กาฬสินธุ์เดินหน้าส่งเสริมกีฬาเพื่อมวลชนให้เป็นวิถีชีวิต

จังหวัดกาฬสินธุ์ เดินหน้าขับเคลื่อนการส่งเสริมและพัฒนาการออกกำลังกายและกีฬาเพื่อมวลชนให้เป็นวิถีชีวิต ตามแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ขณะที่สำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดกาฬสินธุ์ แต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ ผลักดันการกีฬาเมืองน้ำดำให้โดดเด่นกว่าที่ผ่านมา

 


วันที่ 22 ธันวาคม 2566 ที่ห้องประชุมดอกพะยอม ศาลากลาง จ.กาฬสินธุ์ ชั้น 2 นายสนั่น พงษ์อักษร ผวจ.กาฬสินธุ์ มอบหมายนายธวัชชัย รอดงาม รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการกีฬา จ.กาฬสินธุ์ ครั้งที่ 1 ประจำปีงบประมาณ 2567 โดยมีนายพิพัฒน์ วิชัยรัมย์ ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยคณะกรรมการการกีฬาฯ ร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง


นายธวัชชัย รอดงาม รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตามที่กระทรวงมหาดไทย ได้กำหนดดำเนินการขับเคลื่อนการส่งเสริม และพัฒนาการออกกำลังกายและกีฬาเพื่อมวลชนให้เป็นวิถีชีวิต โดยผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะประธานคณะกรรมการกีฬาจังหวัด ใช้กลไกคณะกรรมการกีฬาจังหวัด ในการขับเคลื่อนการส่งเสริมและพัฒนาการออกกำลังกายและกีฬาเพื่อมวลชนให้เป็นวิถีชีวิต ตามแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ 7 (2566-2570) ประเด็นการพัฒนาที่ 2 การส่งเสริมและพัฒนาการออกกำลังกายและกีฬา เพื่อมวลชนให้เป็นวิถีชีวิต


นายธวัชชัยกล่าวอีกว่า เพื่อให้การดำเนินการขับเคลื่อนการส่งเสริมและพัฒนาการออกกำลังกายและกีฬาเพื่อมวลชนให้เป็นวิถีชีวิต เป็นไปด้วยความเรียบร้อย บรรลุตามวัตถุประสงค์ จ.กาฬสินธุ์ โดยสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย จ.กาฬสินธุ์ จึงได้แต่งตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนการส่งเสริมและพัฒนาการออกกำลังกายและกีฬาเพื่อมวลชนให้เป็นวิถีชีวิต ประกอบด้วย รอง ผวจ.กาฬสินธุ์, ปลัด จ.กาฬสินธุ์, ผบจ.ภ.จว.กาฬสินธุ์, นายอำเภอทุกอำเภอ ท่องเที่ยวและกีฬา, ส่วนราชการ, ด้านการศึกษา, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้องรวม 23 หน่วยงานเป็นคณะทำงาน


“ทั้งนี้ เพื่อขับเคลื่อนการส่งเสริมและพัฒนาการออกกำลังกายและกีฬาฯ ให้เป็นไปตามแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ, จัดทำแผนส่งเสริมและพัฒนาการออกกำลังกายและกีฬาฯ ช่วงปี 2566-2570, จัดทำแผนปฏิบัติการประจำปีฯ, ขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการประจำปีฯ, บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และภาคีเครือข่ายด้านกีฬาทั้งภาครัฐ ภาควิชาการ ภาคเอกชน ฯลฯ ตลอดจนกำกับ ติดตามการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้เป็นไปตามแผน และรายงานผลการขับเคลื่อนการดำเนินการตามแผนส่งเสริม และพัฒนาการออกกำลังกายและกีฬาเพื่อมวลชนให้เป็นวิถีชีวิต ให้คณะกรรมการกีฬาจังหวัดทราบต่อไป” นายธวัชชัยกล่าว
ด้านนายพิพัฒน์ วิชัยรัมย์ ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า

เพื่อให้การดำเนินการขับเคลื่อนการส่งเสริมและพัฒนาการออกกำลังกายและกีฬาเพื่อมวลชนให้เป็นวิถีชีวิต เป็นไปด้วยความเรียบร้อย บรรลุตามวัตถุประสงค์ดังกล่าว กกท.จ.กาฬสินธุ์ จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการกีฬา จ.กาฬสินธุ์ขึ้นมาชุดใหม่ แทนชุดเดิมที่หมดวาระ ประกอบด้วยบุคลากรจากหน่วยงานและวงการกีฬา จำนวน 20 คน อาทิ ผวจ.กาฬสินธุ์ เป็นประธานกรรมการ รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ เป็นรองประธานกรรมการ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด, ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด, นายกสมาคมกีฬาฯ, นายก อบจ.กาฬสินธุ์, อธิการบดีมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์, ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษา, นายกเทศมนตรีเมืองกาฬสินธุ์, ภาคเอกชน เช่น นายยุทธนา เกียรติดำเนินงาม นายกสมาคมนักข่าวกาฬสินธุ์ ข้าราชการบำนาญ เช่น พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ และนายชาญยุทธ โคตะนนท์ เป็นกรรมการ


นายพิพัฒน์กล่าวอีกว่า คณะกรรมการกีฬา จ.กาฬสินธุ์ ดังกล่าวมีหน้าที่เสนอนโยบาย แผนงาน และโครงการส่งเสริมกีฬาภายในจังหวัด ต่อคณะกรรมการฯ, ให้ความร่วมมือ ช่วยเหลือ สนับสนุนการกีฬาแห่งประเทศไทย สมาคมกีฬาและหน่วยงานกีฬาที่เกี่ยวข้อง ในการแข่งขันกีฬาและดำเนินกิจกรรมกีฬาของจังหวัด, ออกข้อบังคับว่าด้วยการประชุมและดำเนินการตามอำนาจหน้าที่, ปฏิบัติงานอื่นตามที่คณะกรรมการมอบหมาย เพื่อขับเคลื่อนการส่งเสริมและพัฒนาการออกกำลังกายและกีฬา เพื่อมวลชนให้เป็นวิถีชีวิต ตามแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ทั้งนี้ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนและผลักดันการกีฬาของ จ.กาฬสินธุ์ให้โดดเด่นกว่าที่ผ่านมา


อย่างไรก็ตาม สำหรับแผนงานคณะกรรมการกีฬา จ.กาฬสินธุ์ประจำปี 2567 มีทั้งหมด 8 รายการ ประกอบด้วยส่งนักกีฬาร่วมแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ รอบคัดเลือก (10-20 ธ.ค.66) ที่ จ.สุรินทร์, จัดกิจกรรมวันกีฬาแห่งชาติ (27 ธ.ค.66) ที่สนามกีฬากลาง จ.กาฬสินธุ์, ส่งนักกีฬาร่วมแข่งขันกีฬาอาวุโสแห่งชาติ (12-18 ม.ค.67) ที่ จ.สุรินทร์, ส่งนักกีฬาร่วมแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ (21-31 มี.ค.67) ที่ จ.ราชบุรี, ส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันกีฬาอาวุโสแห่งชาติ (19-26 เม.ย.67) ที่ จ.ราชบุรี, จดทะเบียนสมาคมกีฬา, ควบคุมกีฬามวย ให้เป็นไปตาม พรบ.กีฬามวย พ.ศ.2542 และการแข่งขันชกมวยไทยรากหญ้าสู่สากล