โจรใต้ป่วนแว้งยิง ชคต.และวางระเบิด ตชด.เสีย 1 สาหัส 1

โจรใต้ป่วนแว้งยิง ชคต.และวางระเบิด ตชด.เสีย 1 สาหัส 1


เมื่อเวลา 05.30 น. วันที่ 20 เม.ย.66 ร.ต.อ.เกียรตินรินทร์ ขาวอ่อน รองสารวัตรสอบสวน สภ.แว้ง จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิงก่อกวนใส่ ฐานปฏิบัติการชุดคุ้มครองตำบลไม้ฝาด ซึ่งตั้งอยู่หลังโรงเรียนบ้านไม้ฝาด ม.8 ต.กายูคละ จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.สมใจ สิงห์เกลี้ยง ผกก.สภ.แว้ง และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบ พบว่า ไม่มีทรัพย์สินและผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีคนร้าย จำนวน 2 คน ขี่รถ จยย.เป็นพาหนะ เมื่อผ่านบริเวณถนนหน้า ชคต.คนร้ายที่นั่งซ้อนท้าย ได้ใช้อาวุธปืนพกไม่ทราบชนิดและขนาดยิงใส่เข้าไปในฐาน ชคต. จำนวน 3 นัด แล้วรีบขี่รถ จยย.หลบหนี โดยในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ไม่สามารถตรวจสอบพบหลักฐานใดๆของคนร้าย และไม่มีทรัพย์สินใดๆรวมทั้งกำลังพลได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเชื่อว่า เป็นฝีมือการกระทำของสมาชิกแนวร่วมผู้ก่อเหตุรุนแรง เพื่อสร้างสถานการณ์ร้ายรายวันให้เกิดขึ้น


ต่อมาเวลา 10.45 น. พ.ต.อ.สมใจ สิงห์เกลี้ยง ผกก.สภ.แว้ง รับแจ้งมีเหตุเจ้าหน้าที่ชุดเฝ้าตรวจชายแดนที่ 4410 สังกัด ตชด.446 อ.แว้ง ถูกคนร้ายลอบวางระเบิดได้รับบาดเจ็บสาหัส เกิดเหตุริมถนนเลียบแม่น้ำโก-ลก สายทางเข้าบ้านตอออ ม.1 ต.กายูคละ ซึ่งห่างจากฐาน ขคต.กายูคละ ประมาณ 500 เมตร จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมใช้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกายูคละ เปิดเป็นศูนย์ประเมินสถานการณ์ร่วมกับ พ.อ.ภาคิน เกื้อกูล ผบ.ฉก.ทพ.48 และเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ.กองกำกับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และได้ลงความเห็นว่า เหตุการณ์ดังกล่าวกลุ่มคนร้ายน่าจะมีการวางแผนเพื่อดักสังหารซ้ำเจ้าหน้าที่ขณะเดินทางเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ

จึงต้องงดเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ เพื่อรอยุทโธปกรณ์ที่เหมาะสม เพื่อเป็นการป้องกันและรักษาชีวิตเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง แถมผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสทั้ง 2 นาย ถูกเพื่อน ตชด.ได้นำส่งรักษาที่โรงพยาบาลไปก่อนหน้าแล้ว ประกอบด้วย ส.ต.ต.นันทยศ ชูดวง 23 ปี ซึ่งถูกสะเก็ดระเบิดที่ข้อเท้าซ้ายหัก รวมทั้งตามร่างกายอีกหลายแห่ง ส่งรักษาที่โรงพยาบาลแว้ง และได้เสียชีวิตต่อมา ส่วน ส.ต.ต.รามวรุฒ โอกาส 24 ปี ถูกสะเก็ดลำคอ หน้าอกทะลุปอด อาการสาหัส ส่งรักษาที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก โดยที่ไม่มีความจำเป็นต้องเสี่ยงเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุในวันนี้


และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้อากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรน บินสำรวจบริเวณจุดเกิดเหตุและตามถนนเส้นทางดังกล่าว ที่ 2 ข้างทางเป็นป่าและสวนปาล์ม โดยไม่มีบ้านเรือนของประชาชนปลูกสร้างไว้แต่อย่างใด โดยจุดเกิดเหตุ พบว่ามีเสาไฟฟ้าริมถนนหักโคนขวางถนน จำนวน 1 ต้น โดยที่โคนเสาไฟฟ้ามีร่องรอยถูกอนุภาพของระเบิดเตียนโล่งเป็นรัศมีกว้าง ประมาณ 1 เมตร และห่างไปประมาณ 30 เมตร พบรถจยย.วิบากสีแดงของเจ้าหน้าที่ 2 คัน โดยจอดอยู่ริมถนน จำนวน 1 คัน และล้มตะแคงริมถนนอีก 1 คัน


และจากสภาพดังกล่าวเจ้าหน้าที่ประเมินว่า คนร้ายได้ใช้ระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบใส่ไว้ในถังแก๊สปิกนิก หนัก 25 ก.ก. ไม่ทราบตัวจุดชนวน ไปวางไว้บริเวณโคนเสาไฟฟ้า แล้วกลุ่มคนร้ายได้ดักซุ่มอยู่ในป่า เมื่อเจ้าหน้าที่ชุดเฝ้าตรวจชายแดน ขี่รถ จยย. 3 คัน รวม 6 นาย ไล่หลังกันมา เพื่อลาดตระเวนตรวจสอบพื้นที่รับผิดชอบ เมื่อรถ จยย.คันแรกของเจ้าหน้าที่ผ่านจุดเกิดเหตุ คนร้ายที่แฝงตัวอยู่ได้จุดชนวนระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ส่งผลทำให้ ส.ต.ต.นันทยศ ซึ่งทำหน้าที่ขี่รถ จยย.และ ส.ต.ต.รามวุฒ ซึ่งนั่งซ้อนท้าย ได้รับบาดเจ็บ ดังกล่าว ส่วนเพื่อนที่ขี่และซ้อนท้าย รถจยย.ตามไล่หลังมาปลอดภัย และได้ประสานไปยังฐานฯชุดเฝ้าตรวจชายแดนที่ 4410 นำยานพาหนะมารับผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลดังกล่าว
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เชื่อว่า เป็นฝีมือการกระทำของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ที่สร้างสถานการณ์เพื่อดักสังหารเจ้าหน้าที่ในช่วง 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฎอน หรือ ละศีลอด

 

ภาพ/ข่าว มาหามะ ดือเลาะ นราธิวาส ทีมข่าว ปรีชา สถิตเรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา