สตม.ตามเช็คบิลสามีภรรยาฟิลิปปินส์หัวใสลอบส่งออกกัญชา พบอยู่เกินคนละกว่า 9 ปี
สตม.ตามเช็คบิลสามีภรรยาฟิลิปปินส์หัวใสลอบส่งออกกัญชา พบอยู่เกินคนละกว่า 9 ปี
ตามนโยบายของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ สตม. สกัดกั้น ตรวจสอบ ระดมจับกุมคนต่างด้าวที่เข้ามาประกอบธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศไทย รวมทั้งให้ดำเนินการตรวจสอบ ชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือ กลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุ หรือโดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด
วันนี้ (10 เม.ย.67) เวลา 11.00 น. ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.มานัด ศรีวงษา รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.สส.สตม., พล.ต.ต.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ ผบก.ตม.1, พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุรินทร์แก้ว รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง รอง ผบก.สส.ภ.7 ปฏิบัติราชการ บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ปริญญา กลิ่นเกษร รอง ผบก.ตม.1,  พ.ต.อ.กาจภณ ปฐมัง ผกก.สส.บก.ตม.1, พ.ต.อ.ธวัชชัย นรินรัตน์ ผกก.1 บก.สส.สตม., พ.ต.อ.รัฐพงษ์ แก้วยอด ผกก.4 บก.สส.สตม.ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ ดังนี้
สตม.ตามเช็คบิลสามีภรรยาฟิลิปปินส์หัวใสลอบส่งออกกัญชา พบอยู่เกินคนละกว่า 9 ปี
   กก.สส.บก.ตม.1 จับกุมนายโจ (นามสมมติ) อายุ 35 ปี สัญชาติฟิลิปปินส์ และนางแมรี่ (นามสมมติ) อายุ 30 ปี สัญชาติฟิลิปปินส์ โดยกล่าวหาว่า เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ประเวศ ดำเนินคดีตามกฎหมาย สถานที่จับกุม ทาวน์โฮมย่านแขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพฯ
สืบเนื่องจากเมื่อประมาณต้นปี 2567 ชุดสืบสวน กก.สส.บก.ตม.1 ได้รับการประสานข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการจากหน่วยงานความมั่นคงประเทศฟิลิปปินส์ เกี่ยวกับการจับกุมกัญชาอบแห้งล็อตใหญ่ บรรจุอยู่ในลังพัสดุซีนแน่นหนา น้ำหนักรวมกว่า 10 กิโลกรัม ซึ่งถูกตรวจพบโดยสำนักงานศุลกากร ในประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อปลายเดือน ก.พ. 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งสำหรับกัญชาอบแห้งนั้น ยังเป็นสิ่งผิดกฎหมายในประเทศฟิลิปปินส์ ทำให้ผลกำไรตอบแทนจากการส่งกัญชาจากประเทศไทยไปยังกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์นั้นมีมูลค่าสูงมาก โดย standard street price ของกัญชาดังกล่าวเมื่อถูกลำเลียงถึงประเทศฟิลิปปินส์จะมีมูลค่ามากถึง 1,200 เปโซต่อกรัม หรือประมาณ กรัมละ 975 บาท (รวมมูลค่าเกือบ 10 ล้านบาท) ซึ่งต้นทางของกัญชาที่ถูกตรวจยึดดังกล่าวมาจากบริษัทขนส่งพัสดุแห่งหนึ่ง ในกรุงเทพฯ ซึ่งตั้งอยู่ในย่านที่มีชาวฟิลิปปินส์พักอาศัยอยู่มาก ชุดสืบสวนจึงได้เริ่มลงพื้นที่หาข่าวเกี่ยวกับบริษัทขนส่งในบริเวณดังกล่าวเรื่อยมา
ต่อมาในช่วงเดือน มี.ค.2567 กก.สส.บก.ตม.1 ได้ข้อมูลผู้นำส่งพัสดุล็อตดังกล่าว คือนายโจ (นามสมมติ) และ นางแมรี่ (นามสมมติ) สองสามีภรรยาชาวฟิลิปปินส์ เมื่อตรวจสอบข้อมูลผ่านระบบไบโอเมตริกซ์แล้วพบว่าทั้ง 2 ราย อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุดแล้วกว่า 9 ปี (3,198 วัน และ 3,669 วัน ตามลำดับ) จึงได้สืบสวนหา  ที่พักอาศัยของคนต่างด้าวดังกล่าว จนกระทั่งทราบว่าทั้ง 2 ราย พักอาศัยอยู่ในทาวน์โฮมในย่านแขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพฯ โดยเพิ่งย้ายมาเช่าบ้านดังกล่าวอยู่ได้ไม่ถึง 3 สัปดาห์ ค่าเช่าเดือนละ 30,000 บาท จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ เมื่อพบตัวจึงได้จับกุมดำเนินคดีในข้อหาดังกล่าว นอกจากนี้ คนต่างด้าวทั้ง 2 ราย จะต้องถูก สตม. ขึ้นบัญชีรายชื่อเป็นบุคคลต้องห้ามเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นเวลานานถึง 10 ปี ตามคำสั่งกระทรวงมหาดไทย ที่ 1/2558 ลงวันที่ 27 พฤศจิกายน 2558 เรื่อง การไม่อนุญาตให้คนต่างด้าวบางจำพวกเข้ามาในราชอาณาจักร