https://youtu.be/lTXX-kpABic

เมื่อช่วงเช้า เวลา 09.30 น.วันที่ 25 เมษายน 2566  ณ.ห้องประชุมโรงแรมบ้านทะเลภูรีสอร์ทอําเภอคลองใหญ่ จ.ตราด  นายวิจิตร พาพลงาม นายอําเภอคลองใหญ่ เป็นประธานเปิดโครงการฝึกอบรมเชิงปฎิบัติการเพื่อศึกษาพื้นที่ความเสี่ยงแบบมีส่วนร่วมพื้นที่สาธิตภาคตะวันออกจังหวัดตราด โดยมี นายคมกฤษ พิณสาย หัวหน้าพื้นที่สาธิตภาคตะวันออกจังหวัดตราดชายแดนกล่าวรายงานพร้อมให้การบรรยายการดําเนินของโครงการและวัตถุประสงค์ วิธีการและเป้าหมายแนวทางในการลงสํารวจพื้นที่เสี่ยงต่อการลักลอบค้าสัตว์ป่าตามบริเวณแนวชายแดน พร้อมผู้เข้าร่วมทีมวิทยากรเขตรับผิดชอบตามแนวชายแดนภาคตะวันออกจังหวัดตราด

โดยมีนายณรงค์ฤทธิ์ ศุขปราการ นักวิชาการป่าไม้ชํานาญการพิเศษ ผู้อํานวยการส่วนด่านตรวจสัตว์ป่า กองคุ้มครองพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญา กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ให้คําบรรยายเกี่ยวกับกฎหมายสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 เป็นต้น ร.ต.อ.กิตติศักดิ์ มณีวงษ์ รอง ร้อย กองร้อยตํารวจตระเวนชายแดนที่ ๑๑๗ บรรยายการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านการทํางานร่วมกันแบบบูรณาการอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมี นาวาโทสุรชาติ รอดผล ผบ.ฉก.นย.182  เทศบาล อบต.สถานีตํารวจภูธรคลองใหญ่ ตรวจคนเข้าเมืองชายแดน พร้อม เรือโท วชิรนนท์ นันทะ และคณะหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินที่ 182

และหน่วยงานอื่นๆเข้าร่วมในโครงการฝึกอบรมเชิงปฎิบัติการเพื่อศึกษาพื้นที่ความเสี่ยงแบบมีส่วนร่วมพื้นที่สาธิตภาคตะวันออกจังหวัดตราดตามบริเวณแนวชายแดนระหว่างวันที่ 25-26 เมษายน 2566 ด้วยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพัมธุ์พืช ได้จัดโครงการฝึกอบรมเชิงปฎิบัติการ เพื่อศึกษาพื้นที่ความเสี่ยงแบบมีส่วนร่วมของพื้นที่สาธิตภาคตะวันออกจังหวัดตราดในพื้นที่ชายแดน เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจและเฝ้าระวังเกี่ยวกับการลักลอบ นําเข้า ส่งออก สัตว์ป่า และพืชป่าที่ผิดกฎหมายในพื้นที่เสี่ยงตามแนวชายแดน และจุดผ่านแดนในพื้นที่ เพื่อพัฒนาทักษะและเสริมสร้างประสบการณ์การทํางานร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติงานตามกฎหมายและราษฎรในพื้นที่ เพื่อให้เข้ารับการฝึกอบรมได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันระหว่างหน่วยงานภายในและหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้องโครงการในพื้นที่สาธิตภาคตะวันออกจังหวัดตราด จํานวน 25 หน่วยงาน 30 คน

เหตุผลในปัจจุบันปัญหาการค้าสัตว์ป่าทวีความรุนแรงมากขึ้นจนกลายเป็นอาชญากรรมข้ามชาติโดยเฉพาะในช่วง 5-10 ปีมานี้ ประเทศจีนซึ่งเป็นประเทศมหาอํานาจมีการเติบโตทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีความต้องการผลิตภัณฑ์จากสัตว์ป่าอย่างช้าง แรด ลิ่น และเสือ เพื่ออุปโภคและบริโภคสูงตามไปด้วย ส่งผลให้มีการล่าสัตว์ป่าในประเทศต่างๆและตลาดการค้าสัตว์ป่าข้ามชาติเติบโตสูงเป็นอันดับที่ 4 ในการจัดอันดับอาชญากรรมข้ามชาติมีเส้นทางการค้าถึง 67 ประเทศทั่วโลก ประกอบไปด้วย ประเทศต้นทาง ประเทศส่งผ่าน และประเทศปลายทาง ในส่วนของประเทศไทย แม้จะเป็นประเทศทางผ่านแต่ยังพบผู้ซื้อสัตว์ป่าและผลิตภัณฑ์จากสัตว์ป่าอยู่โดยเฉพาะการซื้อผ่านสื่อออนไลน์จากงานวิจัยเกี่ยวกับการลักลอบค้าสัตว์ป่าอย่างผิดกฎหมายทั่วโลก

หรือมีการลักลอบค้าสัตว์ป่าเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 50 จากที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ การค้าสัตว์ป่า รวมถึง เขาสัตว์ งาช้าง และสัตว์ป่าแปลกๆเป็นต้นเหตุอันดับหนึ่งที่ทําให้สัตว์ป่าสูญพันธุ์ การค้าสัตว์ป่าระหว่างประเทศโดยอาศัยประเทศไทยเป็นทางผ่านในการลักลอบขนส่งและค้าสัตว์ป่า มีเงินหมุนเวียนไม่ตํ่ากว่า 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้นประเทศไทยได้เห็นความสําคัญของปัญหาการลักลอบค้าสัตว์ป่าข้ามชาติดังกล่าว กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จึงได้จัดโครงการขึ้น มีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจและเฝ้าระวังเกี่ยวกับการลักลอบ นําเข้า ส่งออก สัตว์ป่า และพืชป่าที่ผิดกฎหมายในพื้นทีเสี่ยงตามแนวชายแดน ซึ่งกิจกรรมที่ดําเนินโครงการ 4 องค์ประการ

ได้แก่ การพัฒนาความร่วมมือ การประสานงาน และการแลกเปลี่ยนข่าวสาร การเสริมสมรรถนะของผู้บังคับใช้กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม การลดอุปสงค์ต่อสัตว์ป่าและผลิตภัณฑ์จากสัตว์ และการจัดการความรู้เพื่อพัฒนาทักษะและเสริมสร้างประสบการณ์การทํางานร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ปฎิบัติงานตามกฎหมายและราษฎรในพื้นที่ให้ถูกต้อง และเนื่องด้วยการฝึกอบรมได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์การทํางานของเจ้าหน้าที่ทั้งภายในและภายนอก ในที่นี้ได้มีการแบ่งกลุ่มกัน 3 กลุ่ม เพื่อเป็นการเรียนรู้การพัฒนาแต่ละกลุ่มแต่ละหน่วยงานที่เข้าร่วมออกความคิดเห็นในการแบ่งกลุ่มต่อไป

ภาพ/ข่าว วิเชียร ม่วงสี จ.ตราด

พรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์รวมข่าวภาคตะวันออก