สุโขทัย-ลอยกระทงความทรงจำล้ำค่าแห่งสุโขทัย ความงดงามและความสำคัญของเมืองโบราณสุโขทัย แหล่งมรดกโลก เป็นมนต์เสน่ห์แห่งเมืองสุโขทัยนี้อย่างไม่เคยขาดสาย

สุโขทัย-ลอยกระทงความทรงจำล้ำค่าแห่งสุโขทัย ความงดงามและความสำคัญของเมืองโบราณสุโขทัย แหล่งมรดกโลก เป็นมนต์เสน่ห์แห่งเมืองสุโขทัยนี้อย่างไม่เคยขาดสาย

 

หนึ่งปีหนึ่งครั้งที่เมืองโบราณเลิศลำค่าของสุโขทัย จะออกมาเผยความทรงจำที่ล้ำค่าเพื่อบ่งบอกความเป็นมาในประเพณีของคนทั้งโลก ประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย ที่สืบทอดความเป็นมาต่อเนื่องกันมายาวนานจากอดีตถึงปัจจุบัน และเป็นสากลเป็นทางการที่บ่งบอกไปถึงคนทั่วโลก ว่าสุโขทัยคือเจ้าตำหรับงานลอยกระทง กิจกรรมที่โดดเด่น การแสดงแสงเสียง และแสงพลุไฟ บอกเล่าประวัติศาสตร์ของเมือง และตำนานกำเนิดประเพณีลอยกระทง กลายเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ได้รับความนิยมสูงสุดในการจัดกิจกรรมของความเป็นมาเผยแพร่ สู่สายตาผู้ชม ด้วยการแสดงสด แบบบทจินตภาพเรื่องเล่า ตามความเป็นมา ณ สถานที่จริงที่เคยมีมาในอดีต

และเรียกความประทับใจในการชม สามารถบันทึกภาพความประทับใจไว้ได้ในช่วงการแสดง ในสถานที่จริง ที่เกิดเรื่องราวในอดีตและการเล่าขานตามตำนาน ความงดงามมาพร้อมกับมิติในความมืดมีเพียงดาวระยิบเต็มท้องฟ้า บรรจงความเข้มขลังด้วยท้องฟ้าในยามมืดมิด พร้อมเปิดความสว่างบนผืนฟ้าสุกปะกายแสงจ้าของแสงไฟพาร์ขนาดใหญ่ ไฟแฟลซพร้อมเสียงซาวด์ ดอกไม้เพลิง ดอกไม้ไฟนานาชนิด ที่จุดขึ้นด้วยความสว่างด้วยมนเสน่ห์สีสันนาๆปกคลุมทั่วท้องฟ้า ปกคลุมไปทั่วเมืองโบราณสุโขทัย ทั้งตะไล ไฟพะเนียง รวมถึงลูกไฟที่ทันสมัยเข้ามาผสมผสานกันอย่างลงตัวสวยสดงดงาม สะกดสายตาผู้ชมจนทึ่งในความงามชั่วขณะ พร้อมรอยยิ้มที่อิ่มสุขใจและประทับใจที่ได้มาสัมพัส

โดยในปีนี้กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-27 พฤศจิกายน 2566 ณ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย โดยนายสุชาติ ทีคะสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ร่วมกับทุกภาคส่วนจัดงานต้อนรับนักท่องเที่ยว งานประเพณีลอยกระทงเผาเทียนเล่นไฟ จ.สุโขทัย ประจำปี 2566 เป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคส่วนท้องถิ่น และเอกชนตลอดจนพี่น้องชาว จ.สุโขทัย ที่ต้องการสืบสาน อนุรักษ์ วัฒนธรรมประเพณีลอยกระทง ซึ่งมีมาแต่ครั้งกรุงสุโขทัยเป็นราชธานีให้คงอยู่สืบไป เป็นดินแดนต้นกำเนิดของงานประเพณีลอยกระทง ตามหลักศิลาจารึกหลักที่ 1 ของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช

นอกจากนี้นายสุชาติ ทีคะสุข ผู้ว่าราชการจังหวัด ตั้งเป้าการจัดงานฯเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจนำรายได้สู่ชุมชนและส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวให้ฟื้นตัวคืนมาโดยเร็วอีกด้วย และนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ทางจังหวัดได้รับพระราชทานพระประทีป 11 พระองค์ มาร่วมลอยเป็นปฐมฤกษ์ในคืนวันเพ็ญ วันที่ 27 พฤศจิกายน ซึ่งตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ณ ตระพังตาล ภายในงานจะมีพิธีรับรุ่งอรุณแห่งความสุข ณ สะพานบุญ วัดตระพังทอง, พิธีบวงสรวงบุรพกษัตริย์สุโขทัยทุกพระองค์ ณ บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช, ชมขบวนแห่ การประกวดกระทงเล็ก โคมชักโคมแขวน พนมหมาก พนมดอกไม้, ลานเทศน์ ลานธรรม (เทศน์มหาชาติ)

การประประกวดนางนพมาศ ณ โรงละครกลางแจ้ง , การแสดง Light and Sound, ข้าวขวัญวันเล่นไฟ ณ วัดหมาธาตุ การแสดงโขนซึ่งเป็นมหรสพหลวง ณ วัดสระศรี, วิถีชีวิตคนไทย ณ วัดชนะสงคราม พิธีเผาเทียน การแสดงพลุ ตะไล ไฟพะเนียง บริเวณสระน้ำวัดสระศรี(ตระพังตระกวน) ตลาดโบราณสมัยกรุงสุโขทัย โดยเฉพาะการจำลองตลาดแลกเบี้ยสุโขทัยที่ย้อนไปสู่อดีตของสุโขทัย จับจ่ายซื้อขายกันด้วยเบี้ยแทนเงินตรา ให้นักท่องเที่ยวได้รับอรรถรสสะเหมือนกลับไปสู่อดีต บริเวณข้างสระยายเพิ้ง ขบวนแห่ประเพณีวัฒนธรรม 9 อำเภอ และขบวนของภาคเอกชน เป็นขบวนแห่นางนพมาศ กระทงใหญ่ และขบวนขององค์กรส่วนท้องถิ่น และในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 เป็นขบวนอันเชิญไฟพระฤกษ์และพระประทีปพระราชทานให้นักท่องเที่ยวและประชาชนทุกหมู่เหล่าได้ชื่นชมและเทิดพระเกียรติฯ

จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาเยือนจังหวัดสุโขทัย เที่ยวงานประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย ประจำปี 2566 “ประเพณีลอยกระทงนั้นไม่มีหลักฐานระบุแน่ชัดว่าเริ่มตั้งแต่เมื่อใดแต่เชื่อว่าประเพณีลอยกระทงนี้ได้สืบต่อกันมายาวนานตั้งแต่สมัยสุโขทัยโดยในรัชสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช เรียกประเพณีลอยกระทงนี้ว่า “พิธีจองเปรียง” หรือ “การลอยพระประทีป” และมีหลักฐานจากศิลาจารึกหลักที่ 1 กล่าถึงงานเผาเทียนเล่นไฟว่าเป็นงานรื่นเริงที่ใหญ่ที่สุดของกรุงสุโขทัยทำให้เชื่อกันว่างานดังกล่าวน่าจะเป็นงานลอยกระทงอย่างแน่นอน ประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย

จัดขึ้นอย่างเป็นทางการอีกครั้งตั้งแต่ปี พ.ศ.2520 เพื่อเป็นการฟื้นฟูประวัติศาสตร์ประเพณีลอยกระทงที่มายาวนานครั้งอดีตกรุงสุโขทัยและคนสุโขทัยในอดีต และเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยใช้ชื่องานตามคำในหลักศิลาจารึก “งานเผาเทียนเล่นไฟ” โดยกำหนดจัดขึ้นทุกปีในวันเพ็ญเดือน 12 (ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12) หรือประมาณเดือนพฤศจิกายนของทุกปี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุโขทัย
0-5561-2286หรือ www.sukhothai.go.th ,www.facebook.com/prsukhothai