กาฬสินธุ์ร้อนแล้งจัดพืชสวนพืชไร่แห้งตายเตือนลมกระโชกแรง

สภาพอากาศที่จังหวัดกาฬสินธุ์ร้อนแล้ง แหล่งกักเก็บน้ำทั่วไปแห้งขอด พืชสวน พืชไร่ เริ่มแห้งตาย สัตว์เลี้ยงเริ่มผอมโซ ขาดแคลนอาหาร ขณะที่เกษตรกรในเขตชลประทาน แสดงความเห็นใจเกษตรกรนอกเขตชลประทานที่ประสบภัยแล้ง วอนหน่วยงานรัฐจัดงบประมาณสนับสนุนบ่อบาดาล ด้านผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยากาฬสินธุ์ เตือนประชาชนระวังอันตรายจากสภาพอากาศวิปริต ลมกระโชกแรงและฝนตก ฟ้าคะนอง รวมทั้งอาการฮีตสโตรกจากสภาวะอากาศที่ร้อนจัด

วันที่ 23 เมษายน 2566 จากการติดตามสภาพอากาศที่ จ.กาฬสินธุ์ ในช่วงฤดูแล้งทั้ง 18 อำเภอ โดยฝนทิ้งช่วงไปนานกว่า 5เดือน พบว่ากำลังประสบปัญหาเดียวกันคืออากาศร้อนจัด แหล่งน้ำบนดินแห้งขอด แหล่งน้ำใต้ดินเริ่มขาดแคลน พืชสวน พืชไร่ แห้งตาย อาหารสัตว์เลี้ยงไม่เพียงพอ ร่างกายเริ่มผอมโซ แม้แต่พื้นที่ใช้น้ำชลประทาน พืชสวนพืชไร่ ยังถูกเปลวแดดแผดเผาจนเกรียมไหม้ พืชผลได้รับความเสียหาย


นายสนิท ภูสมหมาย ประธานกลุ่มเกษตรอินทรีย์ ต.นาดี อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากสภาพอากาศที่ร้อนจัด ส่งผลให้พืชชนิดต่างๆ ที่ปลูกไว้ได้รับผลกระทบ และต้องการน้ำในการหล่อเลี้ยง เพื่อดูดซับอาหารและให้ความสดชื่น เนื่องจากในพื้นที่มีการเพาะปลูกข้าวนาปรังบริเวณกว้าง ขณะที่การระบายน้ำของโครงการชลประทานมีปริมาณจำกัด บางช่วงปิดการส่งน้ำ ทำให้พืชที่ปลูกไว้ได้รับน้ำไม่ต่อเนื่อง โชคดีที่ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.กาฬสินธุ์ จัดงบประมาณขุดบาดาลพลังงานแสงอาทิตย์ให้ จึงมีน้ำบริหารจัดการในแปลงเกษตร รวมทั้งกระจายน้ำให้กับพี่น้องเกษตรกรพื้นที่ใกล้เคียงประมาณ 50 ไร่ บรรเทาความเดือดร้อนได้เป็นอย่างดี


นายสนิทยังกล่าวอีกว่า ในนามประธานกลุ่มเกษตรอินทรีย์ และเป็นเกษตรคนหนึ่ง รู้สึกเห็นอกเห็นใจเพื่อนเกษตรกรที่อยู่นอกเขตชลประทาน ที่ขาดแคลนน้ำ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการเกษตร แต่เสียโอกาสในการทำเกษตรและสร้างรายได้ในช่วงฤดูแล้ง จึงอยากวิงวอนหน่วยงานภาครัฐ จัดงบประมาณดำเนินการขุดเจาะบ่อบาดาลให้พี่น้องเกษตรกรชาว จ.กาฬสินธุ์ โดยเฉพาะนอกเขตชลประทานอย่างทั่วถึงด้วย เพื่อที่จะได้มีผลผลิตออกสู่ผู้บริโภค ตามโครงการกาฬสินธุ์กรีนมาร์เก็ต โดยเฉพาะเกษตรกร ชาวบ้าน ชุมชน มีรายได้ ที่จะเป็นการแก้ไขปัญหาการว่างงานและขจัดความยากจนได้เป็นอย่างดี เพราะเมื่อมีน้ำ ก็มีงาน มีเงิน


ด้านนายมะณี อุทรักษ์ ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยากาฬสินธุ์ กล่าวว่าในช่วงนี้ถือเป็นช่วงที่ต้องเฝ้าระวังในเรื่องของสภาพอากาศวิปริตแปรปรวน ที่เรียกกันว่าพายุฤดูร้อน จึงประกาศเตือนประชาชนระวังอันตรายจากกระแสลมกระโชกแรงฝนตก ฟ้าคะนอง และฟ้าผ่า รวมทั้งอาการฮีตสโตรกจากสภาวะอากาศที่ร้อนจัด นอกจากนี้ในส่วนของอาคาร บ้านเรือน พืชผลทางการเกษตร ก็ต้องระวังความเสียหายจากพายุลมแรงเช่นกัน ควรตรวจสอบความมั่นคงทั้งตัวบ้าน หลังคา หาวิธีป้องกันก่อนเกิดความเสียหาย และรับฟังข่าวสารพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิดด้วย
***เสียง***นายสนิท ภูสมหมาย ประธานกลุ่มเกษตรอินทรีย์