จันทบุรี ระทึก!เพลิงไหม้ตู้เชิงเทียน ภายในอุโบสถ ในงานทอดกฐินวัดทองทั่ว

วันที่ 3 พ.ย..67 เทศบาลตำบลพลับพลานารายณ์ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในโบสถ์หลังใหม่ของวัดทองทั่ว นายณัฐวัฒน์ เรืองชัยโชค นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลพลับพลานารายณ์ได้สั่งการให้ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบพลับพลานารายณ์นำรถดับเพลิงเข้าช่วยชาวบ้านที่เข้าระงับเหตุเบื้องต้นดับเพลิงภายในโบสถ์วัดทองทั่ว ซึ่งมีการจัดงานทอดกฐินประจำปี ในวันนี้โดยคณะ ศิษย์ยานุศิษย์พระอาจารย์ช้างหรือพระครูจารุเขมากร เจ้าอาวาสวัดทองทั่ว และชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ที่อยู่กันจำนวนมาก ได้ช่วยกันดับเพลิงที่ลุกไหม้ในตู้เชิงเทียน ซึ่งเป็นตู้เชิงเทียนประดับไม้มุกมีแท่งเทียนขนาดสูงเพลิงลุกไหม้ด้านบนของตู้เชิงเทียนและติดไฟด้านบนก่อนที่จะลามลงมาด้านล่าง

แต่ชาวบ้านและลูกศิษย์วัด ได้ก็ช่วยกันระงับเหตุเบื้องต้น หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ป้องกันของเทศบาลฯ ได้เข้ามาควบคุมเพลิง ได้อย่างรวดเร็วจึงไม่ลุกลามไปสร้างความเสียหายในโบสถ์ถึงแม้จะมีลมและอุปกรณ์ที่ติดเชื้อเพลิงได้แต่กล่องไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด สาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ตู้เชิงเทียนครั้งนี้ นายสุรศักดิ์ นิยมวานิช ไวยาวัจกรวัดทองทั่วคาดว่า เทียนแท่งใหญ่ที่อยู่ในตู้มีการเอนเอียงและมีลมกรรโชกเข้าทางหน้าต่างของโบสถ์ จึงทำให้เปลวไฟลุกลามติดวัสดุที่เป็นไม้ของเชิงเทียนโชคดีที่ควันไฟปรากฏจึงทำให้มีคนเห็นเข้าระงับเพลิงได้ทันก่อนที่จะลุกลาม พร้อมฝากเตือนประชาชนในช่วงนี้ลมแรงจุดธูปเทียนบูชาพระ หรือประกอบพิธีใดๆ ขอให้เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ

 
อย่างไรก็ตามวันนี้เป็นวันทอดกฐินประจำปีของวัดทองทั่ว จึงมีศิษยายานุศิษย์ พุทธศาสนิกชน ประชาชนจำนวนมากเดินทางมาร่วมงานบุญทอดกฐินและถือเป็นการทอดกฐินที่มีประชาชนพุทธศาสนิกชนศิษย์ยานุศิษย์ร่วมเปิดโรงทานเพื่อจัดเลี้ยงผู้ที่มาร่วมงานมากที่สุดในพื้นที่ตำบลคลองนารายณ์ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี โดยมีโรงทานทั้งสิ้น 502 โรงทาน ในขณะเกิดเหตุเพลิงไหม้ยังมีการเปิดโรงทานและมีประชาชนรวมทั้งศิษย์ยานุสิทธิ์จำนวนมากอยู่ภายในวัดจึงได้ช่วยกันระงับเหตุได้ทัน ในส่วนของวัดทองทั่วเป็นศูนย์รวมจิตใจของพี่น้องประชาชนรวมทั้งนักท่องเที่ยวที่เดินทางมากราบสักการะขอพรพระพุทธสุวรรณมงคล หรือหลวงพ่อทองซึ่งเพลิงไหม้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสถานที่ประดิษฐานหลวงพ่อทองและบริเวณของวัดทองทั่วแต่อย่างใดทั้งสิ้น

ภาพ/ข่าว
กิตติพงศ์ คงคาลัย จันทบุรี