กาฬสินธุ์ปปช.สอบซ้ำ3ตำรวจสืบเมืองกาฬสินธุ์คดีรีดเงินยาบ้า

ผอ.ปปช.กาฬสินธุ์เข้าติดตามคดีตำรวจชุดสืบสวนสภ.เมืองกาฬสินธุ์เรียกรับเงินจากญาติผู้ต้องหาคดียาเสพติด 5 แสนบาท เนื่องจากเป็นคดีที่เกี่ยวกับการทุจริตต่อหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ ระบุ หากผิดจริงมีโทษหนักสูงสุดจำคุกถึง 20 ปี

 


ความคืบหน้ากรณีตำรวจชุดสืบสวนสภ.เมืองกาฬสินธุ์ 3 นาย ถูกตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์จับกุมคาห้องสืบสวนภายในโรงพัก สภ.เมืองกาฬสินธุ์ หลังร่วมกันเรียกรับเงินจากญาติผู้ต้องหาคดียาเสพติด 5 แสนบาท แลกกับการไม่ดำเนินคดี ซึ่งหลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ สั่งการให้ดำเนินการขั้นเด็ดขาด และเบื้องต้นมีคำสั่งให้ออกราชการไว้ก่อน 3 ราย ส่วนอีก 8 นายที่ถูกซัดทอดอยู่ระหว่างการชี้ตัวยืนยันจากผู้เสียหาย


ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 27 มีนาคม 2566 ที่สำนักงานตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ ว่าที่ร้อยตรีสมบูรณ์ หัสดม ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.กาฬสินธุ์เข้าติดตามคืบหน้าของคดีดังกล่าว โดยมี พ.ต.อ.สมพงศ์ มั่นหมาย รองผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์รายงานความคืบหน้า ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตั้งกรรมการสอบวินัยตำรวจทั้ง 3 นาย พร้อมมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ส่วนเรื่องคดีอาญาได้สอบปากคำแล้ว และอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานส่งให้กับ ป.ป.ช.ต่อไป


โดยว่าที่ร้อยตรีสมบูรณ์ หัสดม ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำ จ.กาฬสินธุ์ ระบุว่า วันนี้ได้เข้ามาติดตามความคืบหน้าคดีกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.เมืองกาฬสินธุ์มีการเรียกรับเงินเกี่ยวกับคดียาเสพติด เนื่องจากเรื่องดังกล่าวเป็นคดีที่เกี่ยวกับการทุจริตต่อหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ สังคมและประชาชนให้ความสนใจ ซึ่งจากการสอบถามทราบว่า ขณะนี้ได้มีการสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นแล้ว ปรากฏว่ามีผู้ถูกกล่าวหาเป็นตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ 3 ราย ประกอบด้วย ยศ ด.ต. อายุ 27 ปี, ยศ ส.ต.อ. อายุ 30 ปี และ ยศ ส.ต.อ. อายุ 27 ปี 3 ราย และอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน และจะนำสำนวนส่งสำนักงาน ป.ป.ช.กาฬสินธุ์ จากนั้นทาง ป.ป.ช.กาฬสินธุ์จะส่งเรื่องไปยัง ป.ป.ช.ส่วนกลาง เพื่อพิจารณาตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวนเรื่องดังกล่าว ซึ่งหากผลการสอบพบว่ามีการกระทำผิดจริงก็จะถูกลงโทษตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ความผิดเกี่ยวกับการทุจริตต่อหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐนั้นมีโทษหนักสุดถึงขั้นจำคุก 20 ปี


อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวได้พยายามเข้าสอบถามความคืบหน้าของคดีกับ พ.ต.อ.อิทธเดช สุนทร ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ในฐานะผู้บังคับบัญชาโดยตรงและหัวหน้าสถานี โดย พ.ต.อ.อิทธเดช ระบุว่า เรื่องดังกล่าวตนไม่ขอพูด และให้ไปสอบถามกับทางผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์
ทั้งนี้มีรายงานว่า พ.ต.อ.ชัยพร พงษ์ศักดิ์ รองผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ซึ่งดูแลเรื่องการสอบสวน ได้ประชุมร่วมกับ พ.ต.ท.สุเทพ ภูกัณหา รองผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน พร้อมด้วยพนักงานสอบสวนสภ.เมืองกาฬสินธุ์เจ้าของคดีประชุม เพื่อวางแนวทางการสอบสวนในคดีดังกล่าว แต่ไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปในห้องประชุม


โดยพ.ต.ท.สุเทพ ภูกัณหา รองผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ระบุว่า สำหรับความคืบหน้าของคดีหลังเกิดเหตุ พนักงานสอบสวนได้สอบปากตำรวจชุดสืบสวนทั้ง 3 นายแล้ว ซึ่งทั้ง 3 ให้การปฏิเสธ ไม่ให้การในชั้นสอบสวน และขอให้การในชั้นศาล และได้ตำแหน่งประกันตัวออกไป ซึ่งเป็นสิทธิของผู้ต้องหา แต่เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา เป็นเจ้าพนักงานร่วมกัน เรียก รับ หรือยอมรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่, เป็นเจ้าพนักงานหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน คาดว่าจะสามารถสรุปสำนวนส่งให้กับอัยการและป.ป.ช.ได้ภายในสัปดาห์นี้


พ.ต.ท.สุเทพ ระบุอีกว่า ในส่วนตำรวจชุดสืบสวนที่ถูกกล่าวหาและซัดทอดว่ามีส่วนร่วมในวันที่ถูกจับอีก 8 นายนั้น ขณะนี้ยังเป็นผู้ถูกกล่าวหา เบื้องต้นเป็นการสอบถามขยายผลในวันจับกุม จึงยังไม่ได้เรียกตัวมาสอบปากคำ และยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับใครเพิ่ม อีกทั้งต้องรอสอบปากคำผู้เสียหายและให้ผู้เสียหายมาชี้ภาพยืนยันว่ามีใครบ้างที่ส่วนร่วมจริงหรือไม่ ซึ่งขณะนี้กำลังรวบรวมพยานหลักฐาน และจะประสานผู้เสียหายมาสอบและชี้ภาพยืนยันในเร็วๆนี้ อย่างไรก็ตามในส่วนของกลางยาบ้า 2,000 เม็ด ที่มีการกล่าวอ้างว่าจับมานั้นเบื้องต้นเท่าที่ตรวจสอบยังไม่พบของกลางและไม่มีบันทึกจับกุม