อุตรดิตถ์-ไหว้พระเหลือในม่อนจำศิล ขอโชคจากสิ่งลี้ลับ ถ้ำอาถรรพณ์ เมืองลับแล

วันที่ 11 ธันวาคม 2567
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณทางโค้ง ถนนสายน้ำตกแม่พูล-อำเภอลับแล ซึ่งเป็นถนนขนส่งผลไม้ของชาวจังหวัดอุตรดิตถ์สู่ท้องตลาด จะพบกับภูเขาไม่สูงมากนัก ซึ่งอยู่ไหล่ทาง เรียกกันว่า ม่อนจำศิล อยู่ในพื้นที่ หมู่ที่ 6 ต.ฝายหลวง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ อยู่ห่างจากตัวเมืองจังหวัดเพียง 8 กิโลเมตรเศษ

ซึ่งเป็นจุดแวะพักที่นักท่องเที่ยวมักจะเดินทางมากราบสักการะองค์หลวงพ่อเหลือ พร้อมชมธรรมชาติ ส่องปากถ้ำเมืองลับแล หรือเดินออกกำลังกายเดินขึ้นบันไดนาค จะขับรถขึ้นไปเพื่อสูดอากาศที่สดชื่น และชมวิวแบบ 360 องศา บนยอดเนินเขาแห่งนี้กันเป็นประจำ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนขึ้นไปเที่ยวชมบรรยากาศบนเเขา จะพบกับป้ายบอกว่า สถานที่แห่งนี้คือ ม่อนจำศิล และจะมีบันไดพยานาคเดินชึ้นไปจนสุดเนินเขาจะพบกับหินศิลาแลง บรรยากาศชั้นบน ก็จะพบศาลาเก่าแก่หลังหนึ่ง ที่มีพระพุทธรูปขนาด ประมาณ 1 เมตรเศษ ปางมารวิชัย ซึ่งชาวบ้านเรียกกันว่า พระเหลือ เนื่องจาก พุทธรูปองค์ดังกล่าว ได้ทำมาจากเศษทองที่เหลือจากการสร้างพระพุทธรูปปางมารพิชัยที่ประดิษฐานอยู่ที่ จ.พิษณุโลก

และยังมีองค์พระพุทธรูปองค์สีน้ำเงินกับองค์สีทองประดิษฐานอยู่ด้านข้างซ้ายขวาของพระเหลือ นั้นคือ พระพุทธูปองค์สมเด็จพระปฐมพร้อมรูปภาพของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก จ.อยุธยา บริเวณโดยรอบมีต้นไม้ล้อมรอบ และมีผ้าจีวรพระผูกไว้ จำนวนหลายต้น เพื่อแสดงว่า ต้นไม้เหล่านี้ได้มีการบวชเป็นที่เรียบร้อย

ซึ่งม่อนจำศิลแห่งนี้ยังพบปากถ้ำที่ถูกปิดตายไว้เป็นเวลานาน แต่ก็จะมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมถ่ายรูปหรือแม้แต่การมาทำพิธีบวงสรวงกราบไว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ.ที่แห่งนี้อยู่เป็นประจำ จากคำบอกเล่าที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานจนเป็นตำนานของเมืองลับแลแห่งนี้ เชื่อกันว่า เป็นเมืองแม่ม่าย และปากถ้ำดังกล่าวจะเป็นทางเข้าเมืองลับแลในสมัยอดีตที่ผ่านมาเกือบ 1,000 ปีแล้ว

นายรัตน์ ประสารศรี ประธานสภาวัฒนธรรมตำบลฝายหลวง อ.ลับแล(อดีตกำนันตำบลฝายหลวง)กล่าวว่า ปากถ้ำและภายในถ้ำแห่งนี้ เมื่อหลายปีก่อน ถ้ำแห่งนี้ยังสามารถเปิดเข้าไปข้างในได้ ความลึกของถ้ำประมาณ 3-4 เมตร ข้างในถ้าจะมี แก้วแหวนเงินทอง อยู่ภายในจำนวนมาก แต่ไม่มีใครกล้าเอาออกมา เนื่องจากเคยมีคนเอาออกมาแล้ว ได้เกิดอาถรรพ์ อาเพศ เรื่องราวไม่ดีต่างๆเกิดขึ้นกับตนและครอบครัว จึงได้เอาเข้าไปเก็บไว้ที่เดิม และไม่มีใครกล้าเข้าไปในถ้ำนั้นอีกเลย ซึ่งต่อมาถ้ำแห่งนี้ถูกปิดปากถ้ำลงเองโดยธรรมชาติ จนไม่มีใครสามารถเข้าไปได้อีกจนถึงปัจจุบัน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในวันนี้ มีนักท่องเที่ยวได้เดินทางมาจาก จ.สุโขทัย ซึ่งได้มากราบสักการะองค์พระเหลือ ด้วยการจุดธูป 3 ดอก พร้อมเข้าไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และสิ่งลี้ลับที่อยู่ปากถ้ำ พร้อมด้วยจุดธูปเสี่ยงทาย ตั่งจิตอธิฐาน หากมีวาสนาพอ ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ.ที่แห่งนี้ได้โปรดให้โชคแก่ตน เมื่อธิฐานเสร็จ รอจนธูปหมด ปรากฏเป็นตัวเลข 2 ตัว คือเลข 33 ซึ่งนักท่องเที่ยวสายมูจะได้นำไปเสี่ยงโชคในงวดที่จะมาถึง

นาคา คะเลิศรัมย์/รายงาน