เมืองต้นแบบที่ 4 จะนะ เดินหน้าต่อ ฝ่ายหนุนเตรียมยื่นหนังสือถึง”เศรษฐา” เพื่อให้เร่งผลักดัน

เมืองต้นแบบที่ 4 จะนะ เดินหน้าต่อ ฝ่ายหนุนเตรียมยื่นหนังสือถึง”เศรษฐา” เพื่อให้เร่งผลักดัน

 

รายงานข่าวจากแหล่งข่าวฝ่ายงานมวลชนในพื้นที่ อ.จะนะ จ.สงขลา ซึ่งรับผิดชอบงานด้านทำความเข้าใจกับมวลชนในพื้นที่ อ.จะนะ จ.สงขลา ของบริษัททีพีไอ โพลีน พาวเวอร์ จำกัด ( มหาชน ) เจ้าของโครงการ”นิคมอุตสาหกรรมจะนะ” ซึ่งเป็นโครงการ”อุตสาหกรรมสีเขียว” ที่เกี่ยวกับ พลังงานสะอาด และ อุตสาหกรรมที่มามีผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งท่าเรือน้ำลึก ขนาดใหญ่ 2 ท่าด้วยกัน เพื่อเป็น เกตเวย์ ที่ 3 ของประเทศไทยในการส่งออก สำหรับโครงการนี้ ผลักดัน โดย ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ( ศอ.บต. ) และเห็นชอบโดย รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา


สำหรับความคืบหน้าของโครงการ ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการจัดทำแผนแม่แบบ โดยการประชุมชี้แจ้งทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ ถึงรายละเอียดของโครงการดังกล่าว ซึ่งก่อนหน้านี้ ศอ.บต. ได้ดำเนินการ รับฟังความคิดเห็นของคนในพื้นที่ ซึ่งมีส่วนได้ส่วนเสียไปแล้ว แต่ถูก ต่อต้านโดย เอ็นจีโอ ว่าเป็นการรับฟังความคิดเห็นที่ไม่สมบูรณ์ และ รัฐบาล ได้สั่งการให้ สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ จัดทำแผนแม่บทรับฟังความคิดเห็นของประชาชนอีกครั้ง รวมทั้งในเรื่องกฎหมายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ซึ่ง สภาพัฒน์ฯ ได้มีการประชุมรับฟังความคิดเห็นไปแล้ว 4 ครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่เห็นว่า สงขลาเป็นเมืองที่เติบโตด้าน อุตสาหกรรม เป็นด้านหลัก ส่วนเรื่องการท่องเที่ยว และอื่นๆ เป็นเรื่องที่รองลงมา โดยการจัดทำแผนแม่แบบจะใช้เวลาถึงปี 67 เพื่อที่จะสรุปนำโดยสภาพัฒน์ฯ ในการนำเสนอให้รัฐบาลทราบ


นายยงยุทธ ละอองจิต ผู้รับผิดชอบงานการสร้างความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ของ บริษัท ทีพีไอฯ กล่าวว่า ขณะนี้มวลชนผู้สนับสนุนให้มีการขับเคลื่อน โครงการ “เมืองต้นแบบที่ 4 “ หรือ “โครงการ อุตสาหกรรมจะนะ” ได้ทำเอกสาร ที่เป็นความคิดเห็น และความต้องการของ ประชาชนส่วนใหญ่กว่าร้อยละแปดสิบในพื้นที่เห็นด้วยกับโครงการของ”เมืองต้นแบบที่ 4 “โดยจะนำตัวแทนของประชาชนทุกสาขาอาชีพเข้าพบกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้มีการ เร่งรัด ในการ ขับเคลื่อนโครงการดังกล่าว ก่อนที่กลุ่มทุนจากต่างประเทศจะถอนออกไปเพราะความล่าช้าของรัฐบาล เพราะผ่านไปแล้ว 3 ปี ที่การขับเคลื่อนเป็นไปด้วยความล่าช้า


โครงการนี้ เป็นโครงการใหญ่ ที่จะพลิกฟื้นเศรษฐกิจของจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เป็นประโยชน์กับประเทศชาติและคนในพื้นที่ ซึ่งมีภาวะการณ์ว่างงาน ทั้งคนในพื้นที่และนักศึกษาที่จบออกมาและยังไม่มีงานทำ ก่อนหน้านี้ ศอ.บต. ได้ร่วมกับ สถาบันอุดมศึกษาในจังหวัดสงขลา ประชุมจัดทำแผนการผลิตนักศึกษาของแต่ละสถาบัน เพื่อให้มีการผลิตนักศึกษาที่ตรงกับสายงานของ นิคมอุตสาหกรรม ที่จะเกิดขึ้น เพื่อเป็นการรองรับนักศึกษาที่จบใหม่ ซึ่งน่าเสียดายที่โครงการนี้มีความล่าช้า เพราะการคิดค้านของ เอ็นจีโอ จนทำให้จังหวัดชายแดนภาคใต้เสียโอกาสในการพัฒนา ที่ ศอ.บต. มีการตั้งเป้าเอาไว้ ซึ่งเราหวังว่า พรรคเพื่อไทย จะเข้าใจและเห็นถึงประโยชน์ของการแก้ปัญหาการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยการเร่งผลักดันโครงการนี้ให้รวดเร็วกว่าแผนเดิม

นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา