นครศรีธรรมราช-สถานพินิจเด็ก ฯเมืองคอน ชี้แจงกระบวนดำเนินการคดีเด็กและเยาวขน จำนวน 5 ราย ซึ่งก่อเหตุทุบตีทำร้ายจับแก้ผ้า ด.ญ.วัย 12 ปี

ยืนยันสถานพินิจ ฯไม่มีอำนาจควบคุมตัว เนื่องจากเป็นกรณีแจ้งการดำเนินคดี โดยพนักงานสอบสวน ได้ส่งตัวเด็กและเยาวชนจำนวน 4 ราย มาเพื่อดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมายในวันที่ 5 มิถุนายน 2567 โดยไม่ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลฯมีการควบคุมตัว ส่วนเด็กอีกหนึ่งรายอายุยังไม่ถึง 12 ปี ไม่ได้อยู่ในกระบวนการของสถานพินิจ ฯ และในวันดังกล่าว ผู้ปกครองได้รับตัวกลุ่มเด็กและเยาวชนผู้ต้องหาทั้งหมดกลับไปแล้ว

 

จากกรณีที่ น.ส.บีบะ อายุ 29 ปี และ ด.ญ.เอฟ (นามสมมุติ) อายุ 12 ปี หลานสาว อยู่บ้านใน อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.อภิสิทธิ์ สุวรรณรัตน์ รอง ผกก.(สอบสวน )สภ.ท่าศาลา พนักงานสอบสวนเวร สภ.ท่าศาลา ให้ดำเนินคดี กับ ด.ญ.เอ ด.ญ.บี ด.ญ.ซี ด.ญ.ดี ด.ญ.อี (นามสมมุติ) ทุกคนที่ได้ร่วมกันทำร้ายร่างกาย ด.ญ.เอฟ จนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งขณะเกิดเหตุนั้นยังได้ถอดเสื้อผ้าของ ด.ญ.เอฟ ออกจนหมดเปลือยกายล้อนจ้อน และได้อัดคลิปวีดีโอไว้และได้นำคลิปดังกล่าว ไปโพสต์ในสตอรี่เฟซบุ๊ก เหตุเกิดบริเวณเขื่อนหลังโรงเรียนสามัญแห่งหนึ่ง ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช

 

ต่อมา พ.ต.ท.เกษมสิทธิ์ จำปาทอง รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ท่าศาลา และ พ.ต.ท. อภิสิทธิ์ สุวรรณรัตน์ รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.ท่าศาลา จ. นครศรีธรรมราช ได้เชิญเด็กผู้หญิงทั้ง 5 คน จำนวน 5 คน อายุ 8 ขวบ-18 ปี มารับทราบข้อกล่าวหาในคดีทำร้ายร่างกาย หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
อย่างไรก็ตาม 1 ใน 5 ของ เด็กและเยาวชน ผู้ต้องหาซึ่งเป็นคนถ่ายคลิปอายุแค่ 8-9 ขวบและอ้างว่าถูกกลุ่มผู้ต้องหารุ่นพี่บังคับให้ช่วยถ่ายคลิป ทำให้ น.ส.บีบะ ไม่ติดใจเอาเรื่องและขอให้ตำรวจปล่อย ด.ญ.วัย 8-9 ขวบคนดังกล่าวไป หลังสอบสวนตามขั้นตอนเสร็จสิ้นพนักงานสอบสวน ทาง สภ.ท่าศาลา จึงส่งตัวเยาวชนผู้ถูกกล่าวหา ทั้ง 4 คน ไปยังส่งสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนครศรีธรรมราช ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

(11 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากเมื่อวานนื้ (10 มิ.ย.) พนักงานสอบสวน สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช นำโดย พ.ต.ท.เกษมสิทธิ์ จำปาทอง รอง ผกก.หัวหน้า (งานสอบสวน) สภ.ท่าศาลา และ พ.ต.ท. อภิสิทธิ์ สุวรรณรัตน์ รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.ท่าศาลา จ. นครศรีธรรมราช พร้อมเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพและเจ้าหน้าที่มูลนิธิ ปวีณา ฯเพื่อเด็กและสตรี ได้ร่วมสอบสวนปากคำ ด.ญ.เอฟ ผู้เสียหาย และ น.ส.บีบะ น้าสาว ซึ่งเป็นผู้ปกครอง ด.ญ.เอฟ ในฐานะผู้เสียหายถึงเหตุการณ์และเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด โดย ด.ญ.เอฟ ผู้เสียหาย และ น.ส.บีบะ น้าสาว ได้มอบข้อความแชทที่บรรดาผู้ต้องหาส่งมาข่มขู่คุกคาม ซึ่งทางผู้เสียหายสงสัยว่าเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวส่งผู้ต้องไปให้สถานพินิจเด็กและเยาวชนจังหวัดนครศรีธรรมราช แล้วกลุ่มผู้ต้องหาสามารถส่งข้อความมาข่มขู่ได้อย่างไร

ในเรื่องนี้สถานพินิจ ฯได้ชี้แจงสื่อมวลชนให้ทราบ ถึงกระบวนการและขั้นตอนในการดำเนินการกับผู้ต้องหาที่เป็นเด็กและเยาวชน โดยระบุว่าในคดีนี้ทาง
พนักงานสอบสวน ได้ส่งตัวเด็กและเยาวชนผู้ต้องหาจำนวน 4 ราย มาให้ทางสถานพินิจเด็ก ฯเพื่อ ดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมาย และ พนักงานสอบสวน ไม่ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลควบคุมตัว ทางศาลไม่มีคำสั่งให้ควบคุมตัวเด็กและเยาวชนผู้ต้องหาไว้ในสถานพินิจเด็ก ฯ ทางสถานพินิจเด็ก ฯจึงไม่มีอำนาจในการควบคุมตัวเด็ก จึงมอบตัวใหักับผู้ปกครองรับตัวเด็กและเยาวชนทั้ง 4 ราย กลับไปตั้งแต่วันที่ 5 มิ.ย. ที่ผ่านมา
ดังนั้นทางสถานพินิจเด็ก ฯขอชี้แจงยืนยันว่า เด็กและเยาวชน ผู้ต้องหาทั้งหมดไม่ได้ถูกควบคุมตัวที่สถานพินิจเด็ก ฯแต่อย่างใด จึงขอชี้แจงให้สื่อมวลชนรับทราบข้อเท็จจริงในส่วนนี้ด้วย

ในกรณีที่ผู้ต้องหาส่งข้อความไปข่มขู่ผู้เสียหายนั้น เป็นสิทธิ์ของผู้เสียหาย ที่จะนำพยานหลักฐานไปแจ้งความเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวนได้ เพื่อให้ทางพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
ส่วนมาตรการที่จะดำเนินการกับ เด็กและเยาวชน ผู้ต้องหาต่อไปอย่างไรนั้น สถานพินิจ ฯ จะดำเนินการ สอบถ้อยคำผู้เกี่ยวข้องประเมินความเสี่ยงความจำเป็นของเด็กและเยาวชนผู้ต้องหาแต่ละราย โดยมีสหวิชาชีพ เพื่อวางแผนแนวทางแก้ไข บำบัดฟื้นฟู และจัดทำรายงานแสดงข้อเท็จจริง เพื่อให้ศาลกำหนดมาตราการในการดำเนินการกับเด็กและเยาวชนผู้ต้องหาทั้งหมดอีกครั้งหนึ่ง .

 

ภาพ/ข่าวไพฑูรย์ อินทศิลา/ นครศรีธรรมราช ทีมข่าวปรีชา สถิตเรืองศักดิ์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา