ขอนแก่น-คนอีสานไม่เอา!บุหรี่ไฟฟ้า

รวมพลังภาคีเครือข่ายควบคุมยาสูบ 20 จังหวัดภาคอีสาน ร่วมประกาศเจตนารมณ์ “คนอีสานไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า”ย้ำจุดยืน คนอีสานจะร่วมมือกันรณรงค์ป้องกันประชาชนภาคอีสานทุกคน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน ให้ปลอดพ้นจากการเสพติดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าทุกรูปแบบ


เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 21 เมษายน 2566 ที่ห้องออคิดบอลรูม โรงแรมพูลแมนขอนแก่น ราชา ออคิด จ.ขอนแก่น  นายพันธ์เทพ เสาโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานเปิดประกาศเจตนารมณ์คนอีสานไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า”ภาคีเครือข่ายควบคุมยาสูบ 20 จังหวัดภาคอีสาน โดยมี นพ.อภิชัย ลิมานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น ,นพ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จังหวัดขอนแก่น, ตัวแทนสื่อมวลชนศูนย์ข่าวปลอดควันภาคอีสาน, ตัวแทนเครือช่ายครูเพื่อโรงเรียนปลอดบุหรี่, ตัวแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นปลอดบุหรี่, ตัวแทนเยาวชน Gen Z Gen Strong เลือกไม่สูบ และตัวแทนผู้รับผิดชอบงานด้านควบคุมยาสูบจังหวัดต่าง ๆ กว่า 200 คน ร่วมประกาศเจตนารมณ์ “คนอีสานไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า” ในงานสัมมนาเรื่อง “คนอีสานไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า” ซึ่งจัดขึ้นที่ โรงแรมพูลแมนขอนแก่น ราชา ออคิด จ.ขอนแก่น ย้ำจุดยืน คนอีสานจะร่วมมือกันรณรงค์ป้องกันประชาชนภาคอีสานทุกคน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน ให้ปลอดพ้นจากการเสพติดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าทุกรูปแบบ


นายพันธ์เทพ เสาโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นประธานในการประกาศเจตนารมณ์ “คนอีสานไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า” ครั้งนี้ การระดมทุกภาคส่วนของภาคีเครือข่ายควบคุมยาสูบ 20 จังหวัดภาคอีสาน ให้มาร่วมกันรณรงค์ป้องกันการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้ากับกลุ่มเด็กและเยาวชนถือเป็นวาระแห่งชาติ ที่จะต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน เนื่องจากปัญหาการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าขยายวงกว้างไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มเด็กและเยาวชน โดยคำประกาศเจตนารมณ์ “คนอีสานไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า” มีแนวทางดังนี้1. พวกเราจะร่วมมือกันรณรงค์ป้องกันประชาชนภาคอีสานทุกคน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน ให้ปลอดพ้นจากการเสพติดบุหรี่ไฟฟ้าทุกรูปแบบ 2.พวกเราจะร่วมกันสร้างพื้นที่ปลอดภัย โดยเฉพาะในโรงเรียน และสถานศึกษาทุกระดับ เพื่อป้องกันการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์ยาสูบทุกชนิดของเด็กและเยาวชนภาคอีสาน โดยการบังคับใช้กฎหมายการห้ามจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเคร่งครัด


3.พวกเราจะร่วมกันสื่อสารข้อมูล เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับประชาชนภาคอีสาน ได้รับรู้ถึงอันตรายของการเสพติดบุหรี่ไฟฟ้า และรู้เท่าทันกลยุทธ์ของอุตสาหกรรมยาสูบ 4.พวกเราจะร่วมกันสร้างกลไกขับเคลื่อนงานของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมให้เกิดการเชื่อมประสานการทำงานในเรื่องนี้อย่างเป็นรูปธรรมต่อเนื่อง 5.พวกเราจะดำเนินการป้องกันการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าให้เป็นวาระแห่งชาติ และประกาศเจตจำนงที่ชัดเจนในการสนับสนุนให้รัฐบาลคงนโยบาย และมาตรการในการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดไว้


ด้าน ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ ประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เปิดเผยว่า จากการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี พ.ศ.2564 พบว่า อัตราการสูบบุหรี่ของประชากรไทยอายุ 15 ปีขึ้นไปลำสุด เท่ากับร้อยละ 17.4 มีจำนวนผู้สูบบุหรี่เท่ากับ 9.9 ล้านคน หากมองภาพรวมของประเทศลดลงจากรอบสำรวจที่ผ่านมา แต่ที่ยังนำเป็นห่วง คือ อัตราการสูบบุหรี่ของภาคอีสานสูงเป็นอันดับสองของประเทศไทยรองจากภาคใต้ และยังมีปัญหาการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าขยายวงกว้างไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มเด็กและเยาวชน ซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่เด็กและเยาวชนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า จะเกิดการเสพติดนิโคตินสารเสพติดตัวเดียวกันกับที่มีอยู่ในบุหรี่ธรรมดาไปตลอดชีวิต


ถึงแม้ว่าขณะนี้ ประเทศไทยได้มีประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้บารากู่และบารากูไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ.2557 และ ประกาศของคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค คำสั่งที่ 9/2558 เรื่อง ห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้า “บารา บารากูไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู น้ำยา สำหรับเดิมบารากูไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า” แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวยังมีปัญหาทำให้บุหรี่ไฟฟ้าสามารถเช้าถึงได้ง่ายทั้งทางตรงและออนไลน์ และที่สำคัญอุตสาหกรรมยาสูบได้พยายามอย่างมากในการวิ่งเต้น ผ่านผู้กำหนดนโยบายเพื่อให้ยกเลิกกฎหมายข้างต้น ซึ่งบทเรียนจากหลายประเทศที่ไม่ได้ห้ามขายบุรี่ไฟฟ้า ต้องประสบปัญหาอัตราการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มเด็กและเยาวชนเพิ่มสูงขึ้นอย่างนำเป็นห่วง จนเป็นสาเหตุให้หลาย ๆ ประเทศต้อง ออกกฎหมายห้ามบุหรี่ไฟฟ้า


ซึ่งจากข้อมูลผลการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี 2564 พบว่า ประชากรไทยที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า มีจำนวน 78,7 42 คน คิดเป็นอัตรา 0.14% ของประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไป ที่มีจำนวนทั้งหมด 57 ล้านคน เป็นคนที่สูบทุกวัน 40, 724 คน และสูบแบบไม่ทุกวัน 38,018 คน โดยผู้ที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า 24,050 คน อายุระหว่าง 15-24 ปีในขณะที่ภาคอีสาน มีผู้สูบบุหรี่ทั้งสิ้น 2.7 ล้านคน คิดเป็น 18.0% ของประชากร ภาคอีสานทั้งหมด และสถานการณ์การสูบบุหรี่ไฟฟ้าในเด็กและเยาวชนเริ่มแพร่ระบาดอย่างหนัก เด็กและเยาวชนเริ่มสูบบุหรี่ไฟฟ้ากันอย่างเปิดเผยดังที่กล่าวข้างต้น ซึ่งหากมีการยกเลิกกฎหมายห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้า จะทำให้การแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าในเด็กและเยาวชนยิ่งรุนแรงมากขึ้น


ศ.นพ.ประกิต กล่าวเพิ่มเติมว่า การสัมมนาเรื่อง “คนอีสานไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า” วันนี้ มีตัวแทนภาคีเครือข่ายควบคุมยาสูบจากทุกภาคส่วนในภาคอีสานเข้าร่วม อาทิ นพ.อภิชัย ลิมานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น ,นพ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จังหวัดขอนแก่น, ตัวแทนสื่อมวลชนศูนย์ข่าวปลอด
ควันภาคอีสาน, ตัวแทนเครือช่ายครูเพื่อโรงเรียนปลอดบุหรี่, ตัวแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นปลอดบุหรี่, ตัวแทนเยาวชน Gen Z Gen Strong เลือกไม่สูบ และตัวแทนผู้รับผิดชอบงานด้านควบคุมยาสูบจังหวัดต่าง ๆ ดังนั้น ตนจึงขอเชิญชวนทุกท่าน ร่วมกันสื่อสารให้ประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจในอันตรายของการเสพติดบุหรี่ไฟฟ้า และแสดงเจตจำนงในการร่วมกันปกป้องเดีก เยาวชน และคุ้มครองสุขภาพของคนอีสานให้ปลอดพันจากการเสพติดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า.