ปทุมธานี ลงพื้นที่ตรวจสอบหาสาเหตุ กำชับเจ้าหน้าที่ระงับเพลิงโดยเร็ว พร้อมเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บ

ปทุมธานี ลงพื้นที่ตรวจสอบหาสาเหตุ กำชับเจ้าหน้าที่ระงับเพลิงโดยเร็ว พร้อมเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บ

เมื่อวันที่ 9 ม.ค.67 เวลา 12.00 น. นายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วยนายธรรมนูญ แจ่มใส ปลัดจังหวัดปทุมธานี นาย ธวัชชัย อึ้งอัมพรวิไล นายกเทศมนตรีเมืองบางกะดี นางสาวสุพีพร โมรา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปทุมธานี นายวินัย สีเที่ยงธรรม โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดปทุมธานี ลงพื้นตรวจสอบโรงงานกระดาษมาวรรณเปเปอร์ ปทุมธานี ซึ่งเกิดเหตุเพลิงไหม้ เมื่อคืนเวลาประมาณ 03.05 น.

โดยถึงขณะนี้เพลิงยังไม่สงบ และมีเจ้าหน้าที่จากมูลนิธิร่วมกตัญญูปทุมธานีได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะและบริเวณดวงตาด้านขวา จากการเข้าปฏิบัติหน้าที่ดับเพลิง จำนวน 1 ราย ณ จุดเกิดเหตุ จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีและคณะได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลกรุงสยามเซนต์คาร์ลอส เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ได้รับบาดเจ็บ พร้อมมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ครอบครัวเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ จากการสอบสวนสาเหตุที่บาดเจ็บพบว่า โดนสะเก็ดฝาเครื่องสูบน้ำที่แตกออก เนื่องจากการเดินเครื่องเป็นเวลานานและเกิดความร้อน ทำให้เกิดการระเบิดในขณะที่กำลังดับเพลิง ผู้ว่าฯ ปทุมธานี เปิดเผยว่า

“จากเหตุเพลิงไหม้ เมื่อคืนเวลาประมาณ 03.05 น. ทางเทศบาลบางกะดีได้รับแจ้งเหตุ และได้ส่งรถดับเพลิงเข้ามา ณ จุดเกิดเหตุ ในทันที แต่เนื่องจากเป็นโรงงานกระดาษ ทำให้เพลิงไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็ว จึงได้ระดมรถดับเพลิงจากหน่วยงานต่าง ๆ เข้ามาช่วยเหลือ โดยเจ้าหน้าที่ได้ใช้รถแบคโฮตักกระดาษไปกองไว้ที่อื่น แล้วฉีดน้ำหล่อเลี้ยงตลอดเวลา ส่วนด้านหลังโรงงานเป็นพื้นที่ชุมชน ทางนายกเทศมนตรีเมืองบางกะดี ได้นำรถน้ำไปจอดบริเวณด้านหลังโรงงาน เพื่อฉีดเป็นละอองฝอยน้ำป้องกันควันพิษแล้ว สำหรับ รพสต. ได้สั่งการให้เข้าไปดูเรื่องสุขภาพของพี่น้องประชาชนในพื้นที่โดยรอบโรงงาน”


สำหรับสถานที่เกิดเหตุ เป็นโรงงานกระดาษบนพื้นที่ 100 ไร่ ที่อยู่ระหว่างปิดปรับปรุงกว่า 6 เดือนแล้ว วัตถุดิบที่ก่อให้เกิดเพลิงไหม้เป็นกระดาษรียูทจำนวนมาก ขณะนี้เพลิงยังไม่สงบ แต่สามารถควบคุมเพลิงไว้ในบริเวณจุดเกิดเหตุได้ ส่วนมูลค่าความเสียหายและสาเหตุอยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่

ภาพ/ข่าว ประภาพรรณ ขาวขำ/รายงาน