กาฬสินธุ์หลายหน่วยงานแห่ให้กำลังใจครอบครัวแรงงานไทยเสียชีวิตในอิสราเอลล้นหลาม

ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ และเหล่ากาชาดจังหวัดกาฬสินธุ์ สาธารณสุขจังหวัด พร้อมด้วยส่วนราชการ ภาคประชาชน มอบเงินสด และเครื่องอุปโภค บริโภค ช่วยเหลือให้กำลังใจครอบครัว “พันธ์สะอาด” สูญเสียนายเคนหรือสมควร ลูกชายวัย 39 ปี ถูกยิงเสียชีวิตที่ประเทศอิสราเอล พร้อมตั้งศูนย์ช่วยเหลือครอบครัวแรงงานไทย ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สู้รบ เพื่อหาแนวทางเยียวยาต่อไป

 


วันที่ 10 ตุลาคม 2566 ที่บ้านเลขที่ 127 หมู่ 3 บ้านหนองแวงใต้ 3 ต.ขมิ้น อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ นายสนั่น พงษ์อักษร ผวจ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วย นพ.พรพัฒน์ ภูนากลม รองนายแพทย์สาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ และเหล่ากาชาด จ.กาฬสินธุ์ นำเงินสด เครื่องอุปโภค บริโภค มอบให้นายกระบวน-นางหนูพา พันธ์สะอาด บิดา-มารดา นายสมควร พันธ์สะอาด หรือเคน แรงงานไทยที่เสียชีวิตจากการถูกยิง ในเหตุการณ์สู้รบที่ประเทศอิสราเอล หลังจากที่วานนี้ (9 ต.ค.) หน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน ประกอบด้วย จัดหางานจังหวัด แรงงานจังหวัด ประกันสังคมจังหวัด สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัด และพัฒนาสังคมและความมั่นของของมนุษย์จังหวัด รวมทั้งฝ่ายปกครอง ท้องถิ่น ท้องที่ ลงพื้นที่ให้กำลังใจและมอบสิ่งของ พร้อมให้คำปรึกษาหาแนวทางช่วยเหลือ เพื่อนำศพผู้เสียชีวิต กลับมาบำเพ็ญกุศลตามประเพณี รวมทั้งสิทธิประโยชน์อื่นๆที่พึงจะได้รับตามกฎหมายต่อไป


นายสนั่น พงษ์อักษร ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังได้ทราบเรื่อง ทางจังหวัดไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มอบหมายหน่วยงายที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น พบว่ามีแรงงานชาว จ.กาฬสินธุ์ เดินทางไปทำงานในประเทศอิสราเอล ซึ่งไปถูกต้องตามกฎหมายกระทรวงแรงงาน ประมาณ 230 ราย เพศชาย 226 คน เพศหญิง 4 คน โดยเป็นแรงงานจาก อ.เมืองกาฬสินธุ์ 22 คน เสียชีวิต จำนวน 1 ราย ชื่อนายสมควร พันธ์สะอาด อายุ 39 ปี ส่วนแรงงานอำเภออื่นๆประกอบด้วย ยางตลาด 30 คน หนองกุงศรี 22 คน คำม่วง 19 คน เขาวง 19 คน นาคู 17 คน กุฉินารายณ์ 14 คน ท่าคันโท 14 คน สหัสขันธ์ 12 คน สมเด็จ 12 คน ห้วยเม็ก 10 คน ฆ้องชัย 9 คน กมลาไสย 8 คน ห้วยผึ้ง 7 คน นามน 6 คน สามชัย 4 คน ดอนจาน 3 คน และร่องคำ 2 คน ซึ่งทั้งหมดยังไม่ทราบว่าปลอดภัยดีหรือมีใครได้รับบาดเจ็บหรือไม่ หรือแจ้งความประสงค์ขอเดินทางกลับกี่ราย เนื่องจากอยู่ระหว่างการตรวจสอบ


นายสนั่นกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังมีแนวทางช่วยเหลือครอบครัวแรงงานไทยที่ได้รับผลกระทบ จากการสู้รบในประเทศอิสราเอล ทั้งในส่วนการเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต หรือในส่วนหนี้สินเงินกู้ เนื่องจากมีเหตุจำเป็นต้องกลับภูมิลำเนาก่อนหมดสัญญาจ้างแรงงาน อันเนื่องจากเหตุการณ์ไม่สงบดังกล่าว โดยจะมีการประชุมหารือทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งในส่วนของการปรับโครงสร้างหนี้ การสร้างงาน หาอาชีพรองรับ ซึ่งจะได้ดำเนินการในลำดับต่อไป เพื่อไม่ให้ภาระหนี้สิน มีงานทำ และมีรายได้เลี้ยงครอบครัว


ด้านนายเสมือน ศรีพอ ผู้ช่วยแรงงาน จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า เนื่องจากเขตที่มีการสู้รบกัน และมีแรงงานไทยทำงานอยู่ ซึ่งอยู่ตอนใต้ของประเทศอิสราเอล ยังเป็นพื้นที่สีแดง สถานการณ์ยังไม่สงบ การตรวจเช็คข้อมูลวันนี้ ยังไม่สามารถยืนยันร้อยเปอร์เซ็นต์ ทั้งในส่วนผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บหรือถูกจับเป็นตัวประกัน จึงยังไม่ชัดเจน แนวทางการให้ความช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นการนำตัวส่งกลับประเทศ จึงอาจจะล่าช้าไปบ้าง ทั้งนี้ทางส่วนราชการสังกัดกระทรวงแรงงานใน จ.กาฬสินธุ์ ก็ได้มีการประสานกับกระทรวงการต่างประเทศและสถานกงสุลไทยประเทศอิสราเอลอย่างใกล้ชิด เพื่อร่างของผู้เสียชีวิตและนำแรงงานคนไทยกลับคืนประเทศอย่างปลอดภัยและเร็วที่สุด