สงขลา-กองปราบนำทีมบุกค้นห้องเช่าในพื้นที่บ้านด่านนอกชายแดนไทยมาเลเซีย ใช้ติดตั้งซิมบ๊อกของแกงค์คอลเซ็นเตอร์

สงขลา-กองปราบนำทีมบุกค้นห้องเช่าในพื้นที่บ้านด่านนอกชายแดนไทยมาเลเซีย ใช้ติดตั้งซิมบ๊อกของแกงค์คอลเซ็นเตอร์  ใช้โทรหลอกเหยื่อ ยึดซิมบ๊อก 2 เครื่อง และราวเตอร์ ขยายผลมาจากเหยื่อที่ถูกโทรหลอกเสียเงินไป 2 ล้าน

 


วันนี้ (25ม.ค.68) ตำรวจกองปราบ กองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม กสทช.ภาค 4 ชุดสืบสวน ตม.6 นำโดย พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป. ,พ.ต.ท.วริศร มัจฉา รอง ผกก.6บก.ป ,พ.ต.ต.ธนาคาร อุชณรัศมี สว.กก6 บก.ป ,ร.ต.อ.พัทธดนย์ พูลพิพัฒน์ รอง สว.(สอบสวน) กก.6บก.ป ,นางสาวรัชฎาพร ทรัพย์มี ผภภ.4 นำหมายค้นของศาลจังหวัดนาทวี เข้าตรวจค้นภายในห้องเช่า 108 ของอพาร์ทเม้นแห่งหนึ่งในพื้นที่บ้านด่านนอก หมู่ 7 ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งเป็นเมื่อท่องเที่ยวชายแดนไทย มาเลเซีย หลังจากที่ได้รับการประสานข้อมูลจากศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์หรือ (AOC)โดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DES) ว่ามีการนำอุปกรณ์ซิมบ๊อคของแกงค์คอลเซ็นเตอร์ที่ใช้โทรหลอกเหยื่อมาติดตั้งไว้ในพื้นที่ ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา

การเข้าตรวจค้นเจ้าหน้าที่ต้องใช้คีมตัดเหล็กตัดกุญแจห้องพักออกถึงจะเข้าไปได้ และจากการตรวจค้นพบภายในห้องพบอุปกรณ์ซิมบ๊อก 2 เครื่องพร้อมสายไฟ ราวเตอร์แบบใช้ซิมการ์ด 1 เครื่องพร้อมซิมการ์ด สายแลนอินเตอร์เน็ต 2 เส้น และกล่องพัสดุ 1 กล่อง โดยของทั้งหมดถูกซุกซ่อนไว้ใต้เตียงนอน จากการสอบถามผู้จัดการอาคารทราบว่าห้องเช่าห้องนี้มี นาย POON WEI MIN ชาวมาเลเซียเป็นผู้เช่าไว้ โดยใช้มา 2 เดือนแล้วเดือนละ 3,500 บาท เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ขอข้อมูลต่างๆของชาวมาเลเซียคนนี้เพื่อที่จะขยายผลในการติดตามตัวมาสอบสวนต่อไป สำหรับอุปกรณ์ซิมบ๊อกที่พบภายในห้องนั้นเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งของแกงค์คอลเซ็นเตอร์ ที่ สามารถทำให้ โทรหาโทรศัพท์ของเหยื่อเพื่อหลอกลวง โดยซิมบ๊อก 1 เครื่องใช้โทรหาโทรศัพท์ของเหยื่อได้ 2 แสนคนต่อวัน และเป็นรูปแบบใหม่ที่แกงค์คอลเซ็นเตอร์นำมาใช้โทรหลอกเหยื่อ

 

โดยเปิดห้องเช่าแห่งนี้่ซึ่งเปิดไว้ติดตั้งซิมบ๊อกโดยเฉพาะไม่ต้องมีคนเฝ้า โดยซิมบ๊อกจะเป็นตัวซุ่มโทรออก ใช้ซิมโทรศัพท์มือถือใส่ในราวเตอร์ แล้วปล่อยสัญญาณอินเตอร์ไปยังซิมบ๊อก โดยจะรันหมายเลขโทรศัพท์ของเหยื่อไปเรื่อยๆเมื่อมีการรับสายก็จะมีแกงค์คอลเซ็นเตอร์พูดคุยอีกที สำหรับไทม์ไลน์ของการเข้าตรวจค้นห้องเช่าที่ติดตั้งซิมบ๊อกของแกงค์คอลเซ็นเตอร์ในพื้นที่บ้านด่านนอก ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา แห่งนี้ ย้อนกลับไปเมื่อประมาณต้นเดือนตุลาคมปีที่แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ที่รับผิดชอบศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์หรือ ( AOC ) ได้รับเรื่องจากการแจ้งความออนไลน์ เนื่องจากมีประชาชนจำนวนหลายรายได้รับความเสียหายจากการโดนแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์หลอกให้โอนเงิน โดยพฤติการณ์ คือ จะมีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โทรศัพท์แจ้งว่าผู้เสียหายมีความเกี่ยวข้องกับกระบวนการฟอกเงิน

 

 

หากต้องการพิสูจน์ความบริสุทธ์ใจ ให้โอนเงินไปยังบัญชีต่างๆ ที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์นั้นแจ้ง หากไม่ทำตามจะถูกดำเนินคดี ทำให้ผู้เสียหายหลายราย เกิดความหวาดกลัว และได้โอนเงินไปตามที่ถูกแก็งค์คอลเซ็นเตอร์นั้นแจ้ง มีความเสียหายอย่างน้อย 2 ล้านบาท โดยพบความเคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ อ.สะเดา และมีการประสานข้อมูลมายังตำรวจกองปราบกองกำกับการ6 ให้ลงพื้นที่สืบสวน จนทราบว่าพื้นที่ จ.สงขลา น่าจะมีการติดตั้งอุปกรณ์ซิมบ๊อก ปฏิบัติการทลายรังแกงค์คอลเซ็นเตอร์จึงเริ่มต้นขึ้น โดยเริ่มจากเมื่อวันที่ 28 พ.ย.ปี 67 ได้เข้าตรวจค้นอาคารแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.สะเดา และยึดอุปกรณ์ซิมบ๊อกได้ 2 เครื่อง และ อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องได้หลายรายการ จากนั้นได้ทำการสืบสวนเพิ่มเติมเพื่อติดตามจับกุมเครือข่ายผู้เกี่ยวข้อง

 

ต่อมาเมื่อประมาณ เดือนธันวาคม ปี 67 เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์หรือ ( AOC ) ได้ทำการตรวจสอบข้อมูลพบว่าในพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา น่าจะมีการติดตั้งเครื่องซิมบ๊อก ( SIM BOX ) อีก ทางตำรวจกองปราบกองกำกับการ 6 จึงได้ทำการสืบสวนจนรู้สถานที่ติดตั้งซิมบ๊อก จนนำมาสู่การเข้าตรวจค้นภายในห้องเช่าแห่งนี้ในพื้นที่บ้านด่านนอก ต.สำนักขาม อ.สะเดา และยึดอุปกรณ์ซิมบ๊อก ได้อีก 2 เครื่อง และจะขยายผลเพิ่มเติมเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาที่เป็นเครือข่ายแกงค์คอลเซ็นเตอร์ต่อไป สำหรับอุปกรณ์ซิมบ๊อกที่พบภายในห้องนั้นเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งของแกงค์คอลเซ็นเตอร์ ที่ สามารถทำให้ โทรหาโทรศัพท์ของเหยื่อเพื่อหลอกลวง โดยซิมบ๊อก 1 เครื่องใช้โทรหาโทรศัพท์ของเหยื่อได้ 2 คนต่อวัน

 

นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา