อำเภอกมลไสยร่วมกับกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดกาฬสินธุ์เร่งสำรวจสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ พร้อมมอบถุงยังชีพช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง และเขื่อนลำปาวระบายน้ำ ส่งผลให้มวลน้ำล้นตลิ่งท่วมอาคารบ้านเรือน พื้นที่การเกษตร การประมง บ่อกุ้ง บ่อปลาพื้นที่ด้านล่าง

วันที่ 11 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเตชิต ทรงบุญศาสตร์ นายอำเภอกมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กรรมการเหล่ากาชาด สำรวจสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ อ.กมลาไสย โดยมีผู้บริหารท้องถิ่น ท้องที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รายงานสถานการณ์ จากนั้นร่วมกันมอบถุงยังชีพ เครื่องอุปโภค บริโภค บรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนผู้ประสบภัย

นายเตชิต ทรงบุญศาสตร์ นายอำเภอกมลาไสย กล่าวว่า สถานการณ์อุทุกภัยในพื้นที่ อ.กมลาไสย เริ่มมาตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน โดยจากการระบายน้ำของเขื่อนลำปาว ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำลำปาวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเอ่อล้นตลิ่ง เข้าท่วมที่พักอาศัยชุมชนริมแม่น้ำปาว พื้นที่การเกษตร บ่อกุ้ง บ่อปลา คอกสัตว์ ได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง ทั้งนี้ จากการสำรวจ พื้นที่ อ.กมลาไสยมี 8 ตำบล ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วม 6 ตำบล หมู่บ้าน ที่พักอาศัยกว่า 100 หลังคาเรือน พื้นที่การเกษตร 2 หมื่นไร่ บ่อกุ้ง บ่อปลา 222 ไร่

นายเตชิต กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังเกิดสถานการณ์น้ำท่วม ทางอำเภอกมลาไสยได้ร่วมกับทุกภาคส่วน ทั้งป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เหล่ากาชาด สาธารณสุข ผู้บริหารท้องถิ่น ท้องที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทำการสำรวจผลกระทบ ความเสียหาย ให้ความช่วยเหลือทุกด้าน เช่น ขนย้ายสิ่งของขึ้นสู่ที่สูง มอบถุงยังชีพ เครื่องอุปโภคบริโภค ตามนโยบายนายสนั่น พงษ์อักษร ผวจ.กาฬสินธุ์ ที่ว่าคนกาฬสินธุ์ ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ซึ่งคนกมลาไสยก็ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังเช่นกัน นอกจากนี้ยังได้มีการตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย และตรวจตราสถานการณ์น้ำและความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง