ม่วนอีหลี เซิ้งกลองยาวต้อนรับ ครม. สัญจร “หนองบัวลำภูโมเดล” นายก “เศรษฐา” ลั่นอุ้มภาคเกษตร-เกษตรกร หนุนผ้าไทยสู่เวทีโลก

ม่วนอีหลี เซิ้งกลองยาวต้อนรับ ครม. สัญจร “หนองบัวลำภูโมเดล” นายก “เศรษฐา” ลั่นอุ้มภาคเกษตร-เกษตรกร หนุนผ้าไทยสู่เวทีโลก

 


บรรยากาศต้อนรับ ครม.สัญจรหนองบัวลำภูโมเดล 3 ก. แก้จน แก้ยาเสพติด แก้สารเคมี จุดสุดท้ายที่ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู เต็มไปด้วยสีสัน และความสนุกสนาน คึกคัก โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.กระทรวงการคลัง พร้อมด้วย “อุ๋งอิ๋ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ร.อ.ธรรมนัส พงษ์เผ่า รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายไชยา พรหมา รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ นั่งรถซาเล้งเข้าภายในบริเวณจัดงาน ท่ามกลางการต้อนรับอย่างอบอุ่น ของกลุ่มพ่อบ้าน แม่บ้าน ที่จัดริ้วขบวนเซิ้งกลองยาวแบบอีสานมื่นซื่นโฮแซวต้อนรับ บรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่นและชื่นมื่นตามแบบฉบับวิถีคนอีสาน


วันที่ 4 ธันวาคม 2566 เวลา 14.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดสว่างชัยศรี ต.ยางหล่อ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.กระทรวงการคลัง พร้อมด้วย “อุ๋งอิ๋ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ร.อ.ธรรมน้ส พงษ์เผ่า รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายไชยา พรหมา รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมทั้งรัฐมนตรีหลายกระทรวง และคณะ ได้เดินทางด้วยรถซาเล้งเข้ามาในบริเวณจุดต้อนรับ
จากนั้นเดินทักทาย ถ่ายเซลฟี่กับชาวบ้านกว่า 5,000 คน และส่วนราชการ ที่มารอต้อนรับและจัดบูธแสดงผลงานเป็นจำนวนมาก


โดยจุดต้อนรับ ครม.สัญจร วัดสว่างชัยศรี เป็นจุดสุดท้ายที่นายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางเยี่ยมชม และพบปะประชาชน ตามภารกิจติดตามผลการปฏิบัติราชการ ครม.สัญจร ครั้งที่ 1 หนองบัวลำภูโมเดล 3 ก. แก้จน แก้ยาเสพติด และแก้สารเคมี ระหว่างวันที่ 3-4 ธ.ค.66 ซึ่งจุดต้อนรับแห่งนี้ เป็นวันที่สองและเป็นจุดสุดท้าย


สำหรับภารกิจในวันนี้ เริ่มจากเวลา 09.00 น.ประชุม ครม.สัญจร ที่โรงแรมณัฐพงษ์ แกรนด์ อ.เมืองหนองบัวลำภู จากนั้น เวลา 13.00 น. เดินทางไปแปลงผักเกษตรผสมผสาน ต.ยางหล่อ อ.ศรีบุญเรือง ชมการทำเกษตรผสมผสานแบบพื้นบ้าน ต่อมาเดินทางมาที่วัดสว่างชัยศรี เยี่ยมชมตลาดชุมชน ยลวิถีชาวบ้าน รับฟังแนวทางการขับเคลื่อนเพื่อลดการใช้สารเคมีในพื้นที่แนวทางการแก้จนภาคการเกษตร การขับเคลื่อนเกษตรแปลงใหญ่ young smart famer,


รับฟังแนวทางการยกระดับและเพิ่มประสิทธิภาพกลุ่มแปรรูป โดยกรมประมง และประธานกลุ่มแปรรูปปลาบ้านห้วยบง ตรา ๑ เดียว, ชมการจักสานจากคล้าของผู้สูงอายุ, รับฟังแนวทางการยกระดับและผลักดัน ผ้าขิดสลับหมี่ ลายบัวลุ่มภู ผ้าฝ้ายแกมไหมทอมือลายอัตลักษณ์ประจำจังหวัด เป็น “Soft power” ตามนโยบายรัฐบาล

โดยกรมหม่อนไหม, มอบ สปก. 4-01 จำนวน 100 ราย โดยสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (สปก.) จากนั้นมอบนโยบายการแก้จน แนวทางการพัฒนาด้านการเกษตรและพบปะประชาชน เสร็จสิ้นภารกิจการตรวจราชการ “ครม.สัญจร ครั้งที่ 1” เวลา 15.30 น. ทั้งนี้ บรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่น โดยชาวบ้านขอส่งเสียงร้องต้อนรับนายกเศรษฐาๆ และอุ๊งอิ๊งๆ ด้วยความยินดีเป็นระยะ พร้อมเข้าสวมกอด และขอเซลฟี่ด้วย


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมภาคการเกษตร และเกษตรกรทุกมิคิ เช่น สร้างเกษตรอัจฉริยะ ยกระดับผ้าไทย ให้เป็นซอฟพาวเวอร์ สนับสนุนเป็นให้เป็นสินค้าทันสมัย ยกระดับผ้าไทยสู่เวทีโลก
“นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีนโยบายส่งเสริมเกษตรแปลงใหญ่ ลดทุนการผลิต ให้กลุ่มผู้ผลิต เกษตรกร มีอำนาจต่อรองราคา แก้ไขปัญหาขายผลผบิตไม่เป็นธรรม ส่งเสริมสมาร์ทฟาร์มเมอร์ให้มีคุณภาพ ยกระดับมาตรฐานสินค้าเกษตร ลดการใช้สารเคมี เพื่อลดต้นทุนและความปลอดภัยให้กับเกษตรกรและผู้บริโภค รวมถึงในส่วนของการแปรรูปและการตลาดด้วย” นายเศรษฐากล่าวในที่สุด


อย่างไรก็ตาม สำหรับสรุปมติ ครม. ที่ชาวจ.หนองบัวลำภูจะได้รับ จากการจัดประชุม ครม .ครั้งนี้ มี 2 ประเด็นคือ 1. ภาคการท่องเที่ยว โดยรัฐบาลเตรียมสนับสนุนงบประมาณ กว่า 100 ล้านบาท สร้างสกายวอล์ก บริเวณภูแอ่น อุทยานแห่งชาติภูเก้าภูพานคำ อ.โนนสังข์ จังหวัดหนองบัวลำภู เพื่อเป็นจุดดึงดูดนักเที่ยวให้มาเที่ยวที่จ.หนองบัวลำภู ซึ่งปัจจุบัน มีสกายวอล์ก พร้อมเพิ่มเส้นทางคมนาคม เชื่อมต่อ 5 จังหวัดอีสานตอนบน เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางและการขนส่ง นอกจากนี้ ยังสนับสนุน ผ้าทอพื้นเมือง ทั้งผ้าฝ้ายและผ้าไหม โดยเพิ่มศูนย์การเรียนรู้ วิชาลัยทอผ้า 4แห่ง จากเดิมที่มีอยู่แล้ว 3 แห่ง รวม เป็น 7 แห่ง เป็นการรักษามรดกทางวัฒนธรรมและสร้างรายได้ในกับคนในชุมชน


และ 2 ด้านการเกษตร เตรียมแก้ไขปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเตรียมจัดสรรงบประมาณ ขุดลอกลำพะเนียง และสร้างฝายกั้นน้ำ กว่า 90 ฝาย
พร้อมเตรียมเปลี่ยนที่ดิน สปก. 4.1 เป็นโฉนดที่ดินเพื่อการเกษตร จำนวน 9 แสน 5 หมื่นไร่ ดีเดย์ 15 ธันวาคมนี้ ซึ่ง เกษตรกร สามารถซื้อขายได้
สำหรับการแก้ปัญหายาเสพติด เตรียมอบรมเพิ่มประสิทธิภาพ ของ ชรบ.หมู่บ้าน จากเดิม 3,800 คน ให้มีครบทุกหมู่บ้าน เพื่อป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในชุมชนอย่างยั่งยืน