กาฬสินธุ์เนรมิตเรือนจำเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งความหวัง

จังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมกับเรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์เปิดประตูเรือนจำชั่วคราวโคกคำม่วง เป็นแหล่งท่องเที่ยว Cook & Coff @ เรือนจำชั่วคราวโคกคำม่วง เพิ่มจุดเช็คอินแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ ด้วยของดีที่ลากหลายในโครงการโคกหนองนาแห่งความหวังกว่า 300 ไร่ และสร้างงานสร้างอาชีพให้กับผู้ต้องขังชั้นดี ก่อนออกสู่สังคมและดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข เชิญชวนนักท่องเที่ยวปักหมุด ส่งเสริมการท่องเที่ยวตามหลัก 3 รวย 3 ใจ


วันที่ 25 พฤษภาคม 2566 ที่บริเวณเรือนจำชั่วคราวโคกคำม่วง ต.นาจารย์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผวจ.กาฬสินธุ์ เป็นประธานเปิดเรือนจำท่องเที่ยว Cook & Coff @ เรือนจำชั่วคราวโคกคำม่วง โดยมี ดร.จิรวุฒิ ปุญญาสวัสดิ์ ผู้บัญชาการเรือนจำ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นักท่องเที่ยว ร่วมงานเป็นจำนวนมาก


ดร.จิรวุฒิ ปุญญาสวัสดิ์ ผู้บัญชาการเรือนจำ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่าเรือนจำ จ.กาฬสินธุ์ ได้น้อมนำพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ดำเนินโครงการพระราชทาน “โคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง กรมราชทัณฑ์” หลักเกษตรทฤษฎีใหม่แบบชาวบ้าน โดยมีการจัดฝึกอบรมเตรียมความพร้อมก่อนปล่อย ให้แก่ผู้ต้องขังในพื้นที่ของเรือนจำชั่วคราวโคกคำม่วง มุ่งเน้นการปรับเปลี่ยนพื้นฐานความคิด การฝึกวินัย การลงมือปฏิบัติ เพื่อให้ผู้ต้องขังสามารถพึ่งพาตนเอง และช่วยเหลือผู้อื่นที่ได้รับความเดือดร้อนได้เมื่อพ้นโทษออกไปภายนอก สร้างความมั่นคงทางอาหาร และอาชีพ นำไปประยุกต์ใช้ในพื้นที่ ทำให้ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ มีคุณภาพชีวิตที่ดี นำไปสู่ชุมชนที่มั่นคงแข็งแรง และพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืนด้วยศาสตร์พระราชา


ดร.จิรวุฒิ กล่าวอีกว่า ประกอบกับกรมราชทัณฑ์ มีนโยบายขับเคลื่อนโครงการเรือนจำท่องเที่ยว รวมถึงประชาสัมพันธ์ให้เกิดการท่องเที่ยวที่สนับสนุนการบริการ สินค้าและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่มาจากผลงานการฝึกวิชาชีพผู้ต้องขัง จึงได้พัฒนาพื้นที่ของเรือนจำชั่วคราวโคกคำม่วง เป็นเรือนจำท่องเที่ยว ตามโครงการเรือนจำท่องเที่ยว Cook & Coff โดยการพลิกแผ่นดิน พื้นทราย ป่าไผ่ในพื้นที่แห้งแล้ง 300 ร้อยไร่ ด้วยสองมือและหัวใจของผู้กระทำผิดต่อสังคม สู่ศาสตร์ของพระราชาทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง เสริมสร้างศักยภาพผู้ต้องขังเพื่อการมีงานทำและสงเคราะห์ ให้มีอาชีพภายหลังพ้นโทษ และได้พัฒนาเป็นพื้นที่สำหรับเยี่ยมชมการทำ โคก หนอง นา โมเดล การท่องเที่ยวเชิงเกษตร ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ให้เป็นศูนย์ศึกษาดูงานของนักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป พัฒนาพื้นที่ของสถานที่ตรวจพิสูจน์หลักฐานเดิม สำหรับศึกษาดูงานการจำลองขั้นตอนการปฏิบัติงานของเรือนจำ และพัฒนาให้เป็นสวนอาหาร จำหน่ายเครื่องดื่มกาแฟ และผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่มาจากฝีมือผู้ต้องขัง และให้เป็นสถานที่แลนด์มาร์คแห่งการท่องเที่ยวของ จ.กาฬสินธุ์ ต่อไป


ด้านนายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผวจ.กาฬสินธุ์กล่าวว่า ตามที่เรือนจำ จ.กาฬสินธุ์ ได้น้อมนำพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดำเนินโครงการพระราชทาน “โคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง กรมราชทัณฑ์” เพื่อการเตรียมความพร้อมก่อนปล่อยให้แก่ผู้ต้องขัง ให้สามารถดำเนินชีวิตและประกอบสัมมาชีพเลี้ยงตัว ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง พึ่งพาตนเองได้ภายหลังพ้นโทษไม่หวนกระทำผิดซ้ำ และพัฒนาให้เรือนจำชั่วคราวโคกคำม่วงเป็นศูนย์ศึกษาดูงานของนักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป และพัฒนาให้เป็นแลนด์มาร์คแห่งการท่องเที่ยวของ จ.กาฬสินธุ์อีกแห่งหนึ่ง เป็นการสร้างการยอมรับจากสังคมและชุมชน เพื่อปกป้องและคุ้มครองสังคมให้ปลอดภัย นับว่าเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อผู้ต้องขังเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งจะทำให้ผู้ต้องขังได้มีความรู้ ทักษะและประสบการณ์ มีแนวทางในการประกอบอาชีพสุจริต สร้างงาน สร้างรายได้เลี้ยงตนเองและครอบครัวได้ภายหลังพ้นโทษ และเป็นการคืนคนดีสู่สังคมได้อย่างยั่งยืน


นายศุภศิษย์กล่าวอีกว่าการเปิดเรือนจำท่องเที่ยว Cook & Coff @ เรือนจำชั่วคราวโคกคำม่วง ถือเป็นการดำเนินการตามหลักการทำงาน 3 รวย 3 ใจ เพื่อให้เกิดแหล่งท่องเที่ยวและสิ่งดีๆใน จ.กาฬสินธุ์เพิ่มขึ้นอีก จึงขอเชิญชวนประชาชน นักท่องเที่ยว นักเรียน นักศึกษา มาร่วมกันปักหมุด เช็คอินและเที่ยวชม “เรือนจำท่องเที่ยว Cook & Coff @ เรือนจำชั่วคราวโคกคำม่วง” ตามโครงการพระราชทาน “โคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง กรมราชทัณฑ์” อย่างพร้อมเพรียงกัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ซึ่งเป็นการเที่ยวชมฟรี สนใจสอบถามที่หมายเลข 043-840061