สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จังหวัดเชียงใหม่ จัดเสวนา เชียงใหม่ กับโอกาสสู่การเป็นแหล่งมรดกโลก ผนึกกำลังภาคส่วน หวังผลักดันสู่แหล่งมรดกโลก สร้างโอกาสเติบโตทางด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว

เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2568 ณ โรงแรมสมายล์ล้านนา เชียงใหม่ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ได้จัดงานเสวนาในหัวข้อ ‘เชียงใหม่กับโอกาสสู่การเป็นแหล่งมรดกโลก’ โดยมีนายศุภฤกษ์ ภาวิไล คณะทำงานและเลขานุการ ซึ่งเป็นคณะเร่งรัดการขับเคลื่อนนำเสนอแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่เป็นมรดกโลกและเป็นผู้ริเริ่มและผลักดันโครงการ 730 ปี เชียงใหม่เป็นมรดกโลกเป็นผู้ดำเนินรายการ

พร้อมกับผู้เข้าร่วมเสวนาจากภาคธุรกิจท่องเที่ยว ภาคประชาสังคม โดยได้มีความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกันที่จะร่วมมือผลักดันให้มีการจัดทำเอกสารฉบับสมบูรณ์นำเสนอแหล่งมรดกวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่เข้าสู่บัญชีมรดกโลก (Nomination Dossier) รวมถึงการจัดทำแผนที่ และชุดภาพถ่ายประกอบเอกสารนำเสนอให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2568 นี้

นายศุภฤกษ์ ภาวิไล คณะทำงานและเลขานุการ คณะเร่งรัดการขับเคลื่อนนำเสนอ แหล่งมรดกทางวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่เป็นมรดกโลก กล่าวว่า บริบทของแหล่งมรดกทางวัฒนธรรรมและธรรมชาติกว่า 800 แหล่งทั่วโลกที่รอการขึ้นเป็นมรดกโลก ในขณะที่แต่ละปีสามารถได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนได้ไม่เกิน 35 แหล่ง และประเทศไทยส่งเสนอแหล่งต่อยูเนสโกได้เพียง 1 แหล่งต่อปี ถึงเวลาแล้วที่เมืองเชียงใหม่จะมีแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม จังหวัดเชียงใหม่ เหลือเวลาเพียง 150 วันเริ่ม 1 เมษายน ถึง 31 สิงหาคม 2568 คือช่วงเวลาสำคัญที่สุดต่อการเร่งดำเนินการจัดทำเอกสารฉบับสมบูรณ์นำเสนอแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่เข้าสู่บัญชีมรดกโลก

“ถึงเวลาแล้วที่เมืองเชียงใหม่ จะได้รับการพิจารณาให้เป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม ด้วยศักยภาพและความโดดเด่นทางประวัติศาสตร์ ศิลปะ สถาปัตยกรรม และวิถีชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์” พร้อมทั้งเน้นย้ำถึงประโยชน์มากมายที่เมืองเชียงใหม่จะได้รับ หากได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยยกระดับชื่อเสียงของเมืองและดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกประโยชน์ที่เมืองเชียงใหม่จะได้รับ หากได้เป็นมรดกโลก เศรษฐกิจ การท่องเที่ยว นับถอยหลังสู่การเป็นมรดกโลกของเชียงใหม่ ด้วยปัจจัยและโอกาสความสำเร็จ ความเป็นไปได้ในความร่วมมือจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่ออนาคตของเมืองเชียงใหม่

นายวสันต์ เดชะกัน รองสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชียงใหม่ จัดเสวนาภายใต้หัวข้อเชียงใหม่กับโอกาสสู่การเป็นแหล่งเชียงใหม่ จะเน้นการรับรู้ในภาคประชาชน โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว เพื่อจะได้เป็นการขยายให้เป็นวงกว้าง ให้ประชาชนทั่วไปได้รับรู้ว่า อยากให้คนเชียงใหม่ตื่นตัวและมีความต้องการอยากจะให้เชียงใหม่ขึ้นเป็นเมืองมรดกโลก

เชิญชวนพี่น้องประชาชนคนเชียงใหม่มาช่วยกัน ร่วมกันผลักดันส่งเสียงไปถึงรัฐบาลว่าพี่น้องชาวเชียงใหม่ อยากจะให้ 7 วัด 4แจ่ง 5 ประตู ขึ้นเป็นเมืองมรดกโลกจะได้เป็นจุดขายอีกจุดหนึ่งของภาคการท่องเที่ยว ซึ่งก็จะเป็นเป้าหมายของกลุ่มนักท่องเที่ยว

นางวาสนา ชัยเลิศ ที่ปรึกษาสมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวแม่แตง กล่าวว่า เมื่อเชียงใหม่ได้รับเป็นมรดกโลกจะได้ประโยชน์มากมาย เช่น เมืองเชียงใหม่จะได้รับความสนใจจากภาครัฐและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องมากขึ้น โดยเฉพาะด้านการอนุรักษ์ทางวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน และได้รับการสนับสนุนจากองค์การยูเนสโก ในกรณีเกิดภัยพิบัติ อุทกภัย แผ่นดินไหว จะได้รับการช่วยเหลือทั้งงบประมาณ ผู้เชี่ยวชาญ องค์ความรู้การบูรณะหรือปกป้องโบราณสถาน

ตลอดจนเพิ่มโอกาสการพัฒนาในชุมชนอย่างเป็นระบบ โดยการมีส่วนร่วมอย่างเป็นรูปธรรม โอกาสในการมีส่วนร่วมในการพัฒนาและอนุรักษ์เมือง รวมไปถึง ด้านโครงสร้างพื้นฐาน ระบบการขนส่งสาธารณะภายในพื้นที่และการยกระดับพัฒนาด้านการคมนาคมเป็นศูนย์กลางบริการในภาคการท่องเที่ยวทั้งระบบ สร้างงานเพิ่มรายได้ให้กับคนในท้องถิ่นอีกด้วย

นางสุรีย์ ณ เชียงใหม่ ประธานกองทุนดารารัศมี กล่าวว่า ในเรื่องมรดกโลกได้ยินมาตลอด ถ้าเชียงใหม่จะเป็นมรดกโลกแล้ว ก็อยากจะผลักดันเร่งรัดให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน เข้าไปหานายกรัฐมนตรี ขอให้เชียงใหม่เป็นมรดกโลก เป็นมติคณะรัฐมนตรี ก็คิดว่าขอความกรุณาให้พวกเรารวมใจผนึกกำลังกันเป็นหนึ่งเดียวในการผลักดันให้เชียงใหม่เป็นมรดกโลก

นายไพศาล สุขเจริญ นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ(ตอนบร) กล่าวว่า การผลักดันให้เชียงใหม่เป็นมรดกโลก เป็นโยบายหนึ่งที่ผมเป็นคนเชียงใหม่ก็อยากจะทำเพื่อคนเชียงใหม่ เป็นส่วนหนึ่งของเชียงใหม่ และคิดว่าสิ่งไหนจะช่วยอะไรได้บ้าง ยินดีทุกอย่างที่จะช่วยสนับสนุนทำให้ จังหวัดเชียงใหม่แหล่งมรดกโลกได้เกิดขึ้น  แต่สิ่งหนึ่งยังคิดว่าคนเชียงใหม่รักเชียงใหม่ และพวกเราจะร่วมมือกันทำต่อไป

การจัดงานเสวนาครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งความพยายามที่สำคัญในการผลักดันให้เมืองเชียงใหม่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือและความมุ่งมั่นของทุกฝ่ายเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ในที่สุด