พิจิตร-บิ๊กป้อมบุกเมืองชาละวันนำทีมพลังประชารัฐจัดเวทีปราศรัยเปิดตัวผู้สมัคร3เขตลงสู้ศึกเลือกตั้ง

ลุงป้อมยกทัพนำทีมขุนพลพลังประชารัฐเปิดเวทีปราศรัยพร้อมเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.พิจิตรทั้ง 3 เขต ท่ามกลางอากาศที่ร้อนระอุแต่อุณหภูมิการเมืองที่เมืองชาละวันร้อนถึงขั้นปรอทแตก เมื่อผู้กองธรรมนัสให้คำยืนยันสู้ไม่ถอยชี้พิจิตรยุคนี้ไม่มีใครเป็นบ้านใหญ่แล้ว

วันเสาร์ที่ 25 มีนาคม 2566 ณ สนามวิทยาลัยเทคนิคพิจิตร พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้เดินทางพร้อมคณะมาเพื่อเปิดเวทีปราศรัยใหญ่เพื่อเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.พิจิตร ทั้ง 3 เขต ซึ่ง เขต 1 คือ นายพรชัย อินทร์สุข , เขต 2 คือ นางณริยา บุญเสรฐ , นายเอกวิชญ์ เรืองมาลัย “เจมส์” ( ซึ่งเป็นลูกเขยของเจ๊หนิง ประธานชมรมโรงสีพิจิตร) โดยมีกองเชียร์ที่เดินทางมาจาก 12 อำเภอ เกือบ 1 หมื่นคน ที่ขนกันมาร่วมฟังการปราศรัยในครั้งนี้กันอย่างคึกคักท่ามกลางอากาศของวันนี้ที่ร้อนระอุ อุณหภูมิสูงถึง 39 องศา

สำหรับผู้ปราศรัยประกอบด้วยผู้นำของพรรคพลังประชารัฐที่เป็นไฮไลท์ก็คงต้องยกให้ “ลุงป้อม” ที่กล่าวปราศรัยชูนโยบายก้าวข้ามความขัดแย้งขจัดทุกปัญหาพัฒนาทุกพื้นที่ โดยโฟกัสการพัฒนาแหล่งน้ำของจังหวัดพิจิตรและนโยบายบริหารจัดการน้ำและพืชผลทางการเกษตร รวมถึงการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอีกทั้งนโยบายสานต่อบัตรประชารัฐ 700 บาท เรียกเสียงปรบมือจากกองเชียร์ได้เป็นระยะๆ การใช้เวลาในการปราศรัยเริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงเวลา 17.30 น. – 18.15 น.

โดยมี ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังเสร็จสิ้นการปราศรัยว่ามั่นใจพรรคพลังประชารัฐและผู้สมัครทั้ง 3 เขต จะสามารถคว้าชัยชนะจากคะแนนเสียงที่ประชาชนจะมอบให้ เพราะในอดีตที่ผ่านมาพรรคพลังประชารัฐก็เป็นผู้มีชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อครั้งที่แล้วทั้ง 3 เขต ดังนั้นวิเคราะห์ว่าการแข่งขันครั้งนี้แข่งกันแค่เพียงผู้สมัครของ 3-4 พรรคใหญ่ ซึ่งก็คงหมายถึง ผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐ- พรรคเพื่อไทย – พรรคภูมิใจไทย- พรรครวมไทยสร้างชาติอีกทั้งยังบอกว่าผู้สมัครของทุกพรรคทุกคนตนเองต่างก็รู้จักดีทั้งนั้น แต่เมื่อลงสนามแข่งขันก็ต้องสู้กันให้เต็มที่ด้วยนโยบายเพื่อให้ประชาชนตัดสินใจ อีกทั้งยังกล่าวทิ้งท้ายว่า พิจิตรในยุคนี้ไม่มีใครเป็นบ้านใหญ่แล้ว ซึ่งเป็นนัยยะที่บ่งบอกถึงว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่มีการยำเกรงศักดิ์ศรีของใครใดๆทั้งสิ้น

สิทธิพจน์ พิจิตร