เทศบาลตำบลโพนทอง อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ จัดโครงการป้องกันการจมน้ำในเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี เพื่อป้องกันและลดการเสียชีวิตของเด็กในพื้นที่ เกิดการดำเนินงานป้องกันการจมน้ำอย่างต่อเนื่อง และเพื่อให้เกิดการดำเนินงานป้องกันการจมน้ำทุกมาตรการ โดยการร่วมมือขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชุมชนและสถานศึกษา

ที่โรงเรียนหามแหโพนทองวิทยาคม ต.โพนทอง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ นายสุดใจ บัวลอย นายกเทศมนตรีตำบลโพนทอง เป็นประธานเปิดโครงการป้องกันการจมน้ำในเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี โดยมีนายสิรเศรษฐ์ เวียงเพิ่ม ปลัดเทศบาลตำบลโพนทอง นายสุรยกานต์ มงคลสินธุ์ หัวหน้าสำนักปลัดเทศบาลฯ นายสานิตย์ เพ็ญประชุม นักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยปฏิบัติการ พร้อมด้วยผู้นำชุมชน ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้ปกครอง นักเรียน ร่วมโครงการ

นายสุดใจ บัวลอย นายกเทศมนตรีตำบลโพนทอง กล่าวว่าจากข้อมูลมรณบัตร กองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ปี 2555-2564 พบว่าคนไทยเสียชีวิตจากการจมน้ำจำนวน 35,935 คน หรือเฉลี่ยวันละ 10 คน โดยในช่วงเดือนมกราคม-สิงหาคม ของปี 2565 พบทุกกลุ่มอายุเสียชีวิตจากการจมน้ำ จำนวน 2,883 คน เมื่อจำแนกเฉพาะกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีพบว่า ช่วง 10 ปี (2555-2564) มีเด็กจมน้ำเสียชีวิต จำนวน 7,374 คน หรือเฉลี่ยวันละ 2 คน โดยในช่วงเดือนมกราคม-สิงหาคม 2565 พบเด็กจมน้ำเสียชีวิต จำนวน 465 คน

นายสุดใจกล่าวอีกว่า จากข้อมูลข้างต้นจะพบว่า กลุ่มเด็กมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง และกลับมาเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้งในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (ปี 2564-2565) ขณะที่ทุกกลุ่มอายุ มีแนวโน้มคงที่มาตลอด และเพิ่มสูงขึ้นในช่วงการแพร่ระบาด ของโรคโควิด-19 เช่นเดียวกัน เมื่อพิจารณาเฉพาะในกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี (ค่าเฉลี่ย 10 ปี) พบกลุ่มอายุ 0-4 ปีและ 5-9 ปีมีอัตราการเสียชีวิตสูงที่สุด เท่ากับ 7.3 ต่อประชากรแสนคน รองลงมาคือกลุ่มอายุ 10-14 ปี เท่ากับ 4.7 ต่อประชากรแสนคน และเมื่อจำแนกจังหวัดตามพื้นที่เสี่ยง พบส่วนใหญ่จังหวัดที่เป็นพื้นที่เสี่ยงสูง (สีแดง) อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รองลงมาคือภาคกลาง

 
“เมื่อวิเคราะห์ข้อมูลเฉพาะปี 2564 พบเด็กไทยเสียชีวิต จากการจมน้ำจำนวน 667 คน มีอัตราการเสียชีวิต เท่ากับ 6.3 ต่อประชากรแสนคน ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2563 พบแนวโน้มการเสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 23.5 โดยพบเพศชายเสียชีวิตมากว่าเพศหญิง 2.2 เท่า และเมื่อพิจารณารายกลุ่มอายุ พบกลุ่มอายุ 0-4 ปีมีอัตราการเสียชีวิตสูงที่สุด เท่ากับ 7.3 ต่อประชากรแสนคน รองลงมากลุ่มอายุ 5-9 ปีเท่ากับ 7.0 ต่อประชากรแสนคน และกลุ่มอายุ 10-14 ปีเท่ากับ 4.8 ต่อ ประชากรแสนคน ทั้งนี้เมื่อจำแนกรายภาค พบภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอัตราการเสียชีวิตสูงที่สุด เท่ากับ 8.4 ต่อประชากรแสนคน รองลงมาคือ ภาคใต้ ภาคกลาง และภาคเหนือ มีอัตราการเสียชีวิตต่อประชากรแสนคน เท่ากับ 5.8, 5.7 และ 3.3 ตามลำดับ” นายสุดใจกล่าว

 
นายสุดใจกล่าวเพิ่มเติมว่า เทศบาลตำบลโพนทอง ให้ความสำคัญกับการรักษา คุ้มครอง ป้องกันภัยให้กับทรัพยากรบุคคล และตระหนักในปัญหาการเสียชีวิตจากการจมน้ำ จึงจัดทำโครงการป้องกันการจมน้ำในเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ประจำปี 2567 ขึ้นเพื่อป้องกันและลดการเสียชีวิตของเด็กในพื้นที่ กระตุ้นให้เกิดการดำเนินงานป้องกันการจมน้ำในพื้นพื้นที่ เพื่อให้เกิดการดำเนินงานป้องกันการจมน้ำอย่างต่อเนื่อง ให้เกิดการดำเนินงานป้องกันการจมน้ำทุกมาตรการ โดยดำเนินงานป้องกันการจมน้ำ โดยการร่วมมือขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชุมชนและสถานศึกษา โดยมีการแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการตามโครงการป้องกันการจมน้ำในเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ทำหนังสือส่งถึงศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และโรงเรียนในเขตตำบลโพนทอง เพื่อที่จะได้กลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมโครงการ