสัญจรมาประมาณ 20 ปี เป็นที่ดินส่วนบุคคล การเข้า-ออกของตนกับเพื่อนบ้าน 8 ครัวเรือน ที่มีที่ดินอยู่ด้านในดังกล่าว จึงเป็นการขอผ่านชั่วคราว ซึ่งเจ้าของที่ดินแปลงได้อนุญาตให้ผ่านเข้าออกชั่วคราวเท่านั้น
นางรัตนภรณ์กล่าวอีกว่า

เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา เจ้าของที่ดินแปลงดังกล่าว ซึ่งเป็นจุดที่ตนพร้อมญาติและเพื่อนบ้านผ่านเข้าออก ได้ทำการจัดรูปที่ดินใหม่ ด้วยการจ้างรถแบ็คโฮมาขุดเป็นสระน้ำ และห้ามผ่านเข้ามาในพื้นที่ โดยบอกให้ไปหาจุดเข้า-ออกแห่งใหม่ ทำให้ตนพร้อมญาติและเพื่อนบ้าน ไม่มีทางเข้าที่พักอาศัยและทำกิน เป็นเหตุให้ได้รับความเดือดร้อน จึงได้ปรึกษากันเพื่อหาแนวทางที่จะหาทางเข้าที่พักอาศัยและประกอบอาชีพ ซึ่งมีความคิดเห็นตรงกัน ในการลงชื่อขอความช่วยเหลือจากเทศบาลบัวบานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการเปิดทางเข้า-ออกใหม่ เพื่อให้ตนและเพื่อนบ้าน ซึ่งมีที่พักอาศัยและที่ทำกินอยู่ในที่ตาบอด ได้มีทางสาธารณะเข้า-ออกสะดวก ซึ่งจะเป็นการแก้ไขปัญหาอย่างเบ็ดเสร็จ และอำนวยความสะดวกให้กับชาวบ้านได้ใช้ประโยชน์ร่วมกันอย่างยั่งยืน


ด้านนายสมยศ ยนต์ชัย ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีบัวบานกล่าวว่า หลังได้รับการร้องขอจากชาวบ้านดังกล่าว จึงได้นำผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งเจ้าหน้าที่กองช่าง นิติกร ประจำ ทต.บัวบาน มาร่วมรับฟังปัญหาและความต้องการ ทั้งนี้ สิ่งที่ชาวบ้านต้องการ คือการวางท่อระบายน้ำมาตามลำรางสาธารณะและทำถนน ระยะทางประมาณ 20 เมตร กว้าง 2 เมตร เบื้องต้นได้มอบหมายเจ้าหน้าที่กองช่างทำการรังวัด เก็บข้อมูล และจะได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาทางแก้ไขปัญหานี้ให้เร็วที่สุด เพราะเป็นความเดือดร้อนของชาวบ้าน และเป็นหน้าที่ของเทศบาลบัวบาน


ขณะที่นายประจัน ดาวังปา ผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้กาฬสินธุ์ กล่าวว่ากรณีที่ชาวบ้านตูม ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ร้องขอไปทางเทศบาลบัวบานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แก้ไขปัญหาความเดือดร้อน โดยให้มีทางเข้าที่พักอาศัยและประกอบอาชีพ โดยการวางท่อและสร้างถนนบริเวณรางสาธารณะดังกล่าว เบื้องต้นได้รับแจ้งจากทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาวแล้ว จากการตรวจสอบพบว่าลำรางสาธารณะนั้น อยู่ในความรับผิดชอบของศูนย์ป่าไม้กาฬสินธุ์


“อย่างไรก็ตาม ถึงแม้หน่วยงานชลประทานจะถ่ายโอนภารกิจด้านลำรางสาธารณะ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำกับดูแล แต่ในส่วนของการขอใช้ประโยชน์หรือแปลงสภาพการใช้ประโยชน์ ต้องขออนุญาตจากศูนย์ป่าไม้กาฬสินธุ์ ซึ่งทางศูนย์ป่าไม้ฯ พร้อมอนุญาตหากกระบวนการขออนุญาตทุกขั้นตอนสมบูรณ์ ทั้งนี้ ได้แนะนำเทศบาลบัวบานในขั้นตอนของการขออนุญาต โดยให้มีการประชาคม ขณะที่ศูนย์ป่าไม้กาฬสินธุ์จะได้ออกสำรวจพื้นที่อีกครั้ง ในส่วนงบประมาณการก่อสร้างหรือหรือการพัฒนา เป็นเรื่องขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” นายประจันกล่าว