บุรีรัมย์-มาตามนัด บุกตรวจหมอ Gen Y เป่าคาถาออนไลน์รักษาโรคพบไม่ผิด

อำเภอประโคนชัย/สาธารณสุข ฝ่ายปกครองบุกบ้านหมอท็อปเป่าคาถาทางวีดีโอคอลให้กับผู้ป่วย เจ้าหน้าที่ถึงกับอึ้งหลังจากฟังเหตุผล ไม่ได้เรียกเก็บเงิน ไม่หลอกลวง แค่เป็นคาถาให้กำลังใจกับผู้ที่วิตกกังวลมากกว่า เจ้าหน้าที่ทำได้แค่เตือนอย่าใช้คำว่ารักษาเพราะไม่มีใบประกอบวิชาชีพ
วันที่ 24 มี.ค.68 หลังตกเป็นข่าว นายอุปาณ ( นามสมมุติ)อายุ 34 ปี ชาวบ้านรู้จักกันดีในนามหมอท๊อป อยู่บ้านเลขที่ 68 ม.4 ต.ประโคนชัย อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ มีการรักษาโรคให้กับผู้ป่วยแทบทุกโรค ซึ่งวิธีการรักษาจะใช้วิธีวีดีโอคอลไปหาผู้ป่วย ต่อมามีคนออกมาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก มีทั้งเชื่อและไม่เชื่อ
ล่าสุดนายดำรงศ์ศักดิ์ นาสีสังข์ นายอำเภอประโคนชัย พร้อมสาธารณสุขอำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางไปที่บ้านของหมอท็อป เพื่อสอบถามที่มาที่ไปเกี่ยวกับการรักษาดังกล่าว
โดยหมอท็อป ชี้แจงให้กับเจ้าหน้าที่ว่า พ่อกับแม่เป็นครู เกษียณอายุราชการแล้ว ตนทำงานอยู่บ้าน เคยไปศึกษากับอาจารย์ท่านหนึ่งเกี่ยวการท่องและเป่าคาถา จนมั่นใจว่าสามารถรักษาคนได้ จึงเริ่มทำการรักษาแบบพื้นบ้านทั่วไปคือการเป่าคาถาเมื่อประมาณ 4 ปีที่ผ่านมา
ต่อมาจึงใช้โลกโซเชียลให้เป็นประโยชน์ ด้วยการท่องคาถารักษาทางวีดีโอคอลเพื่อไม่สร้างความลำบากให้กับผู้ป่วยหรือผู้ที่ต้องการรักษา โดยก่อนจะรักษาจะซักประวัติก่อนเบื้องต้นทุกคน คือได้รักษากับทางหลักมาหรือยัง
ส่วนตัวเชื่อว่าการรักษาทาสกายคือจะต้องใช้ยา ไม่ว่าจะเป็นสมุนไพรหรือยาปฎิชีวนะ ซึ่งจะต้องใช้ยามาช่วยกาย แต่การรักษาทางใจมันต้องใช้การพูดหรือให้กำลังใจ เช่นการสวดมนต์เช้าเย็น จะทำให้รู้สึกดีขึ้นอย่างแน่นอน
ส่วนการเป่าตนยังไม่รู้เลยว่าจะช่วยได้หรือไม่ ซึ่งตนจะถามกลับไปว่าคุณต้องการให้ผมเป่าจริงไหมเพราะการเป่าบางเคสอาจจะต้องใช้เวลา บางเคสใช้เวลาเป็นเดือน สาเหตุที่ใช้เวลานานเพราะต้องการให้คิด
สิ่งที่ตนทำไม่ใช่เป่าปุ๊บปายปั๊บ แต่มันเป็นการสร้างวิธีคิด อาจารย์ของตนจะบอกเสมอว่าคาถาทั้งหมดที่เราเรียนมันไม่ได้ไปแก้กรรมในอดีต แต่มันคือการสร้างกระบวนการคิดเพื่อจะรอพื้นที่ที่จะผจญเข้ามา หรือรอพื้นที่ที่เราจะผจญเข้าไป
คาถาที่ตนเป่าลงไปส่วนมากจะเป็นภาษาบาลี แต่เมื่อเรามาแปลบาลีออกมามันคือแนวทางการดำเนินชีวิตมากกว่า ดังนั้นถ้าสังคมเราหันมาเข้าใจการสวดมนต์เพียงแค่เช้าเย็นในส่วนที่ตัวเองศรัทธา ตนเชื่อว่าจะมีอะไรขึ้นกับตัวแน่นอน
ด้านนายดำรงศ์ศักดิ์ นาศีสังข์ นายอำเภอประโคนชัย กล่าวว่า วันนี้ได้มาตรวจร่วมกับสาธารณสุข เบื้องต้นได้ให้คำแนะนำไม่สามารถทำการรักษาโรคได้เพราะผิดข้อกฎหมายสาธารณสุข จึงให้ข้อแนะนำเรื่องข้อกฎหมายเรื่องฉ้อโกงประชาชน รวมถึงการนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วย ซึ่งหมอท็อปก็เข้าใจดี เท่าที่ตรวจสอบเป็นการสวดมนต์ร่วมกัน ให้กำลังใจกัน ถือว่ายังไม่มีความผิด/////////
ธีรยุทธ์ ชำนาญกอง
ผู้สื่อข่าว จ.บุรีรัมย์ รายงาน